ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ที่มารับบริการคลินิกโรคความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลนครปฐม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม

ผู้แต่ง

  • ปัณณทัต พุทธรักษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง
  • สุรเดช สำราญจิตต์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

คำสำคัญ:

พฤติกรรมการดูแลตนเอง, ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง

บทคัดย่อ

     การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา ระดับเจตคติเกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูง และระดับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง และศึกษา ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์และพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ที่มารับบริการคลินิกโรคความดันโลหิตสูง โดยเก็บข้อมูลกลุ่มตัวอย่าง 134 คนซึ่งซึ่งได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบมีระบบ โดยคำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่างของเครซี่และมอร์แกน (Krejci and Morgan, 1970 เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.88 วิเคราะห์โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปด้วย SPSS ข้อมูล การหาความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน           

       ผลการวิจัยพบว่า เจตคติเกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูงอยู่ระดับสูง (M = 4.37, SD = 0.39) และพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงอยู่ระดับสูง  (M = 3.97, SD = 0.52) ความสัมพันธ์ระหว่างเจตคติเกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูง ปัจจัยส่วนบุคคล เช่น อายุ รายได้ต่อเดือน ระยะเวลาการเจ็บป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง กับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ระดับปานกลาง (r = 0.319) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค. (2565). ประเด็นสารรณรงค์วันความดันโลหิตสูงโลก ปี 2565. ค้นเมื่อ19 สิงหาคม 2567, จาก http://www. thaincd.com/document/file/info/.../ประเด็นสารวันความดันโลหิตสูง_61.pdf. Thai.

กลุ่มงานควบคุมโรคไม่ติดต่อ. (2565). ระบบคลังข้อมูลสุขภาพข้อมูลรายงาน โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ประจำปี 2565.นครปฐม: สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม.

พิไลลักษณ์ เจริญฤทธิ์, และสุรเดช สำราญจิตต์, ปร.ด. (2566). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเอง ของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ที่มารับบริการคลินิกความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลหาดสำราญเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา อำเภอหาด สำราญ จังหวัดตรัง. การประชุมวิชาการระดับชาติ ประจำปี 2566: เรื่อง สาธารณสุขยุคใหม่เพื่อผู้สูงวัยใส่ใจเทคโนโลยีดิจิทัล (น. 616-625). กรุงเทพฯ: คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

ราชบัณฑิตยสถาน. (2556). พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 กรุงเทพมหานคร. ค้นเมื่อ 19 สิงหาคม 2567, จาก https://dictionary.orst.go.th/

ศศิธร ตันติเอกรัตน์. (2560). พฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ในโรงพยาบาลส่งเสริม สุขภาพตำบลบ้านน้ำคำ อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว. Humanities, Social Sciences and arts, 12(6), 2542-2556.

สุรเดช สำราญจิตต์. (2565). พฤติกรรมสุขภาพทางสาธารณสุข. เอกสารประกอบการสอนวิชา PHA6303 พฤติกรรมสุขภาพทางสาธารณสุข, กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง. (อัดสำเนา)

Best, John W. (1977). Research in Education. 3rd ed. Englewood Cliffs, New Jersey: Prentice Hall, Inc.

Bloom, B.S., Madaus, G.F. and Hasting’s, J.T. (1971). Evaluating to improve Learning. New York: Mc. Graw Hill Book Company.

Davies, J.A. (1971). Elementary Survey Analysis. New Jersey: Prentice Hall.

Krejcie, R.V.& Morgan, D.W. (1970). Determining sample sizes for research activities. Educational and Psychological Measurement. 30, 607-610

Likert, rensis. (1967). The Method of Constructing and Attitude Scale. In Reading in Fishbeic,M (Ed), Attitude Theory and Measurement. New York: Wiley & Son.

WHO. (1986). Ottawa Charter for Health Promotion. The First International Conference on Health Promotion: The movement towards a new public health. World Health Organization, Health and Welfare Canada, Canadian Public Health Association, Ottawa, Ontario

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-04-28

รูปแบบการอ้างอิง

1.
พุทธรักษา ป, สำราญจิตต์ ส. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ที่มารับบริการคลินิกโรคความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลนครปฐม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม. Prim. Health Care j (Cent. Edi) [อินเทอร์เน็ต]. 28 เมษายน 2025 [อ้างถึง 25 ธันวาคม 2025];39(1):27-35. available at: https://he05.tci-thaijo.org/index.php/Hss6/article/view/5577

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย