เกี่ยวกับวารสาร
วารสารโรงพยาบาลพุทธโสธร (Buddhasothorn Hospital Journal; BSHJ) เป็นวารสารทางการแพทย์ของโรงพยาบาลพุทธโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา เริ่มเผยแพร่เป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2527 ต่อมาได้จดทะเบียนเลขมาตรฐานสากลประจำวารสาร (International Standard Serial Number; ISSN) เมื่อปี พ.ศ.2560 ในระยะแรกวารสารโรงพยาบาลพุทธโสธรเผยแพร่สิ่งพิมพ์ในลักษณะรูปเล่ม จนกระทั่งกลางเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2566 วารสารได้เปิดใช้งานวารสารออนไลน์ของระบบฐานข้อมูลวารสารอิเล็กทรอนิกส์กลางของประเทศไทย (Thai Journals Online; ThaiJO) โดยเริ่มรับบทความทางออนไลน์ผ่านระบบ ThaiJO ในเดือนตุลาคม พ.ศ.2566 และจะเริ่มเผยแพร่ในรูปแบบวารสารอิเล็กทรอนิกส์ในเดือนมกราคม พ.ศ.2567 เป็นต้นไป
วารสารโรงพยาบาลพุทธโสธรเป็นวารสารที่จัดทำขึ้นมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่บทความเกี่ยวกับการแพทย์และสาธารณสุข ได้แก่ บทความวิจัย รายงานผู้ป่วย บทความฟื้นวิชา และบทความวิชาการที่น่าสนใจทางการแพทย์ การสาธารณสุข และแพทยศาสตร์ศึกษา
กระบวนการพิจารณาบทความเพื่อตีพิมพ์ในวารสาร
บทความทุกบทความ เช่น บทความวิจัย และรายงานผู้ป่วย จะได้รับการพิจารณากลั่นกรองโดยผู้ทรงคุณวุฒิอย่างน้อย 2 ท่าน โดยผู้ส่งบทความและผู้พิจารณาจะไม่ทราบชื่อของกันและกัน (Double-Blind) สำหรับบทความของบุคคลภายในจะได้รับพิจารณากลั่นกรองจากบุคคลหรือบรรณาธิการภายนอกสถาบัน ทั้งนี้บทความที่ส่งมาตีพิมพ์ ต้องไม่เคยตีพิมพ์หรืออยู่ระหว่างการตีพิมพ์ของวารสารอื่น
กำหนดการออกวารสาร
วารสารโรงพยาบาลพุทธโสธร กำหนดออกปีละ 4 ฉบับ
ฉบับที่ 1 เดือนมกราคม-มีนาคม
ฉบับที่ 2 เดือนเมษายน-มิถุนายน
ฉบับที่ 3 เดือนกรกฏาคม-กันยายน
ฉบับที่ 4 เดือน ตุลาคม-ธันวาคม
ปัจจุบันวารสารโรงพยาบาลพุทธโสธรได้จัดทำเฉพาะรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Online) โดยมีเลข ISSN 2 รูปแบบ ดังนี้
ISSN 2985-2587 (Online)
สุดท้ายนี้ ทีมกองบรรณาธิการมีความตั้งใจจะพัฒนาวารสารให้มีคุณภาพ มีมาตรฐานทางจริยธรรมสำหรับการตีพิมพ์เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นสิ่งพิมพ์ทางวิทยาศาสตร์ที่มีคุณภาพสูง เป็นที่ไว้วางใจของสาธารณชนต่อผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ดังนั้นจึงขอเชิญชวนผู้ตีพิมพ์ส่งต้นฉบับผลงานทางวิชาการ งานวิจัยมายังวารสารโรงพยาบาลพุทธโสธร เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าวารสารโรงพยาบาลพุทธโสธรจะเป็นวารสารทางวิชาการในการเผยแพร่ผลงานทางการแพทย์ การสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์สุขภาพที่มีคุณค่าเพื่อประโยชน์ทางด้านการแพทย์ การสาธารณสุขและการดูแลสุขภาพในอนาคตต่อไป