ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อเอ็นไซม์โคลีนเอสเตอเรสของเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน ในเขตโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเปียน อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช

ผู้แต่ง

  • กิตติพงค์ ถวาย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเปียน จังหวัดนครศรีธรรมราช

คำสำคัญ:

เอ็นไซม์โคลีนเอสเตอเรส, เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน, อำเภอนบพิตำ

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงวิเคราะห์แบบย้อนหลังนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการตรวจเอ็นไซม์โคลีนเอสเตอเรสและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อเอ็นไซม์โคลีนเอสเตอเรสของเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนในเขตโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเปียน อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนที่ตรวจเอ็นไซม์โคลีนเอสเตอเรสที่ตรวจเอ็นไซม์โคลีนเอสเตอเรส แบบบันทึกสมบูรณ์
จำนวน 248 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบบันทึกข้อมูล โดยผ่านผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน ได้ค่าความสอดคล้อง เท่ากับ 1.00 ทุกข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และสถิติถดถอยโลจิสติกพหุตัวแปร ผลการวิจัยพบว่า

1. เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน จำนวน 166 คนมีเอ็นไซม์โคลีนเอสเตอเรสอยู่ในระดับปลอดภัย/ปกติ ร้อยละ 66.94

2. เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนที่เป็นเพศหญิง มีโอกาสที่มีเอ็นไซม์โคลีนเอสเตอเรสอยู่ในระดับปลอดภัย/ปกติ เท่ากับ 3.54 เท่า (adj.OR= 3.54; 95% CI= 1.59–7.89). เมื่อเทียบกับเพศชาย เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนที่มีอายุ 45 – 59 ปี และ ≥ 60 ปี มีโอกาสที่มีเอ็นไซม์โคลีนเอสเตอเรสอยู่ในระดับปลอดภัย/ปกติ ลดลงร้อยละ 19 และ 94 เมื่อเทียบกับอายุ ≤ 44 ปี (adj.OR= 0.81; 95%CI= 0.02 - 0.37; adj.OR= 0.06; 95%CI= 0.01 - 0.33) เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนที่มีรายได้ไม่พอใช้จ่ายและมีหนี้สินมีโอกาสที่มีเอ็นไซม์โคลีนเอสเตอเรสอยู่ในระดับปลอดภัย/ปกติ ลดลงร้อยละ 81 เมื่อเทียบกับพอใช้จ่าย (adj.OR= 0.19; 95%CI= 0.50 - 0.69) เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนที่ดื่มแอลกอฮอล์มีโอกาสที่มีเอ็นไซม์โคลีนเอสเตอเรสอยู่ในระดับปลอดภัย/ปกติ ลดลงร้อยละ 98 เมื่อเทียบกับไม่ดื่มแอลกอฮอล์ (adj.OR= 0.02; 95%CI= 0.01 - 0.22) เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนที่ปลูกพื้นที่ลาดชันมีโอกาสที่มีเอ็นไซม์โคลีนเอสเตอเรสอยู่ในระดับปลอดภัย/ปกติ ลดลง ร้อยละ 62 เมื่อเทียบกับพื้นที่ราบหรือพื้นที่เตี้ย ๆ

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมุ่งเน้นส่งเสริมพฤติกรรมการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่ถูกต้องให้กับเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน โดยเฉพาะผู้ชาย ผู้ที่อยู่ในวัยทำงานตอนปลายและผู้สูงอายุ และผู้ที่ปลูกในพื้นที่ลาดชัด รวมทั้งมีการประชาสัมพันธ์ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ขณะใช้สารเคมี

เอกสารอ้างอิง

กรมวิชาการเกษตร. (2563). การปลูกทุเรียน. สืบค้นเมื่อ 20 สิงหาคม 2568, จาก https://www.shorturl.asia/2B7sp

จรุ ถิ่นพระบาท. (2563). ทุเรียนกรุงชิงอนาคตไกลเกษตรไทยสู่ตลาดต่างแดน. วารสารวิชาการสังคมมนุษยมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช, 10(2), 54-68

ชาญณรงค์ ชัยสุวรรณ, วราพันธุ์ พรวิเศษศิริกุล และประภัสสร สุวรรณบงกช. (2564). ปัจจัยที่สัมพันธ์กับระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสในเลือดของเกษตรกร เขตสุขภาพที่ 1. เชียงรายเวชสาร, 13(2), 137-151.

