ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ในประชากร กลุ่มวัยทำงาน เขตสุขภาพที่ 6
คำสำคัญ:
พฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์, วัยทำงานบทคัดย่อ
ปัญหาสุขภาพของคนวัยทำงานในปัจจุบัน พบว่าประชากรวัยทำงานมีอัตราการป่วยที่เกี่ยวข้องกับการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ไม่เหมาะสม การศึกษานี้เป็นการศึกษาเชิงวิเคราะห์แบบย้อนหลัง เพื่อศึกษาพฤติกรรมสุขภาพของประชากรวัยทำงานอายุ 15-59 ปี และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมสุขภาพในประชากร วัยทำงานเขตสุขภาพที่ 6 กลุ่มตัวอย่างคือ ประชากรกลุ่มวัยทำงานอายุ 15-59 ปี เขตสุขภาพที่ 6 จำนวน 21,064 คนเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบเก็บข้อมูลทุติยภูมิในฐานข้อมูลสมุดสุขภาพประชาชน (H4U) ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2564 - พฤษภาคม 2565 วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และ หาความสัมพันธ์โดยใช้สถิติไคสแควร์
ผลการศึกษา พบว่ากลุ่มตัวอย่าง ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 68.3 อายุ 45 - 59 ปี ร้อยละ 46.2 อายุเฉลี่ย 41.46 ปี อายุต่ำสุด 15 ปี อายุสูงสุด 59 ปี อาชีพรับจ้าง ร้อยละ 26.7 มีพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ด้านการบริโภคผักร้อยละ 74.4 ด้านการเคลื่อนไหวออกแรง ร้อยละ 55.3 ด้านการนอน ร้อยละ 91.9 ด้านการแปรงฟัน ร้อยละ 73.4 และมีพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์โดยรวม 4 ด้าน ร้อยละ 36.4 พบปัจจัยที่มีความ
สัมพันธ์กับพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการบริโภคผัก ได้แก่ อายุ ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการเคลื่อนไหวออกแรง ได้แก่ เพศ ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการนอน ได้แก่ เพศ และอายุ และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการแปรงฟันได้แก่ เพศ
ข้อเสนอแนะการวิจัย ผลักดันนโยบาย/มาตรการด้านการบริโภคอาหารและการออกกำลังกายที่ถูกต้องผ่านคณะอนุกรรมการพัฒนาและขับเคลื่อนงานส่งเสริมสุขภาพ 5 กลุ่มวัย เขตสุขภาพที่ 6 และขับเคลื่อนสร้างความรอบรู้ด้านพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ในกลุ่มวัยทำงาน เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพดี ลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่อไป
Downloads
เอกสารอ้างอิง
Madrid-Valero, JJ. (2017). Age and gendereffects on the prevalence of poor sleepquality in the adult population Gaceta
sanitaria. Retrieved from https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S0213911116301182 (in Thai).
ฉวีวรรณ ศรีดาวเรือง. (2563). ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมการบริโภคอาหารและ การออกกำลังกาย ของผู้ใหญ่วัยกลางคนที่มีภาวะน้ำหนักเกินในชนบท. สืบค้นเมื่อ 1กุมภาพันธ์ 2566, จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/RHPC9Journal/article/view/245362/168233
นาฎอนงค์ แฝงพงษ์. (2560). ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพดานการออกกำลังกายของประชาชนตำบลขามใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี. สืบค้นเมื่อ วันที่ 1กุมภาพันธ์ 2566, จาก https://mis.ratchathani.ac.th/fi le_re/6zTquAmWed105637.pdf
พงศ์ปณต สมบูรณ์พงษ์กิจ. (2565). พฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์วัยทำงาน เขตสุขภาพที่ 2. สืบค้นเมื่อ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566, จากhttps://hpc2service.anamai.moph.go.th/researchhpc2/fi le/184.pdf
มงคล การุณงามพรรณ และคณะ. (2555). พฤติกรรมสุขภาพและภาวะสุขภาพของคนทำงานในสถานประกอบ การเขตเมืองใหญ่ กรณีศึกษาพื้นที่เขตสาธร กรุงเทพมหานคร. สืบค้นเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566, fi le:///C:/Users/Admin/Downloads/tanomsri,+Journal+manager,+mongkol5.pdf
วิชัย เอกพลากร. (บก.). (2557). การสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 5พ.ศ.2557. นนทบุรี: สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข.
วิลาวัลย์ อาธิเวช. (2558). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมด้านการออกกำลังกายของนักศึกษาระดับอุดมศึกษาในเขตจังหวัดอุบลราชธานี.มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล.อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิซซิ่ง จำกัด (มหาชน)
สมศักดิ์ หอมชื่น. (2552). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการออกกำลังกายของเจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญตะวันออกเฉียงเหนือ. วิทยานิพนธ์สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี.
สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ. (2560).รายงานภาวะโรคและการเจ็บของประชากรไทยพ.ศ.2557. นนทบุรี: เดอะกราฟิโกซิสเต็มส์จำกัด.
เสาวลักษณ์ บู่ทอง. (2565). สถานการณ์และแนวโน้มของพฤติกรรมสุขภาพที่พึงประสงค์ของวัยทำงานในเขตสุขภาพที่ 6 ปี พ.ศ. 2562 - 2564.สืบค้นเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2566, จาก https://he03.tci-thaijo.org/index.php/JODPC8/issue/view/80/74
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารสาธารณสุขมูลฐาน (ภาคกลาง)

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 6
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 6 และบุคลากรท่านอื่น ในศูนย์ฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว