การส่งบทความ

เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน เพื่อส่งบทความ

ข้อกำหนดการส่งบทความ

ในขั้นตอนการส่งบทความ ผู้แต่งต้องตรวจสอบและยืนยันว่าปฏิบัติตามข้อกำหนดการส่งบทความทุกข้อ บทความที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดอาจถูกส่งคืนให้ผู้แต่งดำเนินการแก้ไข
  • บทความไม่เคยได้รับการตีพิมพ์หรือไม่ได้อยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อตีพิมพ์ในวารสารอื่น (หากมีโปรดอธิบายในข้อความถึงบรรณาธิการ)
  • ไฟล์ต้นฉบับบทความอยู่ในรูปแบบ Microsoft Word
  • เอกสารอ้างอิงจากอินเทอร์เน็ตต้องระบุ URL ที่สามารถเข้าถึงได้
  • ข้อความในบทความมีระยะห่างระหว่างบรรทัดแบบบรรทัดเดียว (single-spaced), ภาษาไทยใช้ตัวอักษรขนาด 14 pt และภาษาอังกฤษใช้ตัวอักษร 14 pt, ใช้ตัวเอียงแทนการขีดเส้นใต้ (ยกเว้นที่อยู่ URL) และวางภาพประกอบ รูปวาด และตารางไว้ภายในเนื้อหาตามตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่แยกไว้ท้ายบทความ
  • บทความเป็นไปตามรูปแบบและหลักเกณฑ์การเขียนเอกสารอ้างอิงที่ระบุไว้ในคำแนะนำสำหรับผู้แต่ง

คำแนะนำผู้แต่ง

คำแนะนำผู้แต่ง

Download

ตัวอย่าง format article

คำแนะนำสำหรับผู้นิพนธ์

ผู้นิพนธ์หรือผู้ส่งบทความ (Corresponding Author) จะต้องลงทะเบียนเป็นสมาชิกของวารสารผ่านระบบ ThaiJo และให้ส่งบทความด้วยไฟล์ word นามสกุล (.docx) ขนาดกระดาษ A4 ไม่เกิน 12-14 หน้า (รวมบทคัดย่อ) โดยใช้ตัวอักษร Cordia New ขนาดตัวอักษรตามที่ได้กำหนดในแบบฟอร์มวารสาร และขอให้แนบหนังสือรับรองจริยธรรมการวิจัย และส่งต้นฉบับออนไลน์ที่ https://he05.tci-thaijo.org/index.php/CHDMD_KKU โดยต้องกรอกรายละเอียดภายในระบบให้ครบถ้วน เช่น ชื่อผู้แต่ง อีเมลติดต่อ สังกัดหรือหน่วยงาน (ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ)

หมายเหตุ : ไม่มีค่าทำเนียมในขั้นตอนการส่งบทความหรือในการพิจารณาบทความ แต่จะมีการเรียกเก็บค่าทำเนียมการตีพิมพ์บทความ 3,000 บาท โดยจะเรียกเก็บเมื่อได้รับการตีพิมพ์บทความในวารสารแล้ว

ประเภทบทความที่รับเผยแพร่

  1. นิพนธ์ต้นฉบับ (Original article)

หมายถึง เป็นรายงานผลการศึกษา ค้นคว้า วิจัย ที่เกี่ยวกับระบบสุขภาพในชุมชน หรือ การพัฒนาระบบสาธารณสุขในชุมชน โดยมีองค์ประกอบดังนี้

           1.1 ชื่อเรื่อง

           1.2 ชื่อผู้นิพนธ์ พร้อมชื่อสถานที่ปฏิบัติงาน

           1.3 บทคัดย่อทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และ คำสำคัญ

           1.4 ภูมิหลังและเหตุผล

           1.5 วัตถุประสงค์

           1.6 วิธีการศึกษา

           1.7 ผลการศึกษา 

           1.8 วิจารณ์ 

           1.9 ข้อสรุป

           1.10 ข้อเสนอแนะ

           1.11 สถานะองค์ความรู้

           1.12 เอกสารอ้างอิง (Vancouver style)

2. บทความปริทัศน์ (Review article)

หมายถึง บทความที่รวบรวมความรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งจากวารสาร หรือหนังสือต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีองค์ประกอบดังนี้

           2.1 ชื่อเรื่อง

           2.2 ชื่อผู้นิพนธ์ พร้อมชื่อสถานที่ปฏิบัติงาน 

           2.3 บทคัดย่อทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และ คำสำคัญ 

           2.4 บทนำ 

           2.5 วิธีการสืบค้นข้อมูล 

           2.6 ผลการศึกษาทบทวน 

           2.7 ข้อยุติ 

           2.8 ข้อเสนอแนะ 

           2.9 เอกสารอ้างอิง และคำแนะนำสำหรับค้นคว้าเพิ่มเติม 

โดยจำแนกเอกสารอ้างอิงออกเป็น 3 ประเภท คือ  ไม่ระบุ, *น่าสนใจ (*of special interest), และ **น่าสนใจเป็นพิเศษ (**of outstanding interest) พร้อมทั้งระบุเหตุผลในการจำแนกประเภทของเอกสารอ้างอิงในวงเล็บท้ายเอกสารอ้างอิงนั้น ๆ 

การเตรียมบทความเพื่อเผยแพร่

ท่านสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มของวารสารได้ที่หัวข้อ “แบบฟอร์มบทความ” หรือ “TEMPLATE”

ชื่อเรื่อง (Title)

ใช้ฟอนต์ Cordia New ขนาดอักษร 18 ตัวเข้ม โดยชื่อเรื่องต้องกระชับและสื่อถึงเป้าหมายหลักของการศึกษา ไม่ใช้คำย่อ ชื่อเรื่องต้องไม่ใส่วลีที่ไม่จำเป็นหรือไม่ใช้คำฟุ่มเฟือย เช่น “การศึกษา...” หรือ “การสังเกต...” เป็นต้น

ชื่อผู้แต่ง (Author name)

ใช้ฟอนต์ Cordia New ขนาดตัวอักษร 14 ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยไม่ใส่ยศ หรือตำแหน่งวิชาการ ในกรณีที่มีผู้เขียนมากกว่า 1 คนให้เรียงชื่อตามลำดับตามการมีส่วนร่วมพร้อมทั้งกำกับด้วยเครื่องหมาย (*, **) เริ่มจากชื่อแรกมากสุดถึงชื่อสุดท้ายน้อยที่สุด พร้อมทั้งแสดงสังกัดหน่วยงานของผู้เขียนทุกคนขณะทำการวิจัย และ e-mail เฉพาะของผู้รับผิดชอบหลักบทความ(Corresponding author) ให้ใช้ฟอนต์ Cordia New ขนาดอักษร 12 ตัวเอน

บทคัดย่อ (Abstract)

ใช้ฟอนต์ Cordia New ขนาดตัวอักษร 14 เขียนเนื้อความย่อตามลำดับโครงสร้างของบทความได้แก่ ความสำคัญ วัตถุประสงค์ (Background and Purpose), วิธีการศึกษา (Methods), ผลการศึกษา (Results) และบทสรุป (Conclusions) โดยใช้ภาษาเหมาะสมไม่ฟุ่มเฟือย เป็นประโยคสมบูรณ์และสื่อความหมายได้ชัดเจนอย่างกระชับ ไม่ซับซ้อน โดยเขียนแยกสองภาษาในภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เริ่มบทคัดย่อภาษาไทยก่อนบทคัดย่อภาษาอังกฤษ โดยบทคัดย่อภาษาไทยไม่ควรเกิน 300 คำ และบทคัดย่อภาษาอังกฤษไม่ควรเกิน 250 คำ

คำสำคัญ (Keywords)

ระบุคำสำคัญในแต่ละภาษา เขียนด้านท้ายบทคัดย่อทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ให้ใช้คำที่สื่อความหมายกับเนื้อหาของงานวิจัย จำนวนไม่เกิน 5 คำ 

บทนำ หรือ ภูมิหลังและเหตุผล (Background and rationale)

เป็นส่วนของบทความบอกเหตุผลที่นำไปสู่การศึกษา ไม่ต้องทบทวนวรรณกรรมมากมายที่ไม่เกี่ยวกับจุดมุ่งหมายของการศึกษา เป็นส่วนที่อธิบายให้ผู้อ่านรู้ปัญหา ลักษณะ และขนาด ที่นำไปสู่ความจำเป็นในการศึกษาวิจัยให้ได้ผล เพื่อแก้ปัญหาหรือตอบคำถามที่ตั้งไว้ หากมีทฤษฎีที่จำเป็นต้องใช้ในการศึกษาอาจวางพื้นฐานไว้ในส่วนนี้

วัตถุประสงค์ของการศึกษา (Objective)

ใช้การบรรยายถึงวัตถุประสงค์ของการศึกษา หรือระบุวัตถุประสงค์ของการศึกษาเป็นข้อ

วิธีการศึกษา (Method)

เขียนชี้แจงแยกเป็น 2 หัวข้อใหญ่ คือ

1) วัสดุที่ใช้ในการศึกษา โดยให้บอกรายละเอียดของสิ่งแทรกแซง (intervention) เช่น หลักสูตร โปรแกรม ตัวแบบ รูปแบบการรักษา ชนิดและขนาดของยาที่ใช้ เป็นต้น รวมตั้งแต่กระบวนการได้มา/พัฒนา การดำเนินการ/หัตถการ (maneuver) หรือการจัดกระทำต่อกลุ่มเป้าหมาย (manipulation) เช่น ผู้ป่วย คนปกติ สัตว์ พืช เป็นต้น ถ้าเป็นมาตรการที่รู้จักทั่วไปให้ระบุเป็นเอกสารอ้างอิง ถ้าเป็นสิ่งใหม่ ให้อธิบายกระบวนการพัฒนา และคุณลักษณะของสิ่งแทรกแซงโดยละเอียดให้ผู้อ่านเข้าใจและสามารถนำไปใช้ต่อได้ รวมทั้งการยอมรับจากคณะกรรมการพิจารณาจริยธรรมในการศึกษาสิ่งมีชีวิต ตลอดจนอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการศึกษา

2) วิธีการศึกษา ประกอบด้วย

           - แบบการศึกษา (study design) เช่น randomized double blind, descriptive หรือ quasi-experiment เป็นต้น 

           - ประชากรศึกษา เกณฑ์ในการคัดเลือกรวมถึงจำนวนและลักษณะเฉพาะของตัวอย่างที่ศึกษา เช่น เพศ อายุ น้ำหนัก เป็นต้น ต้องบอกถึงการยินยอมจากตัวอย่างที่ศึกษา การยอมรับจากคณะกรรมการพิจารณาจริยธรรมในการศึกษาสิ่งมีชีวิต 

ตัวอย่าง : วิธีการได้มาซึ่งขนาดตัวอย่างที่เพียงพอ (sample size) วิธีการสุ่มตัวอย่าง (sampling) เช่น การสุ่มตัวอย่างแบบง่าย แบบหลายขั้นตอน เป็นต้น

           - การพัฒนาเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล เช่น แบบสอบถาม แบบบันทึก เป็นต้น รวมทั้งมาตรฐานของเครื่องมือ ความถูกต้อง (validity) ความน่าเชื่อถือ (reliability) 

           - วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพ/ปริมาณ ให้ชัดเจนและกระชับ 

           - วิธีการจัดการข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้ 

ผลการศึกษา (Results)

นำเสนอคุณลักษณะของกลุ่มตัวอย่าง ข้อค้นพบตามวัตถุประสงค์ ลำดับหัวข้ออย่างชัดเจน เข้าใจง่าย ควรบรรยายเนื้อเรื่องเป็นร้อยแก้ว ใช้ตารางหรือแผนภูมิ ภาพ กล่องข้อความประกอบ โดยอธิบายสรุปเชื่อมโยงในเนื้อเรื่อง

วิจารณ์ (Discussions)

การวิพากย์/วิจารณ์ผลการศึกษา แปลความหมายของข้อค้นพบ วิเคราะห์และสรุปเปรียบเทียบกับงานวิชาการอื่น (ทฤษฎี วานวิจัย) ที่น่าเชื่อถือ อาจแสดงความเห็นเบื้องต้นหรือข้อมูลที่ตนมีเพื่ออธิบายส่วนที่โดดเด่นหรือแตกต่างเป็นพิเศษก็ได้ รวมทั้งการวิพากย์ระเบียบวิธีการศึกษาและข้อจำกัดในการศึกษาด้วย

ข้อยุติ (Conclusions)

สรุปข้อค้นพบตามวัตถุประสงค์การวิจัยโดยสังเขป

ข้อเสนอแนะ (Recommendations)

ความยาวไม่ควรเกิน 200 คำ โดยให้ระบุข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย/ข้อเสนอแนะสำหรับการนำไปใช้ประโยชน์/ข้อเสนอแนะสำหรับการศึกษาวิจัยในอนาคต ทั้งนี้ข้อเสนอแนะต้องมีรากฐานมาจากข้อค้นพบที่ได้จากการศึกษาวิจัย

สถานะองค์ความรู้ (Body of knowledge)

ความยาวไม่ควรเกิน 100 คำ โดยให้ระบุองค์ความรู้ที่มีอยู่แล้วก่อนทำการศึกษาวิจัย และองค์ความรู้ใหม่ที่เกิดขึ้นภายหลังจากทำการศึกษาวิจัย

การเตรียมตาราง ภาพ แผนภูมิ และกล่องข้อความ

ใช้อักษร Cordia New ขนาดอักษร 14 ใน 1 บทความควรมีตารางหรือภาพหรือแผนภูมิหรือกล่องข้อความ หรือผสมกัน ไม่เกิน 5 ตาราง/แผนภูมิ/ภาพ/กล่องข้อความ

ตาราง (Tables)

          ตารางเน้นการจัดระเบียบของคำพูด ตัวเลข และเครื่องหมายต่าง ๆ บรรจุลงในคอลัมน์เพื่อแสดงข้อมูล และความสัมพันธ์ของข้อมูล แนวทางการจัดทำตาราง มีดังนี้

  • จัดทำเนื้อหาภายในตารางเป็นภาษาอังกฤษ
  • ตารางละไม่เกินครึ่งหน้ากระดาษ และไม่ควรเสนอตารางเป็นภาพถ่าย
  • ชื่อคอลัมน์ เป็นตัวแทนอธิบายข้อมูลในคอลัมน์ ควรจะสั้น หรือย่อ ๆ และอธิบายให้ละเอียดในเชิงอรรถ (footnote) ใต้ตาราง
  • เชิงอรรถ จะเป็นคำอธิบายรายละเอียดที่บรรจุในตารางได้ไม่หมด ไม่ควรใช้เลขกำกับเพราะอาจสับสนกับเลขของเอกสารอ้างอิง ให้ใช้เครื่องหมายแทน

ภาพ และแผนภูมิ (Figures and Charts)

          ภาพ และแผนภูมิ จะช่วยสื่อความหมายให้ชัดเจนขึ้น โดยเน้นจุดสำคัญ

           - ต้องคมชัด และรูปภาพที่นำมาจะต้องไม่มีการละเมิดลิขสิทธิ์เท่านั้น

           - ควรเป็น file ภาพต้นฉบับจากกล้องที่มีขนาดไม่ต่ำกว่า 600 x 800 pixels

กล่องข้อความ (Box)

          กล่องข้อความ ใช้กับคำพูด (quote) ในงานวิจัยเชิงคุณภาพ จะช่วยสื่อความหมายให้ชัดเจนขึ้น โดยเน้นจุดสำคัญ มีแนวทางดังนี้

  • คำพูดต้องเป็นคำพูดสำคัญ ภาษาถิ่น ที่สื่อความหมายเฉพาะชัดเจนลุ่มลึก ความยาวแต่ละคำพูดไม่ควรเกิน 20 คำ ใช้ตัวเอนอยู่ใน “ ” และต้องมีแหล่งที่มาของคำพูดในวงเล็บท้ายเครื่องหมาย “ ”
  • แต่ละกล่องข้อความ สามารถมีหลายคำพูดได้ แต่ต้องอยู่ในประเด็นเดียวกันหรือต่อเนื่องกัน ไม่เกิน 10 คำพูด

การเขียนเอกสารอ้างอิง (Reference)

           เอกสารอ้างอิงให้จัดทำเป็นภาษาต้นฉบับจากข้อมูลที่นำมาอ้างอิง ควรมีอย่างน้อย 15 รายการ และสามารถตรวจสอบได้ทาง internet โดยการอ้างอิงเอกสารใช้ระบบแวนคูเวอร์ (Vancouver style) โดยใส่ตัวเลขยกกำลังหลังข้อความหรือหลังชื่อบุคคลเจ้าของข้อความที่อ้างถึง โดยใช้หมายเลข 1 สำหรับการอ้างอิงอันดับแรก และเรียงต่อไปตามลำดับ ถ้าอ้างอิงซ้ำให้ใช้หมายเลขเดิม ไม่ใช้คำย่อในเอกสารอ้างอิง ยกเว้นชื่อต้นและชื่อวารสาร หลีกเลี่ยงการใช้ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ โพลล์มาใช้อ้างอิง

การอ้างอิงจาก internet ให้อ้างอิงเฉพาะ website ของทางราชการและองค์กรที่น่าเชื่อถือเท่านั้น โดยเน้นข้อมูลสถิติที่เป็นทางการ แนวนโยบาย และข้อมูลที่มีความสำคัญ 

          เอกสารอ้างอิงในวารสาร ต้องเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ประเภท white paper และ gray paper เท่านั้น ประกอบด้วย

ให้ระบุชื่อผู้แต่งไว้ในรายการอ้างอิงทุกครั้งตามรูปแบบการอ้างอิง และหากผู้แต่งมีมากกว่า 6 คนขึ้นไป ให้ใส่ชื่อผู้แต่งคนที่ 1 คั่นด้วยเครื่องหมาย , ตามด้วยชื่อผู้แต่งคนที่ 2 คั่นด้วยเครื่องหมาย , ตามด้วยชื่อผู้แต่งคนที่ 3 ไปเรื่อย ๆ ตามลำดับจนถึงคนที่ 6 แล้วตามด้วยคำว่า และคณะ หรือ et al.

1) บทความในวารสารวิชาการ

ชื่อผู้เขียนบทความ. ชื่อบทความ. ชื่อวารสาร ปีพิมพ์; ปีที่(ฉบับที่): เลขหน้า.

ตัวอย่าง:

  1. ปราโมทย์ ธีรพงษ์. แนวทางการรักษาโรคเอดส์ในปัจจุบัน. ว. โรคเอดส์ 2541; 10(3): 151-60.
  2. London L. AIDS control and the workplace: the role of occupational health services in South Africa. Int J Health Serv 1998; 28(3): 575-91.

1.1) บทความวารสารเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ต โดยที่วารสารนั้นมีฉบับที่เป็นสิ่งพิมพ์ (printed version) อยู่ด้วย

ชื่อผู้แต่ง. ชื่อเรื่อง. ชื่อวารสาร [วารสารออนไลน์] ปีพิมพ์; ปีที่(ฉบับที่): เลขหน้า. doi: (ถ้ามี)

ตัวอย่าง:

  1. วราภรณ์ เทศทอง, วารุณี พลิกบัว, ดวงรัตน์ วัฒนกิจไกรเลิศ. ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพที่ทำนายการควบคุมโรคหืดของผู้ป่วยโรคหืด [วารสารออนไลน์] 2568 [อ้างอิงเมื่อ 1 มกราคม 2568]. doi.:10.60099/jtnmc.v40i02.271796
  2. Tseng YH, Lin CJ, Lin YI. Text mining techniques for patent analysis. Information Processing & Management [serial online] 2007; 43(5): 1216-1247. doi: 10.1016/j.ipm.2006.11.011

1.2) บทความวารสารเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ไม่มีฉบับที่สิ่งพิมพ์

ชื่อผู้แต่ง. ชื่อเรื่อง. ชื่อวารสาร [วารสารออนไลน์] ปีพิมพ์[cited วันเดือนปีที่อ้าง]. Available from: URL

ตัวอย่าง:

  1. จิราภา พึ่งบางกรวย. รูปแบบการส่งเสริมการขายแบบออนไลน์บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย. ว. บริหารธุรกิจและการบัญชี มข. [วารสารออนไลน์] 2566 [อ้างอิงเมื่อ 1 มกราคม 2568]. Available from: https://so04.tci-thaijo.org/index.php/kkbsjournal/article/view/266760
  2. Beall J. Metadata and data quality problems in digital library. Journal of Digital Information [serial online] 2005 Jun [cited 2005 Sep 5] Available from: http://judi.tama.edu/articles/v06/i03/Beall

2) หนังสือ/ตำรา

ชื่อผู้แต่ง. ชื่อหนังสือ. สถานที่พิมพ์: สำนักพิมพ์; ปีพิมพ์.

ตัวอย่าง: 

  1. เนาวนิตย์ มุขสมบัติ, มยุรี กลับวงษ์, อุษา ชูชาติ, ประเวช ตันติพิวัฒนสกุล, เยาวมาลย์ รันทระ. การศึกษาสถานการณ์ปัญหาโรคเอดส์ จังหวัดเชียงราย พ.ศ. 2537. กรุงเทพฯ: ส่วนวิจัยและพัฒนา สำนักงานพัฒนาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข;
  2. Zumla A, Johnson M, Miller R. AIDS and respiratory medicine. London: Chapman & Hall; 1997.

3)  รายงาน/เอกสารเผยแพร่ของทางราชการ 

ชื่อบรรณาธิการ, บรรณาธิการ. ชื่อหนังสือ. ชื่อการประชุม; วันเดือนปีที่จัดประชุม; สถานที่ประชุม.  สถานที่พิมพ์: สำนักพิมพ์; ปีพิมพ์.

ตัวอย่าง:

  1. Kimura J, Shibasaki H, editors. Recent advances in clinical neurophysiology. Proceedings of the 10th International Congress of EMG and Clinical Neurophysiology; 1995 Oct 15-19; Kyoto, Japan. Amsterdam: Elsevier; 1996.

4) รายงานการวิจัยที่เผยแพร่ต่อสาธารณะ 

ชื่อผู้แต่ง. ชื่อรายงานการวิจัย. ชื่อชุด. ครั้งที่พิมพ์. สถานที่พิมพ์: สำนักพิมพ์; ปีพิมพ์.

ตัวอย่าง:

  1. Nash G, Said JW, editors. Pathology of AIDS and HIV infection. Major problems in pathology, v.26. Philadelphia: Saunders; 1992.

5) วิทยานิพนธ์ 

ชื่อผู้เขียน. ชื่อวิทยานิพนธ์[วิทยานิพนธ์ปริญญา. . .สาขาวิชา. . .]. สถานที่พิมพ์: ชื่อสถาบัน/มหาวิทยาลัย; ปีพิมพ์.

ตัวอย่าง:

  1. กฤษณา วงศ์ชู. ความสัมพันธ์ระหว่างอัตมโนทัศน์ ปัจจัยพื้นฐานส่วนบุคคลและครอบครัวกับ พฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ [วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาลครอบครัว]. ขอนแก่น: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น;
  2. Wongchoo K. The relationship between self-concept, basic personal and family factors with self-care behaviors of HIV and AIDS person [Master Thesis in Family Nursing]. Khon Kaen: The Graduate School, Khon Kaen University; [in Thai].
  3. Lan WC. From document clues to descriptive metadata: Document characteristics used by graduate students in judging the usefulness of Web documents. [PhD Dissertation in Information and Library Science]. North Carolina: University of North Carolina at Chapel Hill;

6) สาระทาง internet จาก website ที่น่าเชื่อถือ 

ชื่อผู้แต่ง. ชื่อเรื่อง [อินเทอร์เน็ต] ปีพิมพ์[cited วันเดือนปีที่อ้าง]. Available from: URL

ตัวอย่าง:

  1. กระทรวงอุตสาหกรรม. ยุทธศาสตร์การพัฒนาศักยภาพการแข่งขันของกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก. [อินเทอร์เน็ต] 2547 [อ้างเมื่อ 4 กันยายน 2547]. จาก: http://www.industry.go.th/min/policy/competstra/develop.htm
  2. S. General Accounting Office. Telemedicine: Federal strategy is needed to guide investments [Internet] 1997 [cited 2000 Sep 15]. Available from: http://www.access. gpo.gov/su_docs/aces/aces160.shtml?/gao/index.html

          ทุกรายการต้องสามารถระบุที่มา วันเวลา หากเป็นแหล่งอ้างอิงที่มีที่มาบน internet ให้แนบ URL หรือ Doi และระบุชื่อเรื่องให้สอดคล้องกับลิงก์ที่นำมาอ้างอิง

          วารสารไม่รับตีพิมพ์บทความที่อ้างอิง โพลล์, หนังสือพิมพ์, ความคิดเห็น ฯลฯ

*รูปแบบการอ้างอิงและตัวอย่างจาก: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น

การส่งต้นฉบับ

ให้ประสานงานกับฝ่ายจัดการ โดยปฏิบัติตามคำแนะนำ ของฝ่ายจัดการโดยเคร่งครัด

การตรวจสอบสถานะบทความ

สอบถามที่กองบรรณาธิการ โทรศัพท์ 080-2077570, 043-363588

E-mail: chdkkujournal@kku.ac.th

          เมื่อฝ่ายจัดการได้รับต้นฉบับแล้ว จะตรวจสอบคุณลักษณะและความสมบูรณ์ครบถ้วนของบทความ จากนั้นจึงส่งให้บรรณาธิการได้พิจารณาดำเนินการตามขั้นตอน และจะแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้นิพนธ์ทราบว่าต้องแก้ไขก่อนพิจารณาตีพิมพ์ หรือตีพิมพ์โดยไม่ต้องแก้ไข หรือไม่รับพิจารณาตีพิมพ์

สถานะบทความ

            การตรวจสอบสถานะบทความ สามารถตรวจสอบได้ที่ฝ่ายจัดการ โดยสถานะบทความมีดังนี้

            1.ฝ่ายจัดการได้รับบทความต้นฉบับ และอยู่ระหว่างกระบวนการ SUBMISSION (ตรวจสอบคุณลักษณะ ความครบถ้วน/ถูกต้อง)

            2.บทความต้นฉบับอยู่ระหว่างกระบวนการ REVIEW (การพิจารณาของผู้ทรงคุณวุฒิ)

            3.บทความต้นฉบับที่ได้รับการแก้ไข อยู่ระหว่างกระบวนการ COPYEDITING (จัดเตรียมต้นฉบับ)

           4.บทความต้นฉบับได้รับการตอบรับเพื่อตีพิมพ์ และอยู่ระหว่างกระบวนการ PUBLICATION ตีพิมพ์ในวารสารปีที่... ฉบับที่...

                    เมื่อบทความได้รับการตอบรับเพื่อตีพิมพ์ ผู้นิพนธ์สามารถขอรับหนังสือรับรองสถานการณ์ตีพิมพ์จากฝ่ายจัดการ

การปรับแก้ต้นฉบับ

            โดยทั่วไป ผู้ประเมินจะตรวจสอบความถูกต้อง และครบถ้วน ด้านวิชาการ แล้วส่งให้ผู้นิพนธ์ปรับแก้ สิทธิในการปรับแก้ต้นฉบับเป็นของผู้นิพนธ์ ทางวารสารสงวนสิทธิ์ในการตีพิมพ์เฉพาะที่ผ่านความเห็นชอบของบรรณาธิการตามรูปแบบและสาระที่เหมาะสมกับวารสารเท่านั้น

การตรวจทานต้นฉบับก่อนตีพิมพ์ (proof reading)

            ผู้นิพนธ์ต้องตรวจพิสูจน์อักษรในลำดับสุดท้าย เพื่อให้ความเห็นชอบในความถูกต้อง ครบถ้วน ของเนื้อหา

            ทั้งนี้ ในหน้าแรกของบทความจะระบุวันที่ Received, Revised, Accepted  ด้านล่าง

          หมายเหตุ หากผู้นิพนธ์ไม่ดำเนินการตามรูปแบบที่ระบุไว้ ฝ่ายจัดการขอสงวนสิทธิ์ในการไม่รับพิจารณาการตีพิมพ์

นิพนธ์ต้นฉบับ

นิพนธ์ต้นฉบับ (Original article) เป็นรายงานผลการศึกษา ค้นคว้า วิจัย ที่เกี่ยวกับระบบ สุขภาพ และ/หรือ การพัฒนาระบบสาธารณสุข ประกอบด้วย ชื่อเรื่อง ชื่อผู้นิพนธ์ (พร้อมชื่อสถานที่ ปฏิบัติงาน) บทคัดย่อ คำสำคัญ ภูมิหลังและเหตุผล วัตถุประสงค์ วิธีการศึกษา ผลการศึกษา วิจารณ์ ข้อยุติ ข้อเสนอแนะ สถานะองค์ความรู้ และเอกสารอ้างอิง ความยาวของนิพนธ์ต้นฉบับทั้งหมด ไม่ควรเกิน 12-14 หน้า พิมพ์กระดาษขนาด A4 (Cordia New ขนาดตัวอักษร 14)

บทความปริทัศน์

บทความปริทัศน์ (Review article) เป็นบทความที่รวบรวมความรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งจาก วารสาร หรือหนังสือต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ประกอบด้วย ชื่อผู้นิพนธ์ (พร้อมชื่อสถานที่ ปฏิบัติงาน) บทคัดย่อ คำสำคัญ บทนำ วิธีการสืบค้นข้อมูล ผลการศึกษาทบทวน ข้อยุติ ข้อเสนอแนะ และเอกสารอ้างอิง และคำแนะนำสำหรับค้นคว้าเพิ่มเติม โดยจำแนกเอกสารอ้างอิงออกเป็น 3 ประเภท คือ ไม่ระบุ, *น่าสนใจ (*of special interest), และ ** น่าสนใจเป็นพิเศษ ( ** of outstanding interest) พร้อมทั้งระบุเหตุผลในการจำแนกประเภทของเอกสารอ้างอิงในวงเล็บท้ายเอกสารอ้างอิง นั้น ๆ ความยาวของบทความปริทัศน์ทั้งหมดไม่ควรเกิน 12-14 หน้า พิมพ์กระดาษขนาด A4 (Cordia New ขนาดตัวอักษร 14)

นโยบายความเป็นส่วนตัว

นโยบายความเป็นส่วนตัว 

ชื่อผู้ใช้งานและอีเมลของผู้ที่ส่งบทความเข้ามาตีพิมพ์ หรือผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่านที่อยู่ภายในเว็บไซต์วารสารการพัฒนาสุขภาพชุมชน มหาวิทยาลัยขอนแก่น จะถูกเก็บและนำไปใช้เพื่อจุดประสงค์ในการตีพิมพ์บทความภายในวารสารนี้เท่านั้น และจะไม่เปิดเผยเพื่อใช้ในวัตถุประสงค์อื่นใดที่นอกเหนือจากการดำเนินการเพื่อให้การตีพิมพ์บทความเป็นไปโดยเรียบร้อยและสมบูรณ์

หมายเหตุ: มุ่งมั่นดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) และกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของต่างประเทศที่ใช้บังคับ เช่น General Data Protection Regulation (GDPR)