ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะหลักของบุคลากรที่ปฏิบัติงานโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดพังงา
คำสำคัญ:
ปัจจัยจูงใจ , ปัจจัยค้ำจุน , สมรรถนะหลัก , โรงพยาบาลชุมชนบทคัดย่อ
การศึกษาเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวางนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ระดับปัจจัยจูงใจ และปัจจัยค้ำจุนของบุคลากร 2) ระดับสมรรถนะหลักของบุคลากร และ 3) ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะหลักของบุคลากรที่ปฏิบัติงานโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดพังงา กลุ่มตัวอย่างจำนวน 225 คน เก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 10 กันยายน – 25 กันยายน 2568 เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม ผ่านผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน ได้ค่าความสอดคล้องของแบบสอบถาม 1.00 ทุกข้อ ปัจจัยจูงใจ ปัจจัยค้ำจุน และสมรรถนะหลัก ได้ค่าสัมประสิทธิ์ เท่ากับ .884, .966 และ .968 ตามลำดับสถิติที่ใช้ ได้แก่ สถิติเชิงพรรณนา และสถิติถดถอยพหุคูณแบบหลายขั้นตอน
ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยจูงใจภาพรวมอยู่ในระดับสูง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับสูง ยกเว้นความก้าวหน้าในงานอยู่ในระดับปานกลาง ปัจจัยค้ำจุนภาพรวมอยู่ในระดับสูง เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับสูง ยกเว้นเงินเดือนและค่าตอบแทนอยู่ในระดับปานกลาง สมรรถนะหลักของบุคลากร พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับสูง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับสูงเช่นกัน และตัวแปรที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะหลัก ได้แก่ ความรับผิดชอบ สภาพแวดล้อมในการทำงาน ลักษณะงานที่ปฏิบัติประเภทการจ้าง (พนักงานราชการ) การได้รับการยอมรับนับถือและระดับการศึกษา (ประถมศึกษา) ซึ่งร่วมกันทำนายสมรรถนะหลักของบุคลากรได้ร้อยละ 64.30 (adjR2= .643)
ฉะนั้น ผู้บริหารควรมอบงานให้บุคลากรรับผิดชอบที่สอดคล้องกับลักษณะงานของบุคลากร และโรงพยาบาลควรให้การยอมรับผลงาน โดยการสร้างบรรยากาศที่ดีสำหรับบุคลากรที่สามารถปฏิบัติงานได้สำเร็จตรงตามเป้าหมาย
เอกสารอ้างอิง
โกวิทย์ แท่งทอง และมิ่งขวัญ ศิริโชติ. (2567). ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจกับสมรรถนะหลักในการปฏิบัติงานของนักวิชาการสาธารณสุขในหน่วยบริการระดับปฐมภูมิ จังหวัดตรัง. วารสารพยาบาลทหารบก, 25(2), 212-220.
ฉวีวรรณ ทองทาสี. (2566). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับสมรรถนะของบุคลากรสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี. วารสารโรงพยาบาลสิงห์บุรี, 32(1), B28-40.
ธนากร วรัมพร, จุฑาธิป ศีลบุตร และฉัตรสุมน พฤฒิภิญโญ. (2568). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะของบุคลากร กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข. วารสารกฎหมายและนโยบายสาธารณสุข, 11(2), 345-358.
นุชิตา ม่วงงาม, จารุวรรณ ธาดาเดช และจุฑาธิป ศีลบุตร. (2567). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะหลักของบุคลากรด้านสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลของจังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารสภาการสาธารณสุขชุมชน, 6(3), 163-177
พัชมณ ปัญจงามพัฒนา และเฉลิมพร เย็นเยือก. (2567). สมรรถนะหลักในการปฏิบัติงานของข้าราชการ : กรณีศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายสากล กองบัญชาการกองทัพไทย. วารสารสมาคมนักวิจัย, 29(1), 167-178
เพชรรัตน์ อรุณภาคมงคล, ฉัตรสุมน พฤฒิภิญโญ และณัฐนารี เอมยงค์. (2566). สมรรถนะหลักของบุคลากรศูนย์อนามัยแห่งหนึ่งในสังกัดกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. วารสารกฎหมายและนโยบายสาธารณสุข, 9(1), 35-47.
ระนอง เกตุดาว. (2559). บรรยากาศองค์กรที่มีผลต่อสมรรถนะหลักของบุคลากรของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี. วารสารการแพทย์โรงพยาบาลอุดรธานี, 24(2), 164-173.
ศิริพร สกุลพราหมณ์. (2565). ปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการทำงานของบุคลากรในสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารศาสตร์สาธารณสุขและนวัตกรรม, 2(2), 55-68
สถาบันพัฒนาข้าราชการพลเรือน สำนักงาน ก.พ. (2553). คู่มือการพัฒนาข้าราชการตามสมรรถนะหลัก (Core Competencies). กรุงเทพมหานคร: บริษัท แอร์บอร์น พรินต์ จำกัด.
สำนักงานข้าราชการพลเรือน. (2553). คู่มือการกำหนดสมรรถนะในข้าราชการพลเรือน: คู่มือสมรรถนะหลัก. นนทบุรี. บริษัท ประชุมช่าง จำกัด.
สำนักงานข้าราชการพลเรือน. (2566). คู่มือการดำเนินการตามแนวทางการพัฒนาบุคลากรภาครัฐ พ.ศ.2566 – 2570. นนทบุรี.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2561). ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561 - 2580. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2568. จาก http://nscr.nesdc.go.th/wpcontent/uploads/2023/06/NS_PlanOct2018.pdf
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา. (2568). ข้อมูลบุคลากรสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา. กระทรวงสาธารณสุข.
Best, J. W. (1977). Research in Education. (3nded). Englewod Cliffs: Prentice-Hall.
Cohen, J. (1988). Statistical Power Analysis for the Behavioral Sciences. 2nd ed. Hillsdale, NJ: Lawrence Erlbaum Associates, Publishers.
Faul, F., Erdfelder, E., Lang, A. G., & Buchner, A. (2007). G*Power 3: A Flexible Statistical Power Analysis Program for the Social, Behavioral, and Biomedical Sciences. Behavior Research Methods, 39, 175-191.
Herberz, F. (1891). Federick; Mausner, Bernard; and Synderman, Block the Motvation to Work. New York: John Willey
Naing, L., Winn, T., & Rusli, B. N. (2006). Practical Issues in Calculating the Sample Size for Prevalence Studies. Archiver of Orofacial Sciences, 1(1), 9-14.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสมาคมนวัตกรรมการพยาบาลและสุขภาพ
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
