ผลของโปรแกรมการฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ต่อการกำเริบของโรค และการเข้ารักษาซ้ำ โรงพยาบาลเมืองปาน จังหวัดลำปาง

ผู้แต่ง

  • วิลิตตา อิ่มปัญญา แผนกพยาบาลผู้ป่วยใน โรงพยาบาลเมืองปาน
  • พวงเพชร มีศิริ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครลำปาง คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก

คำสำคัญ:

โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง, การฟื้นฟูสุขภาพปอด, การกำเริบของโรค, การกลับมารักษาซ้ำ

บทคัดย่อ

การศึกษาแบบกึ่งทดลองชนิดกลุ่มเดียวทดสอบก่อนและหลัง มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบอัตราการกำเริบของโรคและการเข้ารักษาซ้ำก่อนและหลังการเข้าร่วมโปรแกรม

กลุ่มตัวอย่างคือผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่มารับการรักษาในหอผู้ป่วยใน โรงพยาบาลเมืองปาน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 - ตุลาคม 2567 จำนวน 30 ราย คัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบประเมินระดับความรุนแรงของอาการหายใจลำบาก และโปรแกรมการฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ซึ่งออกแบบมาเพื่อลดการกำเริบเฉียบพลันและอัตราการเข้ารักษาซ้ำ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติเชิงวิเคราะห์ คือ Paired sample t-test สำหรับการเปรียบเทียบ

กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ร้อยละ 70 อายุเฉลี่ย 73.40 ระยะเวลาเฉลี่ยที่ได้รับการวินิจฉัยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง 8.42 ปี ร้อยละ 75.90 มีประวัติสูบบุหรี่ หลังจากการดำเนินโปรแกรมการฟื้นฟูสุขภาพ พบว่าอัตราการกำเริบของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังจากเดิมเฉลี่ย 4.06 ครั้ง/คน หลังการทดลองลดลงเหลือ 0.27 ครั้ง/คน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001) ในทำนองเดียวกัน อัตราการเข้ารักษาซ้ำภายใน 28 วันก่อนการทดลอง 2.67 ครั้ง/คน หลังการทดลองลดลงเหลือ 0.27 ครั้ง/คน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.001)

ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าโปรแกรมการฟื้นฟูสุขภาพสามารถลดทั้งการกำเริบของโรคและการเข้ารักษาซ้ำในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังได้อย่างมีประสิทธิผล บุคคลากรสุขภาพสามารถนำโปรแกรมการฟื้นฟูสุขภาพไปใช้ในการส่งเสริมพฤติกรรมการดูแลตนเองและปรับปรุงผลลัพธ์ด้านสุขภาพในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

Global Initiative for Chronic Obstructive Lung Disease. Global strategy for the diagnosis, management, and prevention of chronic obstructive pulmonary disease: 2024 report [Internet]. 2024 [cited 2025 Oct 12]. Available from: https://goldcopd.org.

World Health Organization. Chronic obstructive pulmonary disease (COPD) [Internet]. 2024 [cited 2025 Oct 12]. Available from: https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/chronic-obstructive-pulmonary-disease-(copd).

Ministry of Public Health, Thailand. Health Data Center: COPD prevalence in adults aged ≥40years [Internet]. 2023 [cited 2025 Oct 12]. Available from: https://hdc.moph.go.th/center/public/standard-report-detail/2ad3fe5a63502901dfb2a8fc231c27dc

สุทธิศักดิ์ เด่นดวงใจ, พงศ์เทพ วิวรรธนะเดช, วิโรจน์ เจียมจรัสรังษี. ความสัมพันธ์ระหว่างระดับฝุ่นละออง PM2.5 รายวันในอากาศกับการมารับการรักษาด้วยโรคระบบการหายใจและระบบหัวใจและหลอดเลือด ณ โรงพยาบาลราชบุรี อ.เมือง จ.ราชบุรี. เชียงใหม่เวชสาร 2564; 60(3): 345-58. doi: 10.12982/CMUMEDJ.2021.31

Ministry of Public Health, Health Data Center. Rate of acute exacerbation in patients with chronic obstructive pulmonary disease (aged 40 years and over), fiscal year 2022 [Internet]. Nonthaburi: Ministry of Public Health; 2022 [cited 2025 Oct 23]. Available from: https://hdc.moph.go.th/center/public/standard-report-detail/2ad3fe5a63502901dfb2a8fc231c27dc.

Stöber A, Lutter JI, Schwarzkopf L, Kirsch F, Schramm A, Vogelmeier CF, Leidl R. Impact of lung function and exacerbations on health-related quality of life in COPD patients within one year: real-world analysis based on claims data. Int J Chron Obstruct Pulmon Dis 2021; 16:2637–2651. https://doi.org/10.2147/COPD.S313711.

Fisher JD, Fisher WA. Changing AIDS-risk behavior. Psychol Bull 1992; 111(3):455–74. doi: 10.1037/0033-2909.111.3.455.