ทินกร ชื่นชม. (2561). ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสในเลือดของเกษตรกร. วารสารแพทย์เขต 4-5, 37(2), 86-97.

ธนัชพร พิมพ์ทองหลาง, กนกวรรณ คำนุช, ภัทรชา ถนอมพลกรัง, อรปรียา คำขาด, จีรนันท์ นันประดิษฐ์ และชลาลัย หาญเจนลักษณ์. (2566). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสในเลือดของเกษตรกรปลูกพริกที่ทำหน้าที่ฉีดพ่นสารเคมีกําจัดศัตรูพืชตำบลทองหลาง อำเภอจักราช จังหวัดนครราชสีมา. วารสารความปลอดภัยและสุขภาพ, 16(1), 111-123.

ปรียะพร ระมัยวงค์ และเลิศชัย เจริญธัญรักษ์. (2563).ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสในเลือดของเกษตรกรในเขตพื้นที่ตาบลยางอู้ม อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 13(4), 1-13.

พัชร์สิริ ศรีเวียง และอนุ สุราช. (2560). พฤติกรรมการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชและระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสในกระแสเลือดของกลุ่มเกษตรกรปลูกยาสูบในตำบลทับผึ้ง อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย. วารสารความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม, 2(2), 37-42.

มยุรี สุวรรณโคตร. (2567). ความชุกและปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับระดับความปลอดภัยเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสในเลือดของเกษตรกร ภายใต้การดำเนินงานพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์, วารสารการแพทย์และสาธารณสุข มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, 7(1), 25-35.

โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเปียน. (2567). ทะเบียนตรวจเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส. สำนักงานสาธารณสุขอำเภอนบพิตำ. นครศรีธรรมราช.

วัชราภรณ์ วงศ์สกุลกาญจน์, ศิริศักดิ์ มังกรทอง และประจวบลาภ เที่ยงแท้. (2561). พฤติกรรมการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชและระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสในเลือดของเกษตรกร: กรณีศึกษาอำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี. วารสารราชพฤกษ์, 16(1), 55-44.

วิราสิริริ์ วสีวีรสิว์, สุรีย์ จันทรโมลี, ศิริวรรณ วิเศษแก้ว และทิพย์สุคนธ์ ศรีลาธรรม. (2563). พฤติกรรมการใช้สารเคมีทางการเกษตรและระดับเอ็นไซม์โคลีนเอสเตอเรสในเลือดของเกษตรกร อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ประเทศไทย. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ฉบับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 14(1), 58-70.

สำนักกรรมาธิการ. (2567). การพัฒนาและส่งเสริมการเกษตรสร้างมูลค่าตามยุทธศาสตร์ชาติ: กรณีศึกษาสินค้าเกษตรทุเรียน. สำนักนายกรัฐมนตรี. กรุงเทพมหานคร.

สำนักการค้าสินค้า. (2567). สินค้าทุเรียนและผลิตภัณฑ์. กระทรวงพาณิชย์.

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร. (2567). ทุเรียน. กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์

สำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม. (2559). โรคจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 จาก https://www.envocc.ddc.moph.go.th.

อรณัส มุสิกวงค์, ธัชพงศ์ คลิ้งเคล้า, ญาณิศา ศรีใส และบุณยานุช ทองคำดี. (2567). ปัจจัยที่ส่งผลต่อระดับเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรสในเลือดของเกษตรกรสวนทุเรียน จังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลา, 2(1), 7-20.

Bloomquist, J. R. (1996). Ion channels as targets for insecticides. Ann. Rev. Entomol, 41, 163-190.

Naing, L., Winn, T., & Rusli, B. N. (2006). Practical issues in calculating the sample size for prevalence studies. Archives of Orfacial Sciences, 1(1), 9-14.

Yamane, T. (1973). Statistics: an Introductory Statistics, (Second Edition). New York: Harper & Row.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-10-31

รูปแบบการอ้างอิง

1.
ถวาย ก. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อเอ็นไซม์โคลีนเอสเตอเรสของเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน ในเขตโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเปียน อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช. NIHAJ [อินเทอร์เน็ต]. 31 ตุลาคาม 2025 [อ้างถึง 26 ธันวาคม 2025];1(2):e6610. available at: https://he05.tci-thaijo.org/index.php/NIHAJ/article/view/6610

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย