วารสารพุทธสุขภาวะศึกษาและสังคมศาสตร์
https://he05.tci-thaijo.org/index.php/JBHES
<p> วารสารพุทธสุขภาวะศึกษาและสังคมศาสตร์รับตีพิมพ์และเผยแพร่ผลงานทางวิชาการในสาขาที่เกี่ยวกับด้านศาสนา ปรัชญา สุขภาพ ศึกษาศาสตร์ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ และการบริหารจัดการทางสังคม บทความที่ได้รับตีพิมพ์จะต้องได้รับความเห็นชอบจากกองบรรณาธิการก่อนตีพิมพ์ และได้ผ่านการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) จำนวนไม่น้อยกว่า 3 ท่าน ที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง ในลักษณะปกปิดรายชื่อ (Doubleblind Peer Review) ลักษณะของบทความที่จะนำลงตีพิมพ์ ได้แก่ บทความวิจัย (Research Article) บทความวิชาการ (Academic Article) บทความปริทรรศน์หรือบทวิจารณ์วรรณกรรม (Review Article) บทวิจารณ์หนังสือ (Book Review)</p> <p><strong>ค่าธรรมเนียมและการชำระค่าตีพิมพ์เผยแพร่บทความ</strong></p> <p><strong> ไม่มีค่าธรรมเนียมการตีพิมพ์</strong></p>
สมาคมกู้ภัยเขวาสินรินทร์กตัญญูสุรินทร์
th-TH
วารสารพุทธสุขภาวะศึกษาและสังคมศาสตร์
3088-1439
-
ผลกระทบจากนโยบายการจัดระเบียบการค้าหาบเร่แผงลอยในพื้นที่เขตทุ่งครุกรุงเทพมหานคร
https://he05.tci-thaijo.org/index.php/JBHES/article/view/5440
<p> การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลกระทบจากนโยบายการจัดระเบียบการค้าหาบเร่แผงลอย และปัญหาอุปสรรคและแนวทางการจัดระเบียบการค้าหาบเร่แผงลอยในพื้นที่เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ การเก็บรวบรวมข้อมูลจากการใช้แบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้ค้าหาบเร่ แผงลอยนอกจุดผ่อนผันในพื้นที่เขตทุ่งครุกรุงเทพมหานครจำนวน 180 คนสถิติที่ใช้เชิงพรรณนาจากค่าสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลกระทบ จากนโยบายการจัดระเบียบการค้าหาบเร่แผงลอยในพื้นที่เขตทุ่งครุกรุงเทพมหานคร ในภาพรวมค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เมื่อเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยได้แก่ ด้านสภาพพื้นที่ ด้านอาชีพ และด้านรายได้ตามลำดับ 2) ปัญหาและอุปสรรคจากการนำนโยบายการจัดระเบียบการค้าหาบเร่แผงลอยไปปฏิบัติในพื้นที่เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร พบว่า ผู้ค้าไม่ให้ความร่วมมือในการจัดระเบียบเท่าที่ควร เนื่องจากขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องข้อกฎหมาย ประกอบกับทำการค้าในลักษณะนี้มาเป็นเวลานานและไม่มีอาชีพอื่นรองรับ อีกทั้งพื้นที่การค้าแห่งใหม่ที่สำนักงานเขตจัดให้ไม่ตอบสนองทั้งด้านการเดินทางและอยู่ห่างไกลจากย่านเศรษฐกิจ ทำให้รายได้ลดลงกว่าการขาย ณ จุดเดิม 3) ข้อเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงแก้ไขจากผลกระทบ ได้แก่ ควรจัดประชุมระหว่างฝ่ายเทศกิจกับผู้ค้าเพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและทำความเข้าใจกับผู้ค้าในแง่มุมกฎหมายและมาตรการเยียวยาผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบ อีกทั้งควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะอาชีพในด้านอื่นๆ เพิ่มเติม รวมถึงควรจัดหาสถานที่แห่งใหม่ที่ใกล้เคียงกับสถานที่เดิม และประชาสัมพันธ์ เพื่อจูงใจประชาชนทั่วไปให้เข้ามาซื้อสินค้าในสถานที่ใหม่ ตลอดจนส่งเสริมการมีส่วนร่วมโดยเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำนโยบายการจัดระเบียบการค้าหาบเร่แผงลอยในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย</p>
ปริวรรษ โต๊ะยี
ปกรณ์ ปรียากร
อรพิน ปิยะสกุลเกียรติ
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารพุทธสุขภาวะศึกษาและสังคมศาสตร์
2025-08-30
2025-08-30
1 2
1
16
-
ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร
https://he05.tci-thaijo.org/index.php/JBHES/article/view/5443
<p> การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเพื่อศึกษาระดับประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ปัญหา อุปสรรค เกี่ยวกับประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ การเก็บรวบรวมข้อมูลจากการใช้แบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ จำนวน 42 คน สถิติที่ใช้เชิงพรรณนาจากค่าสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานครโดยภาพรวมมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้านโดยเรียงค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยอยู่ในระดับมากทุกด้าน ได้แก่ ด้านคุณภาพของ ด้านความประหยัดหรือคุ้มค่าของทรัพยากร ด้านความรวดเร็ว และด้านปริมาณงาน ตามลำดับ 2) ปัญหา และอุปสรรคเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานบุคลากรฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร พบว่า บุคลากรปฏิบัติงานติดต่อกันเกิน 8 ชั่วโมงทำให้เกิดความเหนื่อยล้า ประกอบกับการนำเทคโนโลยีมาใช้น้อย รวมถึงการขาดความรู้ความสามารถของเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยี อีกทั้งอุปกรณ์ไม่เพียงพอทำให้การปฏิบัติงานไม่มีคุณภาพเท่าที่ควร ภารกิจที่รับผิดชอบมีปริมาณมากบุคลากรมีจำนวนน้อยมากเช่นกัน และประชาชนเข้ามาติดต่อรับบริการจำนวนมากไม่สอดคล้องกับจำนวนเจ้าหน้าที่ รวมไปถึงการร้องเรียนที่เป็นข้อมูลไม่เป็นความจริงทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเสียเวลาในการตรวจสอบ ด้านความรวดเร็วด้วยความเป็นหน่วยงานราชการบางภาระงานเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตัดสินใจได้ทันทีด้วยตนเองต้องรออนุมัติคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้นตอนที่มีเยอะเกินความจำเป็นทำให้กิดความล่าช้าในการปฏิบัติงาน ด้านความประหยัดหรือคุ้มค่าของทรัพยากร เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีที่หน่วยงานยังไม่ด้ส่งเสริมให้นำมาใช้แทนกระดาษที่ต้องส่งให้ผู้บริหารเซ็นรับรอง และการเติมน้ำมันจะต้องเดินทางระยะทางไกลไปที่จุดเติมน้ำมันของกรุงเทพมหานครที่บางแคเท่านั้น ทำให้เกิดความสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ</p>
สมภพ ทับทวี
ปกรณ์ ปรียากร
อรพิน ปิยะสกุลเกียรติ
พระมหามานะ ปิยภาณี
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารพุทธสุขภาวะศึกษาและสังคมศาสตร์
2025-08-30
2025-08-30
1 2
17
29
-
การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของภาครัฐ
https://he05.tci-thaijo.org/index.php/JBHES/article/view/5050
<p>การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพและประสิทธิภาพของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งมีบทบาทในการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของประชาชน การบริหารทรัพยากรมนุษย์ในภาครัฐครอบคลุมถึงการฝึกอบรมพนักงาน การพัฒนาทักษะ การเสริมสร้างความรู้ใหม่ และการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนการทำงานร่วมกัน ในยุคดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและสังคมมีผลอย่างมากต่อการทำงานและการบริหารในภาครัฐ หน่วยงานภาครัฐจึงจำเป็นต้องปรับตัวและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างเป็นระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความพร้อมในการตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของสังคม ในบริบทของประเทศไทย การสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่โปร่งใส การสื่อสารที่ดี และการส่งเสริมการพัฒนาความรู้ของบุคลากรภายในองค์กรเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ การมีบรรยากาศการทำงานที่เอื้อต่อการพัฒนาและการทำงานร่วมกันส่งเสริมให้บุคลากรมีความพึงพอใจในงาน นอกจากนี้ การเสริมสร้างทักษะด้านเทคโนโลยียังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บุคลากรมีศักยภาพในการปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่</p>
พระวรเชษฐากรณ์ อันทะลัย/ชาครธมฺโม
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารพุทธสุขภาวะศึกษาและสังคมศาสตร์
2025-08-30
2025-08-30
1 2
30
45
-
การพัฒนาชุมชนตามหลักสาราณียธรรมของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
https://he05.tci-thaijo.org/index.php/JBHES/article/view/5387
<p>การพัฒนาชุมชนตามหลักสาราณียธรรมของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงคนและชุมชนให้ดีขึ้น โดยใช้พลังและความร่วมมือจากคนในชุมชนและหน่วยงานของรัฐ และองค์กรในชุมชน เพื่อปรับปรุงแก้ไขปัญหาและสร้างสรรค์ชุมชนให้เกิดความก้าวหน้าทั้งในด้านคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง การปกครอง โดยมุ่งยกระดับมาตรฐานการครองชีพและคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยการบูรณาการกับหลักสาราณียธรรม 6 การนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาเป็นแนวทางในการปฏิบัติที่ช่วยเสริมสร้างความสามัคคีและพัฒนางานให้มีประสิทธิภาพประสิทธิผล บรรลุตามเป้าประสงค์และนำไปสู่การเสริมสร้างสันติวัฒนธรรมในสถานศึกษา โดยมีองค์ประกอบที่สำคัญ คือ เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม สาธารณโภคี ศีลสามัญญตา และทิฏฐิสามัญญตา</p>
ประยุทธ์ ไกรเพชร
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารพุทธสุขภาวะศึกษาและสังคมศาสตร์
2025-08-30
2025-08-30
1 2
46
57
-
การประยุกต์ใช้หลักภาวนา 4 เพื่อการพัฒนาชุมชน
https://he05.tci-thaijo.org/index.php/JBHES/article/view/5168
<p>บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอการประยุกต์ใช้หลักภาวนา 4 เพื่อการพัฒนาชุมชน กายภาวนา หรือ การพัฒนากาย คือ การมีความสัมพันธ์ที่เกื้อกูลกับสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ หรือทางวัตถุ ให้รู้จัก "กิน อยู่ ดู ฟัง" สีลภาวนา หรือ การพัฒนาศีล คือ การมีความสัมพันธ์ที่เกื้อกูลกับสิ่งแวดล้อมทางสังคม คือเพื่อนมนุษย์ ตั้งอยู่ในกฎระเบียบ เพื่อให้การตอบสนองความต้องการของตนนั้น จิตภาวนา หรือการพัฒนาจิต คือ การมีจิตที่สมบูรณ์ด้วยคุณธรรม ความงดงามสมบูรณ์ ด้วยสมรรถภาพ มีความเข้มแข็งมั่นคง และปัญญาภาวนา เป็นการพัฒนาปัญญา คือ การเสริมสร้างความรู้ความคิดความเข้าใจ อย่างเป็นนายความคิด และการหยั่งรู้ความจริง รู้เห็นเท่าทันโลกและชีวิตตามสภาวะจริง ปัญญาภาวนา การประยุกต์ใช้หลักภาวนา 4 ในการพัฒนาชุมชนจะช่วยเสริมสร้างจิตสำนึกที่ดีในสมาชิกชุมชน ส่งผลให้เกิดการพัฒนาที่มีความยั่งยืนและเป็นระบบ นอกจากนี้ยังช่วยลดความขัดแย้งและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสมาชิกในชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ </p>
อัมฤทธิ์ รุ่งเรือง
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารพุทธสุขภาวะศึกษาและสังคมศาสตร์
2025-08-30
2025-08-30
1 2
58
76