การสอบสวนการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ชนิด B ในโรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่ง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ระหว่างวันที่ 25 มกราคม–4 กุมภาพันธ์ 2562
คำสำคัญ:
ไข้หวัดใหญ่ชนิด B, การระบาด, โรงเรียน, ปัตตานีบทคัดย่อ
ความเป็นมา : เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2562 ทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว (SRRT) อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ได้รับแจ้งจากครูอนามัยโรงเรียนแห่งหนึ่ง (เปิดสอนระดับชั้นอนุบาล 1–3 และประถมศึกษาปีที่ 1–6) พบเด็กนักเรียนป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ชนิด B จำนวน 1 ราย และมีนักเรียนรวมทั้งบุคลากรในโรงเรียนอีกหลายรายที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ทีมสอบสวนโรคจึงสอบสวนโรคเพื่อยืนยันการระบาดของโรค อธิบายลักษณะการกระจายของโรคตามบุคคล เวลา สถานที่ หาแหล่งรับเชื้อรวมถึงปัจจัยการแพร่ระบาด และเพื่อดำเนินการควบคุมและป้องกันโรค
วิธีการศึกษา : เป็นการศึกษาระบาดวิทยาเชิงพรรณนา นิยาม ‘ผู้ป่วยสงสัย’ หมายถึง เด็กนักเรียน ครู และบุคลากรทั้งหมดในโรงเรียนแห่งนี้ ที่มีอาการไข้หรือให้ประวัติว่ามีไข้ ร่วมกับอาการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ ได้แก่ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก มีเสมหะ ปวดกล้ามเนื้อ หรือปวดศีรษะ ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม–4 กุมภาพันธ์ 2562 ‘ผู้ป่วยยืนยัน’ หมายถึง ผู้ป่วยสงสัยที่มีผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ โดย ค้นหาผู้ป่วยจากการทบทวนเวชระเบียนผู้ป่วยและสัมภาษณ์ผู้ป่วย ค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติมในโรงเรียน เก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้อง-ปฏิบัติการโดยการตรวจยืนยันวิธี RT–PCR/วิธี Rapid influenza diagnostic test และสำรวจด้านสิ่งแวดล้อมภายในโรงเรียน
ผลการสอบสวน : พบผู้ป่วยสงสัยทั้งสิ้น 112 ราย เป็นผู้ป่วยยืนยันพบสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด B จำนวน 3 ราย จากจำนวนนักเรียน ครูและบุคลากรในโรงเรียนนี้ ทั้งหมด 2,028 ราย คิดเป็นอัตราป่วยร้อยละ 5.52 ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ลักษณะอาการและอาการแสดงทุกรายให้ประวัติว่ามีไข้ รองลงมา มีน้ำมูก ร้อยละ 83.92 และ ไอ ร้อยละ 83.03 โดยกลุ่มนักเรียนชั้นอนุบาล 1–3 พบผู้ป่วยจำนวนมากที่สุด ในนักเรียนชั้นอนุบาล 3 มีอัตราป่วยสูงสุด ร้อยละ 17.01 รองลงมา ชั้นอนุบาล 1 และชั้นอนุบาล 2 อัตราป่วยร้อยละ 13.48 และ 12.69 ตามลำดับ ปัจจัยส่งเสริมให้เกิดการระบาดในครั้งนี้ คือ 1) ครูประจำชั้นอนุบาลซึ่งเป็นผู้ป่วยรายแรก ขณะป่วยได้ไปทำการสอนที่โรงเรียนตามปกติ แล้วมีการสัมผัสใกล้ชิดทำกิจกรรมร่วมกันกับผู้อื่น ส่งผลให้โรคไข้หวัดใหญ่แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว 2) เกิดจากมีการรวมกลุ่มทำกิจกรรมร่วมกันของนักเรียนชั้นอนุบาล 1–3 ทุกวัน มีการคลุกคลี และการสัมผัสใกล้ชิดกันระหว่างบุคคล มีอุปกรณ์การเรียน ของเล่นเด็ก และสนามเด็กเล่นที่ใช้ร่วมกันโดยไม่มีการทำความสะอาดอุปกรณ์ การควบคุมโรคใช้มาตรการปิดโรงเรียนเป็นเวลา 1 สัปดาห์
สรุปและวิจารณ์ผล : พบการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ชนิด B มาตรการปิดโรงเรียนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ถือว่าเป็นหนึ่งในมาตรการควบคุมโรคที่สำคัญ ควรจะให้ความสำคัญและนำไปใช้ทันทีที่พบการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ภายในโรงเรียนในอนาคต
References
ถนอม นามวงศ์, เพ็ญศิริวิศิษฐ์ผจญชัย, สุกัญญา คําพัฒน์, สุนทร วิริยพันธ์, พิมพ์รพัช แท่งทองหลาง, เกษรินทร์วงเวียน, และราตรีชายทอง. การสอบสวนการระบาดโรคไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มนักเรียนมัธยมศึกษาของโรงเรียนแห่งหนึ่ง จังหวัดยโสธร วันที่ 19–22 กุมภาพันธ์ 2557. รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์. 2559; 47 (50): 785–91.
สามารถ ถิระศักดิ์, โอภาส คันธานนท์. การสอบสวนการระบาดโรคไข้หวัดใหญ่ชนิด B ในโรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง อําเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา วันที่ 17–29 มกราคม 2561. รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจําสัปดาห์. 2563; 50 (51): 757–64.
กัลยา จงเชิดชูตระกูล, รัญจวน สุขกวี, กานต์ เขาประเวศ, ปทุมมาลัย ศิลาพร, สุชาดา เจียมศิริ, รจนา วัฒนรังสรรค์ และคณะ. การระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ (เอช1เอ็น1) ในโรงเรียนแห่งแรกของประเทศไทยในเดือนมิถุนายน ถึงสิงหาคม พ.ศ. 2552. รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์. 2553; 41 (4): 49–56.
ภุชงค์ ไชยชิน, ปิยะกาญจน์ สุทธิ. การสอบสวนโรคไข้หวัดใหญ่ชนิด A สายพันธุ์ H3N2 ในโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง อําเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 10 กรกฎาคม–10 กันยายน 2558. รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์. 2553; 47 (ฉบับพิเศษ): S1–S8.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2021 รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงพิมพ์กับ WESR ถือเป็นข้อคิดเห็น และความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน WESR ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดไปเผยแพร่ กรุณาอ้างอิงบทความนั้น ๆ