การพัฒนารูปแบบการดำเนินงานการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพติดรองรับประมวลกฎหมายยาเสพติด กรณีศึกษาอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี
คำสำคัญ:
การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วย, ประมวลกฎหมายยาเสพติดบทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการดำเนินงานการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพติดให้สอดคล้องกับประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 โดยใช้แนวคิดการบริหารจัดการที่สร้างประสิทธิภาพ (POLC) กรณีศึกษาอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตอำเภอ (พชอ.) จำนวน 21 คน และแกนนำชุมชนตำบลท่าข้าม 50 คน โดยสุ่มแบบแบ่งชั้น เครื่องมือวิจัยประกอบด้วยแบบสอบถามและแบบประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบการดำเนินงาน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา และข้อมูลเชิงปริมาณด้วยความถี่ ร้อยละ และค่ามัธยฐาน
ผลการวิจัย
1.การวิเคราะห์สถานการณ์และการวางแผนแบบมีส่วนร่วม ปี พ.ศ. 2565–2566 พบว่าอัตราการเข้าสู่การบำบัดรักษายาเสพติดในอำเภอพนัสนิคมอยู่ที่ร้อยละ 1.17 และ 0.50 ตามลำดับ โดยมีผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตเวชร่วมด้วยจำนวนมาก พชอ. จึงเลือกตำบลท่าข้ามเป็นพื้นที่นำร่อง และจัดทำ MOU ร่วมกับแกนนำชุมชน 50 คน เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติด
2.การพัฒนารูปแบบการดำเนินงานใช้หลัก POLC ได้แก่ การวางแผน การจัดองค์กร ภาวะผู้นำ และการควบคุม ซึ่งอยู่ในระดับสูง มีการจัดทำโครงการต้นแบบ 5 โครงการ ได้แก่
(1) คัดกรองและค้นหาผู้ใช้ยาเสพติด พบผู้ใช้ 2 ราย ผู้เสพ 23 ราย ไม่มีอาการทางจิตเวช
(2) จัดกิจกรรมรณรงค์ “ชุมชนล้อมรักษ์” เพื่อสร้างความเข้าใจในชุมชน
(3) พัฒนาภาคีเครือข่าย อสม. และผู้ดูแล 566 คน ฝึกตรวจปัสสาวะ
(4) ส่งเสริมอาชีพและทักษะให้ผู้ผ่านการบำบัด 15 คน ติดตามผลผ่านโปรแกรม บสต.
(5) ติดตามผู้ผ่านการบำบัดภายใน 3 เดือน พบว่าร้อยละ 93.99 ไม่พบสารเสพติด มีอาชีพและสุขภาพจิตดีขึ้นจากการประเมิน 2Q
3.การประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ ผลการประเมินพบว่าแนวทางทั้งหมดมีความเหมาะสมและความเป็นไปได้สูง โดยมีค่ามัธยฐานเกิน 3.5 (ร้อยละ 100)
4. ข้อเสนอแนะ ควรขยายผลรูปแบบการมีส่วนร่วมนี้ไปยังทุกตำบลในอำเภอพนัสนิคม เพื่อสร้าง Best Practice “ชุมชนล้อมรักษ์” ที่เหมาะสมกับบริบทพื้นที่ ลดจำนวนผู้เสพยาเสพติด ป้องกันการกลับไปใช้ซ้ำ และส่งเสริมให้ผู้ป่วยจิตเวชได้รับการรักษาต่อเนื่องจนสามารถกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติ
Downloads
เอกสารอ้างอิง
United Nations Office on Drugs and Crime. (2022). World Drug Report 2022. United Nations Publications.
กรมสุขภาพจิต.(2564) คู่มือแนวทางการดำเนินงานด้านบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดสุรา/ยา/สารเสพติด ที่มีอาการทางจิตและโรคร่วมทางจิตเวช.นนทบุรี:ผู้แต่ง.
กระทรวงยุติธรรม. (2564). ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564. สถานที่พิมพ์:สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม.
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา. (2549). พระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา.
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด. (2561). รายงานสถานการณ์ยาเสพติดในประเทศไทย ปี 2561. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด.
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด. (2562). รายงานการสำรวจครัวเรือนเพื่อคาดประมาณจำนวนประชากรผู้ใช้สารเสพติด.กรุงเทพมหานคร:
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด.
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี. (2566). รายงานสถิติผู้เข้ารับการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด จังหวัดชลบุรี ปี 2565–2566. ชลบุรี: กลุ่มงานควบคุมโรคไม่ติดต่อ
สุขภาพจิตและยาเสพติด.
ณัฐนนท์ เส้งวั่น. (2564). การประยุกต์ใช้กรอบการบริหารจัดการแบบ P-O-L-C เพื่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน: กรณีศึกษาศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา,พระนครศรีอยุธยา.
ปรัชญานี คำเหลือ และพงศนาถ หาญเจริญพิพัฒน์. (2566). การพัฒนารูปแบบการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาและสารเสพติดระยะกลาง โดยชุมชนมีส่วนร่วม อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ. วารสารวิจัยและพัฒนาสุขภาพศรีสะเกษ, 2(3), 115–128.
สันติ โพธิ์ทอง และมนัชญา เสรีวิวัฒนา. (2567). ผลของการพัฒนารูปแบบการบำบัดรักษาผู้ติดสารเสพติดโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน จังหวัดนนทบุรี. วารสารวิชาการสุขภาพจิตชุมชน, 12(1), 45–58.
จิราภรณ์ ศรีสุวรรณ. (2563). การพัฒนารูปแบบการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน. วารสารวิจัยสังคม, 22(1), 45–60
ธนกร พิทักษ์ธรรม. (2561). การประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของรูปแบบการจัดการสุขภาพจิตในชุมชน. วารสารบริหารและพัฒนา, 18(2), 33–47.
สุภาวดี แสงทอง. (2562). การมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการปัญหาพฤติกรรมเสี่ยงของเยาวชนในพื้นที่ชายแดน. วารสารสาธารณสุขชุมชน, 15(3), 21–35.
พิเชฐ บัญญัติ. (2548). POLC:หน้าที่หลักทางการบริหาร.สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2568, จาก https://www.gotoknow.org/posts/6505
Wandersman, A., & Florin, P. (2003). Community interventions and effective prevention. American Psychologist, 58(6–7), 441–448. สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2568,จาก https://doi.org/10.1037/0003-066X.58.6-7.441
HR NOTE. (2562). Polc–ทฤษฎีการจัดการที่สร้างประสิทธิภาพให้กับองค์การ. สืบค้นเมื่อ 10มิถุนายน2568,จากhttps://th.hrnote.asia/orgdevelopment/190619--polc-management-concept/
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสาธารณสุขมูลฐาน (ภาคกลาง)

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 6
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 6 และบุคลากรท่านอื่น ในศูนย์ฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว