Home ThaiJO
ข้อมูลสำหรับผู้แต่ง
หากท่านสนใจส่งบทความเพื่อเผยแพร่ในวารสารโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ แนะนำให้ท่านอ่านนโยบายของวารสารได้จากหน้า เกี่ยวกับวารสาร และศึกษา คำแนะนำสำหรับผู้แต่ง รวมทั้งท่านสามารถ ลงทะเบียน เพื่อรับได้สิทธิ์ในการส่งบทความ หรือหากท่านเคยลงทะเบียนเป็นผู้แต่งของวารสารนี้แล้ว ท่านสามารถเริ่มขั้นตอนการ ส่งบทความ ได้เลย ทั้งนี้ การเตรียมต้นฉบับบทความท่านสามารถเตรียมได้จาก เทมเพลตนิพนธ์ต้นฉบับงานวิจัย หรือ เทมเพลตต้นฉบับรายงานผู้ป่วย KLSJ
คำแนะนำในการเตรียมต้นฉบับบทความ
คำแนะนำสำหรับผู้นิพนธ์บทความวิชาการ ผู้ประสงค์จะส่งต้นฉบับเพื่อเผยแพร่ในวารสารโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ควรเตรียมต้นฉบับตามคำแนะนำเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการเผยแพร่ผลงาน
ข้อแนะนำในการเตรียมต้นฉบับสำหรับผู้นิพนธ์
วารสารโรงพยาบาลกาฬสินธุ์เป็นวารสารด้านวิชาการ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ ได้แก่ บทความวิจัย บทความวิชาการ รายงานผู้ป่วย รวมทั้งปกิณกะสาระความรู้ด้านสาธารณสุขให้แก่ผู้ที่ต้องการศึกษาค้นคว้าหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเพื่อส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพการทำงานของบุคคลากรทางด้านสาธารณสุข และผู้ประสงค์จะส่งต้นฉบับเพื่อเผยแพร่ในวารสารควรเตรียมต้นฉบับตามคำแนะนำเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการเผยแพร่ผลงาน
ประเภทบทความที่สามารถลงตีพิมพ์ได้แก่
ประเภทผลงานวิชาการที่สามารถเผยแพร่ ได้แก่
บทความวิจัย (Research article) ได้แก่ บทความที่เสนอผลงานใหม่ที่ได้จากการศึกษาวิจัย และยังไม่เคยเผยแพร่หรืออยู่ระหว่างดำเนินการเผยแพร่ในวารสารใดๆ มาก่อน
บทความวิชาการ (Academic article) ได้แก่ บทความที่ได้จากการรวบรวมนำเอาความรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารหรือหนังสือต่าง ๆ หรือจากผลงานและประสบการณ์ของผู้นิพนธ์เอง นำมาเรียบเรียง วิเคราะห์วิจารณ์ หรือเปรียบเทียบกันเพื่อให้เกิดความลึกซึ้งหรือเกิดความกระจ่างในเรื่องนั้นมากยิ่งขึ้น หรือเป็นบทความทางวิชาการทางการแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกรรม พยาบาล การสาธารณสุข หรือวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งอาจมีลักษณะเป็นบทวิเคราะห์วิจารณ์ หรือบทความทางด้านการบริหารที่เกี่ยวข้องและเห็นว่าเป็นประโยชน์
รายงานผู้ป่วย (Case report) เป็นรายงานผู้ป่วยที่น่าสนใจ เช่น การบาดเจ็บ ความผิดปกติหรือโรคที่พบได้ยาก และน่าศึกษา ใช้วิธีการนวัตกรรมหรือเครื่องมือใหม่ในการดูรักษาผู้ป่วย
ปกิณกะ (Miscellany) เป็นบทความหรือสาระความรู้ ได้แก่ บทความอื่นๆ หรือรายงานที่เกี่ยวกับการแพทย์ สาธารณสุข และสิ่งแวดล้อมที่เป็นประโยชน์ รวมถึงนวัตกรรม หรือบทความที่ส่งเสริมการพัฒนาระบบงาน ส่งเสริมความเข้าใจอันดีต่อผู้ปฏิบัติงานทางด้านสาธารณสุขและผู้เกี่ยวข้อง
การเตรียมต้นฉบับ
- พิมพ์ต้นฉบับด้วยคอมพิวเตอร์โปรแกรมสำเร็จรูป Microsoft Word for Windows โดยใช้ กระดาษพิมพ์ขนาด A4 พิมพ์หน้าเดียวด้วยอักษร TH SarabunPSK ขนาด 16 เว้นบรรทัดใช้ระยะ single space ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยเว้นระยะห่างจากขอบกระดาษด้านบน 2.5 ซม. ด้านล่าง 2.5 ซม.ขอบซ้าย 3 ซม. และขอบขวา 1.5 ซม. และพิมพ์เลขหน้ากำกับทุกแผ่น เนื้อหาควรกระชับ ชัดเจน ครอบคลุมเนื้อหาสำคัญ และไม่เกิน 12 หน้า
- พิมพ์ชื่อผู้เขียน คุณวุฒิตำแหน่ง และสถานที่ทำงานทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษไว้ใต้ชื่อผู้แต่ง
- เขียนบทคัดย่อทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ก่อนนำเสนอเนื้อหาของบทความ และกำหนดคำสำคัญ 3-5 คำ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ การเรียงหัวข้อของเนื้อเรื่องให้พิจารณา ตามความเหมาะสม
- การใช้ภาษาในการเขียน กำหนดใช้ภาษาไทยโดยยึดหลักของราชบัณฑิตสถาน หลีกเลี่ยงการใช้ภาษาอังกฤษในข้อความภาษาไทย ยกเว้นกรณีจำเป็นและไม่ใช้คำย่อ นอกจากเป็นคำที่ยอมรับกันโดยทั่วไป การแปลศัพท์อังกฤษเป็นไทยหรือการเขียนทับศัพท์ภาษาอังกฤษให้ยึดหลักของราชบัณฑิตสถาน การใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษในเนื้อเรื่องภาษาไทย ให้ใช้อักษรตัวพิพม์เล็ก ยกเว้นชื่อเฉพาะให้ขึ้นต้นด้วยอักษรตัวพิมพ์ใหญ่
รูปแบบการเขียนบทความวิจัย
- ชื่อเรื่อง (Title) ควรกระชับ ชัดเจน ครอบคลุมเนื้อหาสำคัญ ชื่อเรื่องภาษาไทย ใช้อักษรขนาด 16 ตัวหนา และภาษาอังกฤษใช้อักษรขนาด 16 ตัวหนา พิมพ์กึ่งกลางหน้ากระดาษ
- บทคัดย่อ (Abstract) มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยนำบทคัดย่อภาษาไทยขึ้นก่อนภาษาอังกฤษ เนื้อหาในบทคัดย่อควรระบุ วัตถุประสงค์ รูปแบบและวิธีดำเนินการวิจัย ผลการศึกษา สรุปผลการศึกษา หัวข้อบทคัดย่อใช้ตัวอักษร ขนาด 16 ตัวหนา ส่วนเนื้อหาใช้ตัวธรรมดา พิมพ์ชิดขอบทั้งสองด้านและมีความยาวไม่เกิน 300 คำ
- คำสำคัญ (Keywords) ให้พิมพ์ “คำสำคัญ:” เป็นภาษาไทย และ “Keywords:” ภาษาอังกฤษคำสำคัญเรียงตามตัวอักษร จำนวน 3-5 คำ
- เนื้อหา (Text) บทความวิจัยประกอบด้วย...
R บทนำ (Introduction) แสดงความสำคัญ หรือปัญหาที่นำไปสู่การวิจัย วัตถุประสงค์ และอาจรวมการทบทวนวรรณกรรม (Literature Review)
R วัตถุประสงค์
R รูปแบบและวิธีวิจัย ประกอบด้วย ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง การคำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่าง วิธีการได้มาซึ่งกลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูล
R การพิทักษ์สิทธิกลุ่มตัวอย่าง
R ผลการศึกษา
R สรุปผลการศึกษา
R อภิปรายผล อาจเขียนรวมกับผลการทดลองได้เป็นการประเมินการตีความ และวิเคราะห์ในแง่มุม ต่าง ๆ ควรมีการอ้างหลักการหรือทฤษฎีมาสนับสนุนหรือหักล้างอย่างเป็นเหตุผลเป็นผล
หมายเหตุ : เนื้อรวมแล้วไม่เกิน 12 หน้ากระดาษ (หากเกิน 12 หน้า กองบรรณาธิการจะไม่รับพิจารณา)
- เอกสารอ้างอิง (References) เขียนในรูปแบบ (Vancouver) คือเรียงลำดับตามเนื้อหา โดยใส่หมายเลขกำกับเป็นตัวยกในเนื้อหา (ไม่น้อยกว่า 14 รายการ)
- ตาราง รูป และสมการ
R ตาราง มีหมายเลขกำกับโดยใช้คำว่า “ตารางที่.....แสดง...” และมีคำอธิบายเหนือตาราง ต่อด้วยคำว่า “...ดังแสดงในตารางที่...”
R รูป มีหมายเลขกำกับโดยใช้คำว่า “รูปที่ .....แสดง...” และมีคำอธิบายใต้รูป ทั้งนี้ ทุกตารางและรูปที่ใส่ไว้ในบทความจะต้องมีการกล่าวอ้างในเนื้อบทความ
R สมการ พิมพ์กึ่งกลางคอลัมน์
หมายเหตุ : รูปภาพและตารางรวมกันไม่เกิน 5 รูป/ตาราง
- การส่งต้นฉบับ ส่งต้นฉบับที่ระบุชื่อผู้นิพนธ์ จำนวน 1 ชุด มาที่ https://he05.tci-thaijo.org/index.php/klshjo/about/submissions
การเขียนเอกสารอ้างอิง
ใช้รูปแบบแวนคูเวอร์ ดังนี้
- การอ้างอิงในเนื้อหา ไม่ว่าจะเป็นตัวเนื้อหาเอง, ตาราง, และรูปภาพต่างๆ ให้ใส่ตัวเลขอารบิก เป็นตัวยกในเครื่องหมายวงเล็บ ( ) ท้ายข้อความที่อ้างอิง และเรียงลำดับก่อนหลังตามการอ้างอิง
- ไม่ควรใช้บทคัดย่อ (Abstracts) เป็นเอกสารอ้างอิง
- หลีกเลี่ยงการอ้างอิงเอกสารติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคล (Personal communication) ยกเว้น เป็นข้อมูลที่สำคัญที่หาไม่ได้จากสิ่งตีพิมพ์สาธารณะต่างๆ ซึ่งกรณีนี้ควรอ้างอิงชื่อบุคคล และวันที่ที่ติดต่อ สื่อสารภายในวงเล็บด้วย
ตัวอย่างการเขียนเอกสารอ้างอิง
- การอ้างอิงบทความจากวารสาร (Articles in Journals)
รูปแบบพื้นฐาน Ø ชื่อผู้แต่ง (Author). ชื่อบทความ (Title of the article). ชื่อวารสาร (Title of the Journal) ปีพิมพ์ (Year);เล่มที่ของวารสาร (Volume):หน้าแรก-หน้าสุดท้าย (Page).
- การอ้างอิงเอกสารที่เป็นหนังสือหรือตำรา
รูปแบบพื้นฐาน Ø ชื่อผู้แต่ง (Author). ชื่อหนังสือ (Title of the book). ครั้งที่พิมพ์ (Edition). เมืองที่พิมพ์ (Place of Publication): สํานักพิมพ์ (Publisher); ปี (Year)
- การอ้างอิงบทหนึ่งของหนังสือที่มีผู้เขียนเฉพาะบท และมีบรรณาธิการของหนังสือ
รูปแบบพื้นฐาน Ø ชื่อผู้เขียน (Author). ชื่อบท (Title of a chapter). ใน/In: ชื่อบรรณาธิการ, บรรณาธิการ/editor(s). ชื่อหนังสือ (Title of the book). ครั้งที่พิมพ์ (Edition). เมืองที่พิมพ์ (Place ofpublication) : สำนักพิมพ์ (Publisher); ปีที่พิมพ์ (Year). หน้า/p. หน้าแรก-หน้าสุดท้าย
- การเขียนเอกสารอ้างอิงที่เป็นรายงานทางวิชาการ หรือรายงานทางวิทยาศาสตร์
รูปแบบพื้นฐาน Ø ชื่อผู้เขียน. ชื่อเรื่อง. เมืองที่พิมพ์ : หน่วยงานที่พิมพ์/แหล่งทุน; ปีที่พิมพ์. เลขที่รายงาน .
- การอ้างอิงเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Material)
รูปแบบพื้นฐาน Ø ชื่อผู้แต่ง (Author). ชื่อบทความ (Title of the article) [ประเภทของสื่อ/วัสดุ]. ปีพิมพ์ [เข้าถึงเมื่อ/cited ปี เดือน วันที่]. เข้าถึงได้จาก/ Available from: http://………….
- การอ้างอิงบทความวารสารบนอินเทอร์เน็ต (Journal article on the Internet)
รูปแบบพื้นฐาน Ø ชื่อผู้แต่ง (Author). ชื่อบทความ (Title of the article). ชื่อวารสาร (Title of the Journal) [ประเภทของสื่อ]. ปีพิมพ์ [เข้าถึงเมื่อ/cited ปี เดือน วันที่]: ปีที่ [หน้า/about
screen]. เข้าถึงได้จาก/ Available from: http://………….
- การอ้างอิงวิทยานิพนธ์ (Thesis/Dissertation)
รูปแบบพื้นฐาน Ø ชื่อผู้เขียน. ชื่อเรื่อง [ประเภทหรือระดับปริญญา]. เมืองที่พิมพ์: ชื่อมหาวิทยาลัย; ปีพิมพ์.