การส่งบทความ

เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน เพื่อส่งบทความ

ข้อกำหนดการส่งบทความ

ในขั้นตอนการส่งบทความ ผู้แต่งต้องตรวจสอบและยืนยันว่าปฏิบัติตามข้อกำหนดการส่งบทความทุกข้อ บทความที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดอาจถูกส่งคืนให้ผู้แต่งดำเนินการแก้ไข
  • ผู้นิพนธ์หลักต้องส่งแบบฟอร์มขออนุมัติการตีพิมพ์บทความใน WESR และแบบฟอร์มตรวจสอบก่อนส่งบทความต้นฉบับ โดยแนบไฟล์ดังกล่าวมาพร้อมกับบทความในขั้นตอนการส่งบทความ
  • ผู้นิพนธ์หลักได้แนบเบอร์โทรศัพท์ อีเมล และสถานที่ทำงานของตนเอง เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารเรียบร้อยแล้ว
  • ขั้นตอนการส่งบทความ ผู้นิพนธ์หลักต้องตรวจสอบและปฏิบัติตามข้อกำหนดรายการตรวจสอบการส่งทุกข้อ และบทความอาจถูกส่งคืนให้กับผู้นิพนธ์หลักกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมด
  • บทความที่ส่งมาตีพิมพ์ต้องไม่เคยตีพิมพ์ในวารสารใด ๆ และข้อมูลปฐมภูมิที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลจะต้องมีระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี นับตั้งแต่สิ้นสุดการเก็บข้อมูล
  • การอ้างอิงในเนื้อหา และเอกสารอ้างอิงท้ายบทความใช้ตามหลักเกณฑ์ Vancouver และต้องมีการอ้างอิงแหล่งที่มาอย่างถูกต้องไม่มีปัญหาการลอกเลียนงานวิชาการ (Plagiarism)
  • บทความต้นฉบับต้องพิมพ์ด้วยโปรแกรมไมโครซอฟท์เวิร์ด โดยใช้ตัวอักษร TH Sarabun New การแสดงรูปภาพ แผนภูมิ และตารางขอให้อยู่ในเนื้อหาที่สอดคล้องกัน

คำแนะนำผู้แต่ง

ประเภทบทความที่เผยแพร่ แบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลัก มีดังนี้

1) บทความต้นฉบับ

  • การสอบสวนทางระบาดวิทยา
  • การประเมินแผนงานสาธารณสุขและการประเมินระบบเฝ้าระวัง
  • การศึกษาทางระบาดวิทยา
  • รายงานผู้ป่วย
  • การศึกษาวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันควบคุมโรค

2) สรุปการตรวจสอบข่าวการระบาดของโรคและภัยสุขภาพในรอบสัปดาห์

3) รายงานโรคเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา

4) สถานการณ์โรคและภัยสุขภาพ

5) บทความประเภทอื่น ๆ ได้แก่ บันทึกจากบรรณาธิการ/บันทึกจากทีมภาคสนาม/รายงานด้านสุขภาพที่แจ้งเตือน/แนวทางการเฝ้าระวัง สอบสวน ควบคุมโรคและภัยสุขภาพ/บทความฟื้นวิชา

โดยแต่ละฉบับจะมีจำนวนบทความที่เผยแพร่ ประกอบด้วย บทความต้นฉบับจำนวน 2-3 บทความ สรุปการตรวจสอบข่าวการระบาดของโรคและภัยสุขภาพในรอบสัปดาห์จำนวน 4-5 บทความ รายงานการเฝ้าระวังโรคจำนวน 2-3 บทความ และสถานการณ์โรคและภัยสุภาพจำนวน 1-2 บทความ ส่วนบทความประเภทอื่น ๆ จะเผยแพร่แล้วแต่กรณี

ข้อแนะนำสำหรับผู้เขียน

ประเภทบทความที่เผยแพร่ใน WESR

1.1) การสอบสวนทางระบาดวิทยา เป็นรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเกิดโรค/ภัยประกอบด้วย สาเหตุปัจจัยของการเกิดโรค/ภัย แหล่งโรค/ภัย วิธีการถ่ายทอดโรค รวมถึงวิธีการกระจายของโรค/ภัย

องค์ประกอบรายงานและลำดับเนื้อเรื่อง

บทคัดย่อ คำสำคัญ บทนำ วิธีการศึกษา ข้อพิจารณาด้านจริยธรรมการวิจัย ผลการศึกษา อภิปราย ข้อจำกัดในการศึกษา มาตรการควบคุมและป้องกันโรค ข้อเสนอแนะ สรุป กิตติกรรมประกาศ การระดมทุน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ คำประกาศเกี่ยวกับ AI และเทคโนโลยีที่ช่วยเหลือด้วย AI ในกระบวนการเขียน และเอกสารอ้างอิง

  • ความยาวของเรื่อง ไม่เกิน 14 หน้า
  • ตาราง รูปภาพ หรือกล่อง ไม่เกิน 4 รูป
  • การอ้างอิง ไม่น้อยกว่า 10 แหล่ง

1.2) การประเมินแผนงานสาธารณสุขและการประเมินการเฝ้าระวัง

การศึกษา/ประเมินระบบการจัดการ และการเฝ้าระวังต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานระบาดวิทยาและงานควบคุมโรค ทั้งโรคติดต่อ โรคไม่ติดต่อ และโรคจากการประกอบอาชีพ

1.3) การศึกษาทางระบาดวิทยา เป็นวิเคราะห์งานข้อมูลจากการเฝ้าระวังระบบต่าง ๆ สถิติระดับประเทศ พื้นที่ ศึกษาวิเคราะห์ อธิบายลักษณะการเกิดโรคและการกระจายของโรค ตามบุคคล เวลา และสถานที่ พร้อมทั้งมีมาตรการป้องกันและควบคุมโรค หรือนำเสนอข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย

องค์ประกอบรายงานและลำดับเนื้อเรื่อง

บทคัดย่อ คำสำคัญ บทนำ วิธีการศึกษา ข้อพิจารณาด้านจริยธรรมการวิจัย ผลการศึกษา อภิปราย ข้อจำกัดในการศึกษา ข้อเสนอแนะ สรุป กิตติกรรมประกาศ การระดมทุน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ คำประกาศเกี่ยวกับ AI และเทคโนโลยีที่ช่วยเหลือด้วย AI ในกระบวนการเขียน และเอกสารอ้างอิง