Tippala W, Wattanakitkrileart D, Pongthavornkamol K. The Effects of Education, Motivation, and Inhaler Skills Program through Line Application on Clinical Control in Patients with Chronic Obstructive Pulmonary Disease. Nurs Sci J Thail 2021; 40(1):112–127. retrieved from https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ns/article/view/243509

กนกทิพ ลี้ประกอบบุญ. ผลของการฟื้นฟูสุขภาพที่บ้านผ่านระบบไลน์แอปพลิเคชั่นในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง. วารสารโรงพยาบาลมหาสารคาม [วารสารออนไลน์] 2566; 20(1): 227-241. จาก https://he02.tci-thaijo.org/index.php/MKHJ/article/view/260686

Tadsuan J, Wattanakitkrileart D, Sriprasong S, The Effectiveness of COPD Management Program via Smartphone Applications on Clinical Status in Patients with Chronic Obstructive Pulmonary Disease. Nurs Sci J Thail 2021; 39(3): 17-32. Retrieved from: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ns/article/view/247473

Brodaty H, Pond D, Kemp NM, Luscombe G, Harding L, Berman K, et al. The GPCOG: a new screening test for dementia designed for general practice. J Am Geriatrics Soc 2002; 50(3):530-4. doi: 10.1046/j.1532-5415.2002.50122.x.

ศิวพล ศรีแก้ว, ชนิสรา แสนยบุตร, ปวีณกานต์จวนสาง, นิสากร วิบูลชัย. ผลของโปรแกรมการสนับสนุนการจัดการตนเองต่อพฤติกรรมการจัดการตนเองและภาวะหายใจลำบากในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่มีอาการกำเริบบ่อยครั้ง. วารสารโรงพยาบาลมหาสารคาม 2566; 20(2): 100-15.

Gift AG. Validation of a vertical visual analogue scale as a measure of clinical dyspnea. Rehabil Nurs. 1989; 14(6):323–5. doi: 10.1002/j.2048-7940.1989.tb01129.x.

สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์. แนวทางการวินิจฉัยและรักษาโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง พ.ศ. 2565 [อินเทอร์เน็ต] สืบค้นเมื่อ 24 ธันวาคม 2566, จาก https://www.tst.or.th/wp-content/uploads/2023/

ชมขวัญ แก้วพลงาม, ณัฐวดี อินทเเสน, ภานุพงษ์ อุ่นเรือนงาม, ปาริชาติ นิยมทอง. ปัจจัยพยากรณ์ที่มีความสัมพันธ์ต่อการเกิดภาวะกำเริบเฉียบพลันในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง. PMJCS [วารสารออนไลน์] 30(1), 99-111. https://thaidj.org/index.php/jpph/article/view/12622/10482

Chow R, So OW, Im JHB, Chapman KR, Orchanian-Cheff A, Gershon AS, et al. Predictors of readmission for patients with chronic obstructive pulmonary disease (COPD): A systematic review. Int J Chron Obstruct Pulmon Dis 2023; 18: 2581–617. doi: 10.2147/COPD.S418295.

Arnold MT, Dolezal BA, Cooper CB. Pulmonary rehabilitation for chronic obstructive pulmonary disease: highly effective but often overlooked. Tuberc Respir Dis 2020; 83(4): 257–67. doi: 10.4046/trd.2020.0064

Jenkins A, Burtin C, Camp PG, Lindenauer P, Carlin B, Alison JA, et al. Do pulmonary rehabilitation programs improve outcomes in patients with COPD post-hospital discharge for exacerbation: A systematic review and meta-analysis. Thorax 2024; 79(5): 438–47. doi: 10.1136/thorax-2023-220333

Lamberton CE, Mosher CL. Review of the evidence for pulmonary rehabilitation in COPD: Clinical benefits and cost-effectiveness. Respir Care 2024; 69(6): 686–96. doi: 10.4187/respcare.11541.

อุทัยชนินทร์ จันทร์แก้ว, จิราพร เกศพิชญวัฒนา. ผลของโปรแกรมการพัฒนาทักษะโดยการให้ความรู้และสร้างแรงจูงใจต่ออาการหายใจลำบากของผู้สูงอายุโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง. วารสารวิจัยสุขภาพและการพยาบาล [วารสารออนไลน์] 2563; 36(1): 84–97.

จาก: https://he01.tci thaijo.org/index.php/bcnbangkok/article/view/242160

กิตติยา มหาวิริโยทัย, ดวงรัตน์ วัฒนกิจไกรเลิศ, อัจฉริยา พ่วงแก้ว. ผลของโปรแกรมการให้ข้อมูลแรงจูงใจ และทักษะการเฝ้าระวังตนเองผ่านแอปพลิเคชันไลน์ต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองในผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลว. วารสารพยาบาลศาสตร์ 2563; 39(1): 47-63. จาก: https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ns/article/view/244777

พรรัตติกาล พลหาญ, ดวงรัตน์ วัฒนกิจไกรเลิศ, คนึงนิจ พงศ์ถาวรกมล. ผลของโปรแกรมการให้ความรู้และทักษะการใช้ยาสูดโดยใช้แอปพลิเคชันไลน์ต่อการควบคุมอาการในผู้ป่วยโรคหืด. วารสารพยาบาลทหารบก [วารสารออนไลน์] 2562; 20(3): 93-103 จาก : https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JRTAN/article/view/233089

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-10-28

รูปแบบการอ้างอิง

อิ่มปัญญา ว. ., & มีศิริ พ. . (2025). ผลของโปรแกรมการฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ต่อการกำเริบของโรค และการเข้ารักษาซ้ำ โรงพยาบาลเมืองปาน จังหวัดลำปาง. วารสารการพัฒนาสุขภาพชุมชน มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 13(3), 86–105. สืบค้น จาก https://he05.tci-thaijo.org/index.php/CHDMD_KKU/article/view/6888

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