ผลของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่สัมพันธ์กับโรคตาแห้งในกลุ่มวัยทํางาน
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทนำ: โรคตาแห้งเป็นโรคที่พบได้บ่อย และพบได้ในทุกช่วงอายุ ปัจจุบันโรคตาแห้งมีแนวโน้มเพิ่มสูงทั่วโลกจากพฤติกรรมการใช้หน้าจออุปกรณ์ต่างๆ โดยการจ้องหรือทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน ส่งผลให้มีอาการระคายเคืองตา แสบตา และตาแห้งได้ ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพในการทำงาน ปัจจุบันแนวทางการรักษาโรคตาแห้ง นอกจากรักษาที่สาเหตุของโรคร่วมกับกับการใช้ยาหยอดตาแล้ว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมวิถีชีวิตและสภาพแวดล้อมจะช่วยป้องกันความรุนแรงและอาการแทรกซ้อนของโรคตาแห้งที่มากขึ้นได้
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาผลของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในโรคตาแห้งในกลุ่มวัยทำงานที่ได้รับวินิจฉัยว่าเป็นโรคตาแห้ง
วิธีการศึกษา: การวิจัยกึ่งทดลองแบบกลุ่มเดียว เปรียบเทียบผลลัพธ์ทางคลินิกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยใช้เทคนิค Motivation Interviewing เป็นเวลา 3 เดือน ในผู้ป่วยที่ได้รับวินิจฉัยว่าเป็นโรคตาแห้ง ที่โรงพยาบาลสนามชัยเขต ระหว่างวันที่ 1 กันยายน 2567 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568 เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการทำแบบสอบถาม Ocular Surface Disease Index (OSDI) สำหรับวัดระดับความรุนแรงของโรคตาแห้ง และการตรวจ Tear Break-Up Time (TBUT) เพื่อประเมินความเสถียรของฟิล์มน้ำตา แล้วนำมาวิเคราะห์ด้วยสถิติ Paired t-test และ Wilcoxon signed-rank test ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบลักษณะการแจกแจงข้อมูลด้วย Shapiro-Wilk test รายงานด้วยค่าผลต่างของค่าเฉลี่ย โดยมีระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05
ผลการศึกษา: จากการศึกษามีผู้เข้าเกณฑ์เป็นกลุ่มวัยทำงานที่ได้รับวินิจฉัยว่าเป็นโรคตาแห้ง 39 คน มีช่วงอายุระหว่าง 24-58 ปี โดยมีอายุเฉลี่ย 43 ปี จากผลการศึกษาเปรียบเทียบก่อนและหลังปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อมที่ 3 เดือน พบว่าระดับความรุนแรงของอาการตาแห้งลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) และความเสถียรของชั้นฟิล์มน้ำตาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05)
สรุปผลการศึกษา: โปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมโดยใช้เทคนิค Motivation Interviewing เป็นเวลา 3 เดือน ส่งผลให้ผู้ป่วยโรคตาแห้งในกลุ่มวัยทำงาน มีอาการดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทั้งในด้านความรุนแรงของอาการตาแห้งและความเสถียรของชั้นฟิล์มน้ำตา ซึ่งสนับสนุนแนวคิดที่ว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อมสามารถนำมาใช้ร่วมกับการรักษาโรคตาแห้ง เพื่อลดความรุนแรงของอาการและเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วยโรคตาแห้งได้
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
Stapleton F, Alves M, Bunya VY, et al. TFOS DEWS II epidemiology report. Ocul Surf. 2017;15(3):334-365.
Farrand KF, Fridman M, Stillman IO, Schaumberg DA. Prevalence of diagnosed dry eye disease in the United States among adults aged 18 years and older. Am J Ophthalmol. 2017;182:90.
Yu X, Guo H, Liu X, Wang G, Min Y, Chen SS, et al. Dry eye and sleep quality: a large community-based study in Hangzhou. Sleep. 2019;42(11):zsz160.
Um SB, Kim NH, Lee HK, Song JS, Kim HC. Spatial epidemiology of dry eye disease: findings from South Korea. Int J Health Geogr. 2014;13:31.
Tan LL, Morgan P, Cai ZQ, Straughan RA. Prevalence of and risk factors for symptomatic dry eye disease in Singapore. Clin Exp Optom. 2015;98(1):45-53.
Lekhanont K, Rojanaporn D, Chul KS, Vongthongsri A. Prevalence of dry eye in Bangkok, Thailand. Cornea. 2006;25(10):1162-1167.
Kasetsuwan N, Erjongmanee S, Thienprasiddhi P, Jitapunkul S. Prevalence of dry eyes in elderly Thai population (the Romklao eye study). Asian Biomed. 2012;6:875-882.
Craig JP, Nichols KK, Akpek EK, Caffery B, Dua HS, Joo CK, et al. TFOS DEWS II definition and classification report. Ocul Surf. 2017;15(3):276-283.
Wolffsohn JS, Arita R, Chalmers R, Djalilian A, Dogru M, Dumbleton K, et al. TFOS DEWS II diagnostic methodology report. Ocul Surf. 2017;15(3):539-574.
Courtin R, Pereira B, Naughton G, et al. Prevalence of dry eye disease in visual display terminal workers: a systematic review and meta-analysis. BMJ Open. 2016;6(1):e009675.
Uchino Y, Uchino M, Yokoi N, et al. Alteration of tear mucin 5AC in office workers using visual display terminals: the Osaka Study. JAMA Ophthalmol. 2014;132(8):985-992.
Paulsen AJ, Cruickshanks KJ, Fischer ME, et al. Dry eye in the Beaver Dam Offspring Study: prevalence, risk factors, and health-related quality of life. Am J Ophthalmol. 2014;157(4):799-806.
Kawashima M, Uchino M, Yokoi N, et al. The association between dry eye disease and physical activity as well as sedentary behavior: results from the Osaka Study. J Ophthalmol. 2014;2014:943786.
Donthineni PR, Shanbhag SS, Basu S. An evidence-based strategic approach to prevention and treatment of dry eye disease, a modern global epidemic. Healthcare (Basel). 2021;9:89.
Kawashima M, Uchino M, Yokoi N, et al. Decreased tear volume in patients with metabolic syndrome: the Osaka Study. Br J Ophthalmol. 2014;98(3):418-420.
Psihogios JP, Sommerich CM, Mirka GA, et al. A field evaluation of monitor placement effects in VDT users. Appl Ergon. 2001;32:313-325.
Miller WR, Rollnick S. Motivational interviewing: helping people change. 3rd ed. New York: Guilford Press; 2012.
Martins RK, McNeil DW. Motivational interviewing as a behavioral intervention to promote health. J Clin Psychol. 2009;65(11):1232-1245.