  • ความยาวของเรื่อง ไม่เกิน 14 หน้า
  • ตาราง รูปภาพ หรือกล่อง ไม่เกิน 4 รูป
  • การอ้างอิง ไม่น้อยกว่า 10 แหล่ง

1.4) รายงานผู้ป่วย เป็นรายงานกรณีศึกษาที่เป็นโรคหรือกลุ่มอาการโรคใหม่/หรือพบยาก ต้องมีรายละเอียดอย่างครบถ้วน

องค์ประกอบรายงานและลำดับเนื้อเรื่อง

สถานการณ์โรค ข้อมูลคนไข้ บันทึกเวชกรรม (Clinic note) ลักษณะเวชกรรม (Case description) การดำเนินโรค (Clinic course) วิจารณ์หรือข้อสังเกต สรุปกรณีศึกษา การยินยอมอนุญาตของคนไข้ (informed consent) และเอกสารอ้างอิง

  • ความยาวของเรื่อง ไม่เกิน 10 หน้า
  • ตาราง รูปภาพ หรือกล่อง ไม่เกิน 4 รูป
  • การอ้างอิง ไม่น้อยกว่า 10 แหล่ง

1.5) การศึกษาวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันควบคุมโรค

การศึกษา ค้นคว้าวิจัย ตั้งคำถามการศึกษา เพื่อตอบคำถามวิจัย เลือกประเภทการศึกษา เก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงการศึกษามาตรการควบคุมโรค การป้องกันโรค นโยบาย กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับโรค/ภัยทางสาธารณสุข โดยคำนึงถึงเรื่องจริยธรรม (Ethic)

องค์ประกอบรายงานและลำดับเนื้อเรื่อง

บทคัดย่อ บทนำ วิธีการศึกษา วัสดุและวิธีการศึกษา ข้อพิจารณาด้านจริยธรรมการวิจัย ผลการศึกษา อภิปราย ข้อจำกัดในการศึกษา ข้อเสนอแนะ สรุป กิตติกรรมประกาศ การระดมทุน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ คำประกาศเกี่ยวกับ AI และเทคโนโลยีที่ช่วยเหลือด้วย AI ในกระบวนการเขียน เอกสารอ้างอิง

  • ความยาวของเรื่อง ไม่เกิน 14 หน้า
  • ตาราง รูปภาพ หรือกล่อง ไม่เกิน 5 รูป
  • การอ้างอิง ไม่น้อยกว่า 10 แหล่ง

2) สรุปการตรวจสอบข่าวการระบาดของโรคและภัยสุขภาพในรอบสัปดาห์

ทีม WATCH กรมควบคุมโรค เป็นผู้จัดทำและรวบรวมเหตุการณ์การระบาดของโรคและภัยสุขภาพที่สำคัญ ซึ่งได้รับรายงานในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานป้องกันควบคุมโรคทั้ง 13 แห่ง และสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผ่านโปรแกรมการตรวจสอบข่าวการระบาด กรมควบคุมโรค

องค์ประกอบรายงานและลำดับเนื้อเรื่อง

  • รายละเอียดเหตุการณ์การสอบสวนการระบาดของโรค/ภัยสุขภาพ ปัจจัยเสี่ยง และการดำเนินการมาตรการป้องกันและควบคุมโรคที่ได้ทำไปแล้วหรือต้องทำต่อไป
  • การประเมินความเสี่ยงในโรคที่มีการระบาดในช่วงนั้น ๆ
  • ข่าวการระบาดของโรค/ภัยสุขภาพในต่างประเทศ (อาจมีหรือไม่มี)
  • ความยาวของเรื่อง ไม่เกิน 10 หน้า ตารางหรือรูปภาพเสริม (ไม่บังคับ)

3) รายงานการเฝ้าระวังโรคทางระบาดวิทยา

จัดทำโดยบุคลากรของกองระบาดวิทยา ซึ่งกองระบาดวิทยาเป็นหน่วยงานรวบรวมข้อมูลในภาพรวมระดับประเทศ จากการได้รับรายงานจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเครือข่ายด้วยโรคที่ต้องเฝ้าระวัง รวบรวมรายงานโดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่ง และสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร

องค์ประกอบรายงานและลำดับเนื้อเรื่อง

นำเสนอจำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตที่มีการระบาดในพื้นที่ต่าง ๆ รายละเอียดแนวโน้มการพบโรคที่ต้องเฝ้าระวัง

ความครอบคลุมในการรายงาน

4) สถานการณ์โรค/ภัยสุขภาพ

จัดทำโดยบุคลากรของกองระบาดวิทยา หรือ บุคลากรของกรมควบคุมโรค เป็นการนำเสนอสถานการณ์โรคที่มีการระบาดในช่วงนั้น ๆ ทั้งในประเทศ/ต่างประเทศ

องค์ประกอบรายงานและลำดับเนื้อเรื่อง

ชื่อเรื่อง สรุปสั้น ๆ ภายใต้สัญลักษณ์แสดงหัวข้อย่อย บทนำ (กล่าวถึงสถานการณ์โดยรวม ใส่ความรู้เกี่ยวกับโรคหากเป็นโรคอุบัติใหม่หรือเป็นโรคหายาก) รายละเอียดลักษณะทางระบาดวิทยา ข้อมูลจากระบบเฝ้าระวังทางห้องปฏิบัติการ และระบบเฝ้าระวังอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ประเมินความเสี่ยง การประสานงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาตรการดำเนินการควบคุมโรค/ภัยระดับส่วนกลาง/พื้นที่ เอกสารอ้างอิง

  • ความยาวของบทความ 3–6 หน้า

5) บทความประเภทอื่น ๆ ได้แก่ บันทึกจากบรรณาธิการ/บันทึกจากทีมภาคสนาม/รายงานเหตุการณ์ด้านสุขภาพที่แจ้งเตือน/แนวทางการเฝ้าระวัง สอบสวน ควบคุมโรคและภัยสุขภาพ/ความคืบงานการศึกษาวิจัย

ผู้จัดทำมีดังนี้

  • บันทึกจากบรรณาธิการจัดทำโดยกองบรรณาธิการบริหารและกองบรรณาธิการวิชาการ
  • บันทึกจากทีมภาคสนาม/รายงานเหตุการณ์ด้านสุขภาพที่แจ้งเตือน/แนวทางการเฝ้าระวัง สอบสวน ควบคุมโรคและภัยสุขภาพ/บทความฟื้นวิชา จัดทำโดยบุคลากรกองระบาดวิทยา หรือบุคลากรของกรมควบคุมโรค

5.1) บันทึกจากบรรณาธิการ (editorial note)

  • การเพิ่มเติมข้อมูลที่จำเป็นหรืออธิบายบางส่วนของเนื้อหาให้ผู้อ่านเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น เช่น การให้บริบทเพิ่มเติม การชี้แจงข้อมูล หรือคำชี้แจงเพิ่มเติมเป็นการให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความหรือเนื้อหาที่กำลังเผยแพร่ เพื่อช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายขึ้น
  • การแสดงความคิดเห็นบรรณาธิการอาจใช้ 'editorial note' เพื่อแสดงความคิดเห็นส่วนตัว หรืออธิบายเบื้องหลังของการนำเสนอเนื้อหาในประเด็นต่างๆ ที่อยู่ในวารสารหรือสิ่งพิมพ์
  • การเน้นย้ำประเด็นสำคัญ เป็นการระบุถึงข้อความหลักหรือข้อสรุปที่ต้องการเน้นย้ำในเนื้อหาที่นำเสนอ

5.2) บันทึกจากทีมภาคสนาม (Note from the field)

เป็นบทความที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นหรือเพิ่งเกิดขึ้นซึ่งมีความสำคัญด้านสาธารณสุข เช่น การสอบสวนการระบาด กลุ่มก้อนที่มีอาการผิดปกติ ข่าวการระบาดที่ผิดปกติจากต่างประเทศ หรือ รายงานกรณีศึกษา (case report) ที่มีความสำคัญ

องค์ประกอบรายงานและลำดับเนื้อเรื่อง

ชื่อเรื่อง สรุปสั้น ๆ ภายใต้สัญลักษณ์แสดงหัวข้อย่อย ความเป็นมา การสอบสวนและผลการสอบสวนเหตุการณ์ บทสรุปเบื้องต้นและการดำเนินการควบคุมโรค/ภัยสุขภาพ องค์ประกอบอื่น เช่น กิตติกรรมประกาศ เอกสารอ้างอิง

  • ความยาวของเรื่อง ไม่เกิน 1–4 หน้า
  • ตาราง รูปภาพ หรือกล่อง ไม่เกิน 1 รูป
  • การอ้างอิง ไม่เกิน 5 แหล่ง

5.3) รายงานด้านสุขภาพที่แจ้งเตือน

เป็นรายงานเหตุการณ์ด้านสุขภาพที่ได้รับการแจ้งเตือน สื่อสารให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ผู้อ่านในวงกว้าง เพื่อลดการตื่นตระหนก ลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของโรค/ภัยสุขภาพในวงกว้าง

องค์ประกอบรายงานและลำดับเนื้อเรื่อง

ชื่อเรื่อง สรุปสั้น ๆ ภายใต้สัญลักษณ์แสดงหัวข้อย่อย เกริ่นนำ/ความเป็นมา แนวโน้มที่จะเกิดการระบาด/พบโรคในประเทศและต่างประเทศ ข้อมูลการเฝ้าระวังโรค/ภัยสุขภาพของประเทศที่เกี่ยวข้อง การสื่อสารความเสี่ยงต่อสาธารณะในพท./ภาพรวมประเทศ สิ่งที่ต้องดำเนินการต่อไป เอกสารอ้างอิง

  • ความยาวไม่ควรเกิน 4 หน้า

5.4) แนวทางการเฝ้าระวัง สอบสวน ควบคุมโรคและภัยสุขภาพ

เป็นบทความที่นำเสนอกลไก/วิธีการเฝ้าระวัง นิยามในการเฝ้าระวังโรค การจำแนกผู้ป่วย การรายงานผู้ป่วยตามระบบเฝ้าระวัง การสอบสวนโรค วิธีการเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ การนำส่งตัวอย่างตรวจทางห้องปฏิบัติการ องค์ประกอบอื่น เช่น ค่าใช้จ่ายในการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ ที่เกี่ยวข้อง

องค์ประกอบรายงานและลำดับเนื้อเรื่อง

ชื่อเรื่อง ความเป็นมา นิยามในการเฝ้าระวังโรค การจำแนกผู้ป่วย การรายงานผู้ป่วยตามระบบเฝ้าระวัง การสอบสวนโรค วิธีการเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ การนำส่งตัวอย่างตรวจทางห้องปฏิบัติการ องค์ประกอบอื่น เช่น ค่าใช้จ่ายในการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ ภาคผนวก เอกสารอ้างอิง

5.5) บทความฟื้นวิชา 

บทความที่ทบทวนหรือรวบรวมความรู้เรื่องใด เรื่องหนึ่งจากวารสารหรือหนังสือต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศประกอบด้วยบทนำวิธีการสืบค้นข้อมูล เนื้อหาที่ทบทวน บทวิจารณ์ และเอกสารอ้างอิง อาจมีความเห็นของผู้รวบรวมเพิ่มเติมด้วยก็ได้

องค์ประกอบรายงานและลำดับเนื้อเรื่อง

ชื่อเรื่อง บทคัดย่อ คำสำคัญ บทนำ ความรู้หรือข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนั้น บทวิจารณ์ และสรุปผลจากความคิดเห็นของผู้เขียน เอกสารอ้างอิง

  • ความยาวของเรื่อง ไม่เกิน 8 หน้า
  • ตาราง รูปภาพ หรือกล่อง ไม่เกิน 4 รูป
  • การอ้างอิง ไม่น้อยกว่า 10 แหล่ง

การส่งบทความ

ในกระบวนการส่งต้นฉบับ ผู้เขียนจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าต้นฉบับของตนปฏิบัติตามแนวทางดังต่อไปนี้ หากต้นฉบับไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเหล่านี้ อาจถูกส่งคืนให้ผู้เขียนแก้ไข

