สมรรถนะในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคล ระดับแรงจูงใจ ระดับเจตคติในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และระดับสมรรถนะการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ และเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจ เจตคติ ในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)กับสมรรถนะการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ กลุ่มตัวอย่าง 175 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือวิจัยเป็นแบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นของเครื่องมือเท่ากับ 0.96 โดยวิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงพรรณนา ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และหาค่าความสัมพันธ์โดยใช้สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน
ผลการศึกษา พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลของกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงคิดเป็นร้อยละ 88.00 และเพศชายคิดเป็นร้อยละ 12.00 อายุสูงสุด 90 ปี อายุต่ำสุด 30 ปี และอายุเฉลี่ย 62.30 ปี ระดับการศึกษาส่วนใหญ่อยู่ในมัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. คิดเป็นร้อยละ 26.30 อาชีพส่วนใหญ่เป็นอาชีพงานบ้าน/ไม่ได้ประกอบอาชีพ คิดเป็นร้อยละ 46.90 มีรายได้เฉลี่ยสูงสุด 20,000 บาท รายได้เฉลี่ยต่ำสุด 1,600 บาท รายได้เฉลี่ย 5,950.57 บาท ส่วนใหญ่สถานภาพสมรส คิดเป็นร้อยละ 52.60 และระยะเวลาในการเป็นปฏิบัติงานสูงสุด 42 ปี ระยะต่ำสุด 1 ปี ระยะเวลาเฉลี่ย 12.30 ปี แรงจูงใจในการปฏิบัติงานอยู่ในระดับสูง (M = 4.40) เจตคติในการปฏิบัติงานอยู่ในระดับสูง (M = 4.54) และสมรรถนะในการปฏิบัติงานอยู่ในระดับสูง (M = 4.46) การวิเคราะห์ความสัมพันธ์พบว่า แรงจูงใจในการปฏิบัติงาน (r = 0.659) เจตคติในการปฏิบัติงาน (r = 0.536) มีความสัมพันธ์กับสมรรถนะในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ดังนั้นจึงควรสร้างแรงจูงใจพร้อมทั้ง การสร้างเจตคติที่ดีเพื่อส่งผลให้สมรรถนะในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทำได้อย่างต่อเนื่องและมีความสอดคล้องกับบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบตามที่กำหนด ไว้ในระเบียบกระทรวงสาธารณสุข
Downloads
เอกสารอ้างอิง
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข. (2549). หลักสูตรฝึกอบรมมาตรฐานอาสาสมัคร
สาธารณสุข (อสม.) ปีพุทธศักราช 2550, ค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2567, จาก https://bkpho.moph.go.th/bungkanpho/uploads/media/201801041041457781.pdf
งานสุขภาพภาคประชาชน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ. (2564). รายงานระบาดวิทยาโรค
ไข้เลือดออก ปี 2564. สมุทรปราการ. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ.
ฉลาด ภู่ระหงษ์, มาลี ไชย เสนา และกุลชญา ลอยหา. (2564). ศักยภาพการปฏิบัติงานตามบทบาทหน้าที่ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จังหวัดระยอง. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร, 9(1), 369-379.
ณฐนนท บริสุทธิ์. (2563). การศึกษาสถานการณ์และทิศทางการพัฒนา อสม. ในยุคประเทศไทย 4.0. นนทบุรี: กลุ่มพัฒนาสุขภาพภาคประชาชน กองสนับสนุนสุขภาพภาคประชาชน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ.
พารินทร์ แก้วสวัสดิ์. (2565). แรงจูงใจที่มีความสัมพันธ์กับสมรรถนะการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี. วารสารวิชาการทางการพยาบาลและวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 2(2), 22–33.
แพรวไหม ผดุงกลิ่น. (2565). แรงจูงใจที่มีผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุข ประจำหมู่บ้าน ตำบลน้ำอ่าง อำเภอตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์. วารสารเพชรบูรณ์เวชสาร, 2(3), 305-316.
พิไลลักษณ์ เจริญฤทธิ์, และสุรเดช สำราญจิตต์, ปร.ด. (2565). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ที่มารับบริการคลินิกความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลหาดสำราญเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง. (การศึกษาอิสระทางด้านบริหารสาธารณสุข ปริญญาสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารสาธารณสุข). มหาวิทยาลัยรามคำแหง, กรุงเทพฯ.
วิเชียร เทียนจารุวัฒนา, กิตติพร เนาว์สุวรรณ} และสายสมร วชิระประพันธ. (2564). แนวทางการพัฒนา อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) คุณภาพเพื่อสนับสนุนกำลังคนด้านสาธารณสุขสำหรับระบบสุขภาพในอนาคต. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 30(2), 353-366.
วิระดา เสือมาก, และประภาเพ็ญ สุวรรณ. (2566). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติงานตามบทบาทหน้าที่ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในพื้นที่เทศบาลตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต. วารสารสาธารณสุขและสุขภาพศึกษา, 3(2), 14 – 31.
วราเสฏฐ์ กลั่นหวาน, ภมร ขันธะหัตถ์, ธนิศร ยืนยง, (2565). เจตคติต่องานและคุณภาพชีวิตการทำงานที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ในจังหวัดนครปฐม. วารสารวิทยาลัยนครราชสีมา (สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์), 16(2), 269–283.
สรวุฒิ เอี่ยมนุ้ย. (2564). ปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติงานตามบทบาทอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านในการเฝ้าระวังและป้องกันโรคโควิด-19 อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย. วารสารสาธารณสุขและสุขภาพศึกษา, 1(2), 75-90.
Best, J.W. (1977). Research in Education. (3rd ed). Englewod Cliffs, NewJersey:Prentice Hall.
Bloom, B.S., Madaus, G.F. and Hasting’s, J.T. (1971). Evaluating to improve Learning. New York: Mc. Graw Hill Book Company.
Davies J.A. (1971). Elementary Survey Analysis. N.J., Prentice-Hall.
Krejcie, R.V., & D.W. Morgan. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607 – 610.
World Health Organization. (1988). From alma Ata to the year 2000: reflections at the midpoint. World Health Organization. ค้นเมื่อ 15 กรกฎาคม 2567, จาก https://iris.who.int/bitstream/handle/10665/39323/9241561246_eng.pdf?sequence=1Boromta
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสาธารณสุขมูลฐาน (ภาคกลาง)

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 6
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 6 และบุคลากรท่านอื่น ในศูนย์ฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว