ผลของโปรแกรมสติบำบัดต่อการลดภาวะซึมเศร้า และการกลับมาเสพซ้ำในกลุ่มผู้เข้ารับการบำบัด การติดสารเมทแอมเฟตามีน โรงพยาบาลพนมสารคาม
Main Article Content
บทคัดย่อ
ที่มาของปัญหา: การติดเมทแอมเฟตามีนส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพจิต มักนำไปสู่ภาวะซึมเศร้ารุนแรงและมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการกลับมาเสพซ้ำ แนวทางการรักษาแบบดั้งเดิมมักไม่สามารถจัดการกับความซับซ้อนทางจิตใจที่ผู้ป่วยที่ต่อสู้กับการติดยาต้องเผชิญได้ การบูรณาการพยาบาลที่เน้นการเจริญสติจะเป็นกลยุทธ์ที่ส่งเสริมการควบคุมอารมณ์และการฟื้นฟูสุขภาพในผู้ติดสารเมทแอมเฟตามีนได้
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาผลของการใช้โปรแกรมสติบำบัด ต่อระดับความรุนแรงของภาวะซึมเศร้า และการกลับมาเสพซ้ำในกลุ่มผู้เข้ารับการบำบัดการติดสารเมทแอมเฟตามีน
วิธีการศึกษา: การวิจัยแบบกึ่งทดลองนี้ศึกษาในผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่มารับบริการในโรงพยาบาลพนมสารคาม และเคยเสพสารเมทแอมเฟตามีนได้รับการบำบัดครบในระยะ1เดือนที่ผ่านมาจำนวน25รายตั้งแต่ ตุลาคม ถึง ธันวาคม 2567 เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการวิจัย คือ โปรแกรมสติบำบัด เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล แบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล แบบประเมินภาวะซึมเศร้า และชุดทดสอบสารเสพติดในปัสสาวะ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ Paired Student t Test และ Chi-square test
ผลการศึกษา: พบว่าหลังได้รับโปรแกรมฯ กลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ยของภาวะซึมเศร้าดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p =0.01) หลังการได้รับโปรแกรมฯ การเสพสารเสพติดลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ(p-value
= 0.01)
สรุป: จากผลการศึกษานี้ การใช้โปรแกรมสติบำบัดสามารถช่วยภาวะซึมเศร้า ลดการกลับมาเสพซ้ำในกลุ่มผู้ที่เสพสารเมทแอมเฟตามีนได้
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี. รายงานการป่วยของผู้ป่วยใน:10 อันดับโรคแรก สาเหตุการป่วยของผู้ป่วยในและนอกยาเสพติด.กรุงเทพมหานคร:สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์กระทรวง; 2559.
กรมสุขภาพจิต. ป่วยจิต ซึมเศร้า สถิติไทยพุ่ง.[Internet]: 2 566. (สืบค้นเมื่อ25พฤษภาคม2566). เข้าถึงได้จากhttp://thaipbs.or.th/news/content/324887.
นันทภัค ชนะพันธ์. ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า:บทบาทพยาบาลในการดูแลเพื่อส่งเสริมการดูแลผู้ป่วยโรคซึมเศร้า.วารสารพยาบาลศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.2563; 32(1):77
รายงานประจำปีงานผู้ป่วยนอกคลินิกจิตเวชและยาเสพติด. โรงพยาบาลพนมสารคาม (เอกสารไม่ได้ตีพิมพ์). 2567.
ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานต์. คู่มือสติบำบัด [Mindfulness- based therapy and counseling (MBTC) manual]. กรุงเทพฯ: บริษัท บียอนด์พับลิสชิ่ง จำกัด; 2559.
Kabat-Zinn, J., Massion, A. O., Krisyeller, J., Peterson, L. G., Fletcher. K. E., Pbert, Letal, et al. (1992). Effectiveness of a meditation-based stress reduction program in the treatment of anxiety disorders. American Journal of Psychiatry, 149(7), 936-943.
Keng SL, Smoski MJ, Robins C. Effects of mindfulness on psychological health: Theory and evidence. Clinical Psychology Review. 2011;31(6):1041-1056.
Hölzel BK, Carmody J, Vangel M, Congleton C, Yerramsetti S, Sheridan J, et al. Mindfulness practice leads to increases in regional brain gray matter density. Psychiatry Research: Neuroimaging. 2011;191(1):36-43.
Seligman MEP, Steen TA, Park N, Peterson C. Positive psychology progress: empirical validation of interventions. American Psychologist. 2005;60(5):410-421.
Marlatt GA, Kristeller J. Mindfulness and mindfulness-based interventions in behavioral health care. Journal of Cognitive Psychotherapy.1999;13(2):163-166.
, Caldwell K, Harrison M, Adams M, Mechanick C, Kearney M. Mindfulness meditation and yoga: a randomized controlled trial of effects on stress, well-being, and health-related quality of life among individuals with a history of substance use disorder. Journal of Substance Abuse Treatment. 2010; 38(1):1-11.
ผการัตน ฤทธิ์วิเศษ, มานพ คณะโต. การพัฒนาเครื่องมือประเมินความอยากเสพยาในผู้ป่วยยาบ้า. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์. 2560; 7(4): 60. .
Imani S, Atef Vahid MK, Gharraee B, Noroozi A, Habibi M, S. B. Effectiveness of mindfulness-Based group therapy compared to the usual opioid dependence treatment. Iran J Psychiatry, 2015; 10(6):175-84.
McCrady BS, Epstein EE.Addictions: A comprehensive guidebook: Oxford University Press.; 2018.