ข้อกำหนดทั่วไป

  • ความเป็นต้นฉบับ : ต้นฉบับจะต้องไม่เคยได้รับการตีพิมพ์มาก่อนในภาษาใด ๆ หรือในวารสารที่ผ่านการพิจารณาบทความ และไม่ควรอยู่ระหว่างการพิจารณาตีพิมพ์ที่อื่น
  • การยืนยันจากผู้เขียนร่วม : ผู้เขียนร่วมทั้งหมดจะต้องยอมรับและอนุมัติการส่งต้นฉบับเพื่อการตีพิมพ์ 
  • ข้อมูล : หากมีการใช้ข้อมูลปฐมภูมิ ข้อมูลนั้นจะต้องไม่เก่ากว่า 5 ปีนับจากวันที่สิ้นสุดการเก็บข้อมูล 
  • การส่งทางออนไลน์ : รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยารายสัปดาห์ (WESR) ยอมรับเฉพาะบทความต้นฉบับที่ส่งทางระบบออนไลน์โดยใช้ระบบ ThaiJo ให้ผู้นิพนธ์ส่งบทความออนไลน์ผ่านลิงก์เริ่มส่งบทความต้นฉบับ  หากต้องการเริ่มการส่งใหม่หรือตรวจสอบการส่งที่รอดำเนินการไปแล้ว โปรดคลิก การส่งที่รอดำเนินการ 

การยืนยันจากผู้เขียนหลัก

  • การแสดงเจตจำนงส่งบทความต้นฉบับ : ผู้เขียนสามารถดาวน์โหลดไฟล์แสดงเจตจำนงที่จะตีพิมพ์ใน WESR โดยกรอกแบบฟอร์มขออนุมัติการตีพิมพ์บทความต้นฉบับ และแบบฟอร์มตรวจสอบก่อนส่งบทความต้นฉบับ (WESR Author Submission Checklist) พร้อมแนบเอกสาร ส่งกลับมาเข้าในระบบ ThaiJo ในรูปแบบไฟล์ PDF พร้อมไฟล์บทความต้นฉบับ คลิก

ารเตรียมต้นฉบับ

การเตรียมต้นฉบับ

ข้อมูลผู้เขียน

  • รายละเอียดการติดต่อ: ชื่อผู้เขียน อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ และสังกัดหน่วยงาน จะต้องระบุให้ครบถ้วนตามข้อกำหนดในแนวทางสำหรับผู้เขียน (กรุณาอ้างอิง WESR author guidelines)

เนื้อหาต้นฉบับ

  • ชื่อเรื่อง บทคัดย่อ และคำสำคัญ : ชื่อเรื่อง บทคัดย่อแบบโครงสร้าง และคำสำคัญ จะต้องมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และต้องเป็นไปตามแนวทางสำหรับผู้เขียนของ WESR
  • การอ้างอิงและบรรณานุกรม : การอ้างอิงในเนื้อหาและบรรณานุกรมท้ายบทความจะต้องปฏิบัติตามรูปแบบการอ้างอิงแบบ Vancouver
  • การลอกเลียนผลงาน : แนวคิดที่ไม่ใช่ต้นฉบับจะต้องมีการอ้างอิงอย่างถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงการลอกเลียนผลงาน
  • ฟอนต์และรูปแบบ : ต้นฉบับจะต้องจัดเตรียมใน Microsoft Word โดยใช้ฟอนต์ TH Sarabun New และภาพ ตาราง หรือกราฟ จะต้องเกี่ยวข้องและช่วยเสริมเนื้อหาในต้นฉบับ

คำแนะนำการจัดรูปแบบสำหรับบทความต้นฉบับ (original article)

  • ชื่อเรื่อง ควรสั้นและกระชับ ครอบคลุมและสอดคล้องกับบริบทเนื้อเรื่อง ชื่อเรื่องต้องมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
  • ชื่อผู้นิพนธ์ ควรระบุชื่อ-สกุลเต็ม (ไม่ต้องระบุคำนำหน้านาม) และสถานที่ทำงาน/สังกัด ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ในกรณีที่มีผู้แต่งหลายคน ควรระบุชื่อเรียงตามการมีส่วนร่วมในบทความ ใส่ตัวเลขในรูปแบบตัวเลขยกหลังนามสกุลของผู้แต่งทุกท่านซึ่งเชื่อมโยงกับสังกัดที่ระบุมาร่วมด้วย รวมทั้งระบุ อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์ สำหรับการติดต่อ
  • บทคัดย่อ การย่อเนื้อหาสำคัญ เอาเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น ระบุตัวเลขทางสถิติที่สำคัญ ใช้ภาษารัดกุมเป็นประโยคสมบูรณ์ เขียนเป็นหัวข้อ คือ บทนำและวัตถุประสงค์ วิธีการศึกษา ผลการศึกษา อภิปราย และข้อเสนอแนะ ไม่ต้องมีเชิงอรรถ ไม่อ้างอิง บทคัดย่อต้องเขียนทั้งภาษาไทย ไม่เกิน 550 คำ และภาษาอังกฤษ ไม่เกิน 450 คำ
  • เนื้อเรื่อง ควรใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย สั้น กะทัดรัดและชัดเจน หากใช้คำย่อต้องเขียนคำเต็มไว้ครั้งแรกก่อน ตัดคำฟุ่มเฟื่อย ควรใช้เท่าที่จำเป็น (เท่ากับ คิดเป็น จะ ซึ่ง แสดง โดย) หากมีการใส่หน่วยทางวิทยาศาสตร์ควรระบุหน่วยเต็ม ไม่ใช้คำย่อ
  • บทนำ กล่าวถึงความเป็นมาและความสำคัญของการวิจัย รวมทั้งการทบทวนวรรณกรรมของงานที่เกี่ยวข้องและวัตถุประสงค์ของการศึกษา
  • วิธีการศึกษา อธิบายระเบียบวิธีวิจัยรวมถึงแหล่งข้อมูล การรวบรวมข้อมูล การสุ่มตัวอย่างข้อมูล และเครื่องมือการวิจัย ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลและหลักการทางสถิติที่ใช้
  • ผลการศึกษา อธิบายผลการศึกษา/วิจัยโดยละเอียด แสดงผลสอดคล้องกับวิธีการศึกษา/วิจัย ตลอดจนตีความผลการวิจัยหรือการวิเคราะห์
  • อภิปราย วิเคราะห์ผลการศึกษา/วิจัยที่ได้ผลอย่างไร เป็นไปตามที่คิดหรือไม่ และอ้างอิง ทฤษฎีหรือการศึกษาใด ๆ ของผู้ที่เกี่ยวข้อง
  • ข้อจำกัดในการศึกษา ลักษณะของข้อมูลหรือการวิเคราะห์ที่อาจส่งผลต่อความถูกต้องหรือความถูกต้องของผลลัพธ์ โดยเขียนในรูปแบบย่อหน้าให้เป็นลำดับ ตัวอย่างเช่น ‘ประการที่ 1 2 และ 3’ โดยลงท้ายด้วย ‘สำหรับข้อจำกัดสุดท้าย’ ระบุว่าข้อจำกัดแต่ละข้ออาจส่งผลต่อผลลัพธ์อย่างไร
  • ข้อเสนอแนะ ส่วนนี้ควรประกอบด้วยข้อมูลเชิงปฏิบัติที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน และแสดงให้เห็นว่างานวิจัยสามารถสร้างผลกระทบที่สำคัญที่สุดต่อการควบคุมโรคหรือการสาธารณสุขได้อย่างไร ผลการวิจัยและการอภิปรายต้องสนับสนุนการดำเนินการและข้อเสนอแนะที่นำเสนอในการดำเนินการต่อไป ควรเสนอแนะระบุใคร/หน่วยงานใด ดำเนินการอย่างไร กับใครหรือหน่วยงานใด เมื่อใด
  • บทสรุป สรุปบทความวิจัยและเสนอแนะเพื่อเป็นข้อเสนอแนะให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในบทความ
  • กิตติกรรมประกาศ ควรกล่าวขอบคุณบุคคลหรือหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนหรือความช่วยเหลือในการทำวิจัย โดยบุคคลที่ได้รับการกล่าวถึงในส่วนนี้ ต้องไม่ปรากฏชื่อในรายชื่อผู้เขียนของบทความ
  • ข้อพิจารณาด้านจริยธรรมการศึกษา บทความวิจัยทุกเรื่องจะต้องมีคำชี้แจงการรับรองด้านจริยธรรม โดยต้องระบุชื่อคณะกรรมการจริยธรรม หมายเลขรหัสโครงการ และวันที่อนุมัติอย่างชัดเจน
  • ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (Conflicts of Interest) ผู้เขียนต้องเปิดเผยความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย หากไม่มี ให้ระบุว่า “ไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์”
  • การสนับสนุนด้านทุนวิจัย (Funding Support) ระบุแหล่งทุนที่ได้รับ (ถ้ามี) พร้อมชื่อหน่วยงาน/องค์กร และวัตถุประสงค์การใช้ทุนอย่างชัดเจน
  • การเปิดเผยการใช้ Generative AI และเทคโนโลยี AI ช่วยเขียนบทความ (Declaration of Generative AI and AI-Assisted Technologies in the Writing Process) หากมีการใช้ Generative AI หรือเครื่องมือ AI เพื่อร่าง แก้ไข หรือปรับปรุงต้นฉบับ ต้องเปิดเผยโดยใช้ข้อความมาตรฐานต่อไปนี้ (แทนที่ข้อมูลในวงเล็บ):

“ผู้เขียนได้ใช้ [ชื่อเครื่องมือ] เพื่อ [วัตถุประสงค์ เช่น ‘ปรับปรุงความชัดเจน’ หรือ ‘ตรวจสอบไวยากรณ์’] โดยผู้เขียนได้ตรวจสอบ แก้ไข และรับผิดชอบต่อเนื้อหาทั้งหมดอย่างสมบูรณ์” การใช้โปรแกรมตรวจสะกด ไวยากรณ์ หรือจัดการบรรณานุกรม ไม่ต้องเปิดเผย และ ห้ามระบุชื่อ AI เป็นผู้เขียนหรือผู้ร่วมเขียน หากไม่ได้ใช้เทคโนโลยีดังกล่าว สามารถละเว้นส่วนนี้ได้

  • รูปและตาราง ชื่อรูปและชื่อตารางควรตรงกับเนื้อหาโดยละเอียด ชื่อตารางใส่ด้านบนของตาราง ชื่อรูปใส่บริเวณด้านล่างของรูป ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ กราฟ แผนผัง แผนที่ ให้ระบุเป็น ‘รูปที่’ ทั้งหมด หากเป็นกราฟต้องใส่คำอธิบายแกน X, Y ในกราฟเท่านั้น และต้องแก้ไขได้ แบบตัวอักษรที่ใช้ในรูปหรือตาราง เป็น TH Sarabun New ไม่ควรต่ำกว่าขนาด 12
  • ภาพประกอบ ไดอะแกรม หรือรูปภาพ ควรเป็นสีดำ หากเป็นสี ควรมีลวดลายแตกต่างเพื่อความชัดเจน รูปถ่ายควรแทรกไว้ในไฟล์งานนำเสนอหรือจัดทำเป็นโปสการ์ดสี พร้อมคำอธิบายแยกต่างหาก ห้ามเขียนข้อความลงบนภาพโดยตรง
  • การใช้ทศนิยม การเขียนทศนิยมในบทความ สามารถยอมรับทศนิยมหนึ่งหรือสองตำแหน่งได้ ดังนั้นโปรดใช้รูปแบบทศนิยมเดียวกันทั้งเอกสาร
  • คำสำคัญ เป็นคำที่แสดงถึงเนื้อหาของบทความ โดยย่อเหลือเพียงคำที่แสดงใจความสำคัญของเนื้อเรื่อง เพื่อช่วยในการสืบค้นและเข้าถึงเนื้อหาของบทความได้ง่ายขึ้น คำสำคัญควรสั้น กะทัดรัด ชัดเจน มีจำนวน 3-5 คำ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ใส่ไว้ท้ายบทคัดย่อ
  • การอ้างอิง การอ้างอิงเอกสารใช้ระบบ Vancouver เขียนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด หากเอกสารอ้างอิงมีต้นฉบับเป็นภาษาไทย ผู้นิพนธ์ต้องแปลรายการเอกสารอ้างอิงนั้นเป็นภาษาอังกฤษและระบุ "(in Thai)" ท้ายรายการเอกสารอ้างอิงนั้น ผู้เขียนมีหน้าที่รับผิดชอบในความถูกต้องของเอกสารที่อ้างอิง การอ้างถึงเนื้อหาบทความในแต่ละข้อความควรมีหมายเลขเฉพาะ พิมพ์หมายเลขในวงเล็บเป็นลักษณะตัวพิมพ์ยกข้างท้ายข้อความที่อ้าง ตัวอย่างเช่น ...สูงสุดในประเทศไทย (1) เริ่มต้นที่หมายเลข 1 การอ้างอิงครั้งแรกและเรียงลำดับต่อเนื่องกันโดยตลอดจนถึงท้ายบท ถ้าผู้เขียนอ้างอิงบทความนั้นมากกว่าหนึ่งครั้ง ให้ใช้หมายเลขอ้างอิงเดียวกัน กรณีเป็นวารสารต่างประเทศ กรุณาใช้ชื่อย่อตามหนังสือ Index Medicus ข้อผิดพลาดใด ๆ เกี่ยวกับการอ้างอิงจะทำให้กระบวนการส่งล่าช้าเนื่องจากการขอรายละเอียดเพิ่มเติมจากผู้เขียนเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบ

รูปแบบการอ้างอิง (โปรดสังเกตเครื่องหมายวรรคตอนในตัวอย่าง)

Referencing Format (please notice the punctuation marks in the examples)

  • Journal Articles

Numeric order. Authors’ Names (Surnames and Initials). Title of the Article. Abbreviated Journal Name. Year of Publication; Journal Volume: First page - Last page. In case there are more than 6 authors, the first 6 authors are listed, followed by et al.

Example: Moher D, Liberati A, Tetzlaff J, Altman DG. Preferred reporting items for systematic reviews and meta-analyses: the PRISMA statement. J Clin Epidemiol. 2009; 62: 1006-12.

  • Textbooks and handbooks divided into 2 types

1. Book

Numeric order. Authors’ Names (Surnames and Initials). Book Title. Edition. City of Publication: Publisher; Year of Publication.

Example:
Toman K. Tuberculosis case-finding and chemo-therapy. Geneva: World Health Organization; 1979.
Department of Disease Control (TH), Division of Epidemiology. Case definition for communicable diseases surveillance. Thailand, 2020. Nonthaburi: Division of Epidemiology, Department of Control (TH); 2020. (in Thai)

2. Book chapters chapter in an edited book

Numeric order. Authors’ Names. Chapter Title. In; (Editors’ Names), Editor. Book Title. Edition. City of Publication: Publisher; Year of Publication. First page - Last page

Example: Becker MH, Maiman LA. The Health Belief Model and Sick Role Behavior. In: Becker MH, editor. The health belief model and personal health behavior. New Jersey: Charles B. Slack, Inc; 1974. pp. 82–92.

  • Conference proceeding

Numeric order. Editors’ Names, Editor(s). Title. Conference Name; Conference Date; Conference Venue. City of Publication: Publisher; Year of Publication.

Example: Kimura J, Shibasaki H, editors. Recent advances in clinical neurophysiology. Proceedings of the 10th International Congress of EMG and Clinical Neurophysiology; 1995 Oct 15-19; Kyoto, Japan. Amsterdam: Elsevier; 1996.

  • Conference article

Numeric order. Author's Name. Title. In: editor’s name, editor. Meeting name; Meeting date; Meeting place, Meeting City. City of Publication: Year of publication. p. First page-last page.

Example: Bengtsson S, Solheim BG. Enforcement of data protection, privacy and security in medical informatics. In: Lun KC, Degoulet P, Piemme TE, Rienhoff O, editors. MEDINFO 92. Proceedings of the 7th World Congress on Medical Informatics; 1992 Sep 6-10; Geneva, Switzerland. Amsterdam: North-Holland; 1992. p. 1561-5.

  • Thesis

Numeric order. Author’s Name. Title [Thesis Type/ Degree]. City of Publication: University; Year of Graduation. Number of pages.

Example: Sansiritaweesook G. Development of a surveillance system to prevent drowning based on the participation of communities at Ubon Ratchathani Province [dissertation]. Khon Kaen: Khon Kaen University; 2012. 391 p. (in Thai)

  • Electronic documents
    • Electronic Journal: Numeric order. Author’s Name. Title. Journal Name [Media type]. Publication Year [Retrieved/ Cited Date]; volume: First page - Last page.  Access/ Available from: https://..................

                      Example: Arora M, Chauhan K, John S, Mukhopadhyay A. Multi–sectoral action for addressing social determinants of noncommunicable diseases and mainstreaming health promotion in national health programmes in India. Indian J Community Med [Internet]. 2011 [cited 2022 Dec 25];36:S43–9. Available from: https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/22 628911/

    • Electronic Books or Articles: Numeric order. Author’s Name. Title [Type of media]. Printed city. Publisher; Publication Year [Retrieved / cited Year, Month, Date]. Number of Pages. Source / Available from: https: // …………

                      Example: Merlis M, Gould D, Mahato B. Rising out-of-pocket spending for medical care: a growing strain on family budgets [Internet]. New York: Commonwealth Fund; 2006 Feb [cited 2006 Oct 2]. 23 p. Available from: https://www.cmwf.org/usr_doc/Merlis_risingoopspending_887.pdf

  • Other 

Government agencies or national and international organizations support the production and dissemination.

The name of those organizations should be placed in the same position as that of the publisher. In case the nationality is not included in the organization’s name, two English letters designating the country code according to the ISO 3166 standard should be placed in parenthesis immediately after the organization’s name, for example:

    • Department of Disease Control (TH)
    • Department of Health (AU)
    • Centers for Disease Control and Prevention (US)
    • Office of the Permanent Secretary, Ministry of Public Health (TH)

นโยบายความเป็นส่วนตัว

ความเป็นส่วนตัวและการปกป้องข้อมูล

WESR มุ่งมั่นที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ รวมถึงชื่อและที่อยู่อีเมลที่ป้อนในเว็บไซต์ WESR จะถูกใช้เพื่อจุดประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับวารสารโดยตรงเท่านั้น เช่น การสื่อสารเกี่ยวกับการส่งบทความ สิ่งพิมพ์ และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวารสาร ข้อมูลนี้จะไม่ถูกแบ่งปัน เปิดเผย หรือใช้เพื่อจุดประสงค์อื่นใด และจะไม่เปิดเผยข้อมูลนี้แก่บุคคลที่สามหรือองค์กรภายนอกโดยไม่ได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากบุคคลนั้น ๆ

พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล .. 2567 (2567)

รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยารายสัปดาห์ (WESR) เห็นความสำคัญในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2562 และสอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูล เพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าของข้อมูลไว้วางใจว่าวารสารจะดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของตนและดำเนินการตามมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม

1. คำจำกัดความ

'วารสาร' หมายถึง รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยารายสัปดาห์ (WESR)

'บุคคล' หมายถึง บุคคลธรรมดา

'ข้อมูลส่วนบุคคล' หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับผู้เสียชีวิต เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล ที่อยู่ IP รหัสคุกกี้ ไฟล์บันทึก เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ข้อมูลต่อไปนี้ไม่ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคล : ข้อมูลการติดต่อทางธุรกิจที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เช่น ชื่อบริษัท ที่อยู่บริษัท หมายเลขทะเบียนบริษัท หมายเลขโทรศัพท์ที่ทำงาน ที่อยู่อีเมลที่ทำงาน ข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตนหรือข้อมูลนามแฝงที่ได้รับการประมวลผลเพื่อป้องกันการระบุตัวตน และข้อมูลของผู้เสียชีวิต

'ผู้ควบคุมข้อมูล' หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลที่มีอำนาจในการตัดสินใจเกี่ยวกับการรวบรวม การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

'ผู้ประมวลผลข้อมูล' หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในนามของหรือภายใต้การอนุญาตของผู้ควบคุมข้อมูล อย่างไรก็ตาม บุคคลหรือนิติบุคคลที่ดำเนินการดังกล่าวไม่ถือเป็นผู้ควบคุมข้อมูล

'การประมวลผล' หมายถึง การรวบรวม การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

2. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่วารสารรวบรวม

วารสารรวบรวมหรือรับข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ จากแหล่งที่มาต่อไปนี้ :

2.1 วารสารรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลผ่านช่องทางบริการต่าง ๆ เช่น การลงทะเบียน การตอบแบบสอบถาม การถ่ายภาพและวิดีโอในงานประชุมหรือกิจกรรมการฝึกอบรม หรือเมื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลติดต่อสื่อสารกับวารสารโดยตรงที่หน่วยงานของวารสาร หรือผ่านช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ที่ควบคุมโดยวารสาร

2.2 วารสารรวบรวมข้อมูลจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลที่เข้าถึงเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการอื่น ๆ ตามสัญญาหรือภารกิจ เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการผ่านการใช้คุกกี้หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

2.3 วารสารรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งที่มาอื่นที่ไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลเอง โดยแหล่งที่มาดังกล่าวได้รับอนุญาต มีเหตุผลตามกฎหมาย หรือได้รับความยินยอมจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวแก่วารสาร ตัวอย่างเช่น การเชื่อมโยงบริการดิจิทัลของหน่วยงานรัฐเพื่อให้บริการสาธารณะแก่บุคคลที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพ การรับข้อมูลส่วนบุคคลจากหน่วยงานรัฐอื่น ๆ เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจของวารสารในการอำนวยความสะดวกให้กับศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐในการให้บริการแก่สาธารณชนผ่านระบบดิจิทัล รวมถึงการปฏิบัติตามภาระผูกพันตามสัญญาที่อาจเกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลกับคู่สัญญา

นอกจากนี้ยังรวมถึงกรณีที่คุณทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นของบุคคลภายนอกของวารสาร ดังนั้น คุณจึงมีหน้าที่แจ้งรายละเอียดตามนโยบายนี้หรือประกาศเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการแก่บุคคลที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม และขอความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้นหากจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลให้กับวารสาร ในกรณีที่บุคคลที่เกี่ยวข้องปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับบริการของวารสาร อาจส่งผลให้วารสารไม่สามารถให้บริการแก่บุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดหรือบางส่วนได้

3. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

(1) การรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

วารสารจะรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลในขอบเขตที่จำเป็นและจำกัด โดยขึ้นอยู่กับประเภทของบริการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้หรือการให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับวารสาร เช่น การลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม การลงทะเบียนใช้บริการต่าง ๆ การลงทะเบียนประเมินวารสาร เป็นต้น ไม่ว่าจะโดยตรงผ่านวารสารหรือผ่านระบบสารสนเทศของวารสาร ซึ่งจะรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

(2) การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

วารสารจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่เจ้าของข้อมูลให้กับวารสาร ใช้ข้อมูลอย่างเหมาะสม และดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่ามีการรักษาความลับและควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

(3) การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

วารสารอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้กับบุคคลและช่องทางบางประเภท ดังนี้ :

  • องค์กรในสังกัดของคุณ : ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่องค์กรของคุณร้องขอให้วารสารส่งรายงานของผู้เข้าร่วมประชุมซึ่งเป็นบุคลากรภายในองค์กร
  • เจ้าหน้าที่รัฐ หน่วยงานที่ได้รับอนุญาต หรือบุคคลอื่นเพื่อการบังคับใช้กฎหมาย คำสั่งราชการ คำสั่งศาล ฯลฯ
  • หน่วยงานเครือข่าย พันธมิตร ผู้ให้บริการ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องซึ่งจำเป็นต่อบริการที่วารสารให้บริการซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อมูลของคุณ เช่น ผู้ให้บริการฐานข้อมูล บริการจัดส่งเอกสาร ผู้พัฒนาเว็บไซต์ ฯลฯ
  • การประกาศต่อสาธารณะ เช่น การค้นหาข้อมูลบทความที่ตีพิมพ์ การประกาศรายชื่อผู้เข้าร่วมประชุม รูปภาพ คลิปวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการประชุม โฆษณาส่งเสริมการขายที่มีผู้เข้าร่วมประชุมหรือวิทยากรที่ปรากฏในสื่อบางส่วน ผ่านทางเว็บไซต์ของวารสาร tci-thailand.org และการประกาศผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของวารสาร ฯลฯ

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณต้องได้รับความยินยอมจากคุณก่อน วารสารจะดำเนินการขอความยินยอมตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

4. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

วารสารใช้แนวทางการรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในลักษณะที่ถูกต้องตามกฎหมายและเป็นธรรม โดยจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะเท่าที่จำเป็นสำหรับการให้บริการ การประชาสัมพันธ์ หรือการเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ตลอดจนการสำรวจความคิดเห็นของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานหรือกิจกรรมของวารสาร เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของวารสารเท่านั้น หรือตามที่กฎหมายกำหนด ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ วารสารจะแจ้งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลทราบและบันทึกรายละเอียดเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน โดยยึดตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูล

5. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

วารสารจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะเท่าที่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ในการประมวลผลเท่านั้น เมื่อระยะเวลาการเก็บรักษาหมดลงหรือไม่จำเป็นต้องดำเนินการประมวลผลเพิ่มเติมอีกต่อไป วารสารจะดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวตนได้ เพื่อให้ไม่สามารถระบุตัวตนของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลได้

6. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

ความยินยอมที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ไว้กับวารสารในการรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นยังคงมีผลใช้ได้จนกว่าเจ้าของข้อมูลจะถอนความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร เจ้าของข้อมูลมีสิทธิ์ถอนความยินยอมหรือระงับการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับกิจกรรมใด ๆ หรือทั้งหมดของวารสาร โดยสามารถทำได้โดยยื่นคำขอเป็นลายลักษณ์อักษรถึงวารสารในรูปแบบสำเนาเอกสารหรือทางอีเมล wesr@ddc.mail.go.th

นอกจากสิทธิ์ดังกล่าวแล้ว เจ้าของข้อมูลยังมีสิทธิ์ในการปกป้องข้อมูลพื้นฐานของคุณ ดังต่อไปนี้

(1) สิทธิในการถอนความยินยอม : เจ้าของข้อมูลมีสิทธิ์ถอนความยินยอมสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มอบให้กับวารสารได้ตลอดเวลาในช่วงระยะเวลาที่วารสารเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล

(2) สิทธิในการเข้าถึง : เจ้าของข้อมูลมีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองและขอให้วารสารให้สำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงขอให้วารสารเปิดเผยแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่วารสารได้รับโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล

(3) สิทธิ์ในการแก้ไข : เจ้าของข้อมูลมีสิทธิ์ที่จะขอให้วารสารแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องหรือเสริมข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สมบูรณ์

(4) สิทธิ์ในการลบ : เจ้าของข้อมูลมีสิทธิ์ที่จะขอให้วารสารลบข้อมูลส่วนบุคคลของตนด้วยเหตุผลบางประการ

(5) สิทธิ์ในการจำกัดการประมวลผล : เจ้าของข้อมูลมีสิทธิ์ที่จะขอให้ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของตนด้วยเหตุผลบางประการ

(6) สิทธิ์ในการพกพาข้อมูล : เจ้าของข้อมูลมีสิทธิ์ที่จะขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่ส่งให้กับวารสารไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่นหรือไปยังตนเองด้วยเหตุผลบางประการ

(7) สิทธิ์ในการคัดค้าน : เจ้าของข้อมูลมีสิทธิ์ที่จะคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของตนด้วยเหตุผลบางประการ วารสารเคารพการตัดสินใจถอนความยินยอมของเจ้าของข้อมูล อย่างไรก็ตาม ควรทราบว่าอาจมีข้อจำกัดเกี่ยวกับสิทธิ์ในการถอนความยินยอมภายใต้กฎหมายหรือสัญญาที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าของข้อมูล การถอนความยินยอมไม่มีผลต่อการประมวลผล การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลให้ความยินยอมไว้ก่อนหน้านี้

7. มาตรการรักษาความปลอดภัยสำหรับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

วารสารใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การแก้ไข การปรับเปลี่ยน หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ วารสารยังกำหนดแนวทางปฏิบัติภายในองค์กรเพื่อกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลโดยเจ้าของข้อมูล เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลมีความลับและความปลอดภัย มีการตรวจสอบมาตรการเหล่านี้เป็นระยะเพื่อความเหมาะสม

8. ข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์

8.1 ในขณะที่คุณใช้เว็บไซต์ WESR วารสารจะติดตามและบันทึกการเยี่ยมชมแต่ละหน้าของเว็บไซต์ในไฟล์บันทึกเซิร์ฟเวอร์ ("ข้อมูลการใช้งาน") ข้อมูลการใช้งานนี้อาจใช้โดย WESR เพื่อวัตถุประสงค์ทางสถิติเพื่อทำความเข้าใจแนวโน้มการใช้งานเว็บไซต์และปรับปรุงโครงสร้างและการนำเสนอเนื้อหา ข้อมูลการใช้งานที่รวบรวมโดยวารสาร (โดยใช้คุกกี้ HTTP) ได้แก่ URL ที่เข้าชม ลักษณะของเบราว์เซอร์และอุปกรณ์ ที่อยู่ IP ระบบปฏิบัติการ และวันที่และเวลาที่เข้าชมเว็บไซต์ เมื่อเจ้าของข้อมูลเข้าชมเว็บไซต์อีกครั้ง เว็บไซต์จะจดจำได้ว่าเป็นผู้ใช้ที่กลับมาอีกครั้ง และปรับการตั้งค่าตามที่เจ้าของข้อมูลระบุ จนกว่าเจ้าของข้อมูลจะลบหรือปฏิเสธคุกกี้ บุคคลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลอาจเลือกที่จะยอมรับหรือปฏิเสธคุกกี้ ในกรณีที่ปฏิเสธหรือลบคุกกี้ เว็บไซต์อาจไม่สามารถให้บริการหรือแสดงเนื้อหาได้อย่างถูกต้อง

8.2 เว็บไซต์ WESR อาจใช้ Google Analytics เพื่อช่วยรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเยี่ยมชมเว็บไซต์ WESR วารสารจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อจัดทำรายงานและช่วยให้เราปรับปรุงเว็บไซต์ เครื่องมือคุกกี้จะรวบรวมข้อมูลในรูปแบบที่ไม่ระบุตัวตน รวมถึงจำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ วิธีที่บุคคลเข้ามาที่เว็บไซต์ จากเบราว์เซอร์หรือเว็บเพจใด และเว็บเพจใดที่บุคคลเหล่านั้นเยี่ยมชมขณะอยู่ในเว็บไซต์

 9. การปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

วารสารอาจปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ เพื่อให้การให้บริการมีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ดังนั้นวารสารจึงขอแนะนำให้เจ้าของข้อมูลอ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทุกครั้งที่เข้าชมหรือใช้บริการจากวารสารหรือเว็บไซต์

10. การปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการติดต่อวารสาร

หากเจ้าของข้อมูลมีคำถามหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้หรือการนำไปปฏิบัติ วารสารยินดีรับคำถามและข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและการให้บริการอย่างต่อเนื่อง เจ้าของข้อมูลสามารถติดต่อวารสารได้ที่ wesr@ddc.mail.go.th หรือที่อยู่ที่ระบุไว้ด้านล่าง