การสอบสวนการระบาดของโรคคางทูมในโรงเรียนแห่งหนึ่ง อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เดือนมกราคม–เมษายน 2561
คำสำคัญ:
โรคคางทูม, การระบาด, ประถมศึกษา, สุราษฎร์ธานีบทคัดย่อ
ความเป็นมา: วันที่ 23 มกราคม 2561 สำนักงานสาธารณสุข อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับรายงานว่ามีนักเรียนใน โรงเรียน ก. อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ป่วยเป็นโรคคางทูมหลายราย ทีมสอบสวนโรคจึงสอบสวนการระบาดของโรคระหว่าง วันที่ 23 มกราคม–17 เมษายน 2561 มีวัตถุประสงค์เพื่อยืนยันการวินิจฉัยและการระบาดของโรค อธิบายลักษณะทางระบาดวิทยา ค้นหาปัจจัยเสี่ยงและวิธีการถ่ายทอดโรค หามาตรการควบคุมและ ป้องกันการระบาดของโรคที่เหมาะสม และศึกษาความครอบคลุมและประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโรคคางทูม
วิธีการศึกษา: ทบทวนและรวบรวมข้อมูลผู้ป่วยที่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคลองชะอุ่น และโรงพยาบาลพนม ค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติมในโรงเรียนและชุมชน ศึกษาความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนรวมหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน (MMR) ในพื้นที่ศึกษาทางห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจหาแอนติบอดีชนิด IgM ต่อไวรัสคางทูม ด้วยวิธี ELISA สํารวจสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนที่มีการระบาด ศึกษา Retrospective cohort study เพื่อหาปัจจัยเสี่ยงที่มีความสัมพันธ์ กับการป่วย และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของวัคซีน MMR
ผลการสอบสวน: พบผู้ป่วยโรคคางทูมในโรงเรียน ก. รวม 22 ราย เป็นนักเรียน 21 ราย อัตราป่วยร้อยละ 1.61 ของนักเรียนทั้งหมด และครู 1 ราย อาการที่พบมาก คือ มีไข้ ร้อยละ 59.09 ปวดบวม ขากรรไกร ร้อยละ 45.45 และเจ็บคอเวลาเคี้ยว/กลืนน้ําลาย ร้อยละ 36.36 ทั้งหมดไม่มีภาวะแทรกซ้อน และไม่มีผู้เสียชีวิต นักเรียนที่ป่วย มีอายุระหว่าง 8-11 ปี โดยนักเรียน 2 รายแรกเริ่มป่วยวันที่ 5 และ 8 มกราคม 2561 ส่วนนักเรียนอีก 19 ราย เริ่มป่วยตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม-11 กุมภาพันธ์ 2561 และครูป่วยรายสุดท้ายเริ่มป่วยวันที่ 6 มีนาคม 2561 พบผู้ป่วยใน 4 ห้องเรียน คือ ห้องประถมศึกษาปีที่ 2/1, 3/3, 4/2 และ 4/3 ซึ่งพบมากที่สุดในห้อง 4/3 อัตราป่วยร้อยละ 36.59 จากการเก็บตัวอย่างซีรั่มผู้ป่วย 4 ราย ตรวจหาแอนติบอดี ชนิด IgM ต่อไวรัสคางทูม พบให้ผลบวก 2 ราย จากการศึกษา Retrospective cohort study พบปัจจัยที่มีความสัมพันธ์อย่าง มีนัยสําคัญทางสถิติกับการป่วย ได้แก่ การมีผู้ที่ป่วยด้วยโรคคางทูม อยู่บ้านเดียวกันในช่วง 25 วันก่อนป่วย การใช้แก้วน้ำร่วมกัน การใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าเช็ดมือร่วมกัน การใช้ช้อนหรือช้อนส้อมร่วมกัน การใช้ดินสอหรือปากการ่วมกัน และการนั่งเรียนติดกับผู้ป่วยโรค คางทูมในระยะ 1 เมตร สำหรับความครอบคลุมของการได้รับวัคซีน MMR ในเด็กนักเรียนพบอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ และเมื่อคํานวณประสิทธิภาพของวัคซีน พบว่าวัคซีน MMR อย่างน้อย 1 เข็มมี ประสิทธิภาพป้องกันโรคคางทูม ร้อยละ 31.43
สรุปและวิจารณ์ผล: พบการระบาดของโรคคางทูมในโรงเรียน ก. พบผู้ป่วยรวม 22 ราย ความครอบคลุมของวัคซีน MMR ใน นักเรียนกลุ่มนี้อยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ ปัจจัยเสี่ยงที่มีความสัมพันธ์อย่างมี นัยสําคัญทางสถิติกับการป่วย คือ การมีโอกาสสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่ป่วย และการใช้สิ่งของร่วมกัน ยังพบว่าประสิทธิภาพของวัคซีน MMR ในการป้องกันโรคคางทูมอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ
References
American Academy of Pediatrics. Mumps. In: Pickering LK, Baker CJ, Kimberlin DW, Long SS, editors. Red book: 2012 report of the committee on infectious diseases. 29th ed. Elk Grove Village, IL: American Acedemy of Pediatric; 2012. p.514-8.
สำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน. ใน: กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ, เกษวดี ลาภพระ, จุฑารัตน์ เมฆมัลลิกา, ฐิติอร นาคบุญนํา, อัจฉรา ตั้งสถาพรพงษ์, บรรณาธิการ. ตําราวัคซีน และการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ปี 2556. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา; 2556. หน้า 119-28.
สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. โรคคางทูม. ใน: พจมาน ศิริอารยาภรณ์, บรรณาธิการ. สรุป รายงานการเฝ้าระวังโรค ประจำปี 2559. กรุงเทพมหานคร: ชุ มนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย; 2560. หน้า 55-6.
สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. รายงานโรคในระบบเฝ้าระวัง 506: Mumps. [เข้าถึงเมื่อ 25 มิถุนายน 2561]. เข้าถึงได้จาก http://www.boe.moph.go.th/boedb/surdata/506wk/y61/d52_2461.pdf
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี. รายงานการเฝ้า ระวังโรคคางทูม ปี 2560. สุราษฎร์ธานี: สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดสุราษฎร์ธานี; 2561.
สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. นิยามโรคติดเชื้อ ประเทศไทย. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์; 2546.
อภิญญา นิรมิตสันติพงศ์, เสนีรัตน์ จิตตะเสนีย์, จันทนา ศรีวชิรวัฒน์, ลัดดา โภคาวัฒนา, ศิริมา ปัทมดิลก, พัชชา อินคําสืบ และคณะ. การสอบสวนการระบาดของโรคคางทูมใน โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง กรุงเทพมหานคร เดือนกันยายน 2550. รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์. 2553; 41 (ฉบับพิเศษ): S42-8.
ชนินันท์ สนธิไชย, เบญจวรรณ ระลึก, ธราวิทย์ อุปพงษ์, วาสนา เขื่อนแก้ว, นิตยา บุญปก, สุรางค์รัตน์ พ้องพาน และ คณะ. การสอบสวนการระบาดของโรคคางทูมในโรงเรียน เอกชนแห่งหนึ่ง จังหวัดแพร่ เดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2550. รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์. 2552; 40: 1-6.
กัลยา จงเชิดชูตระกูล, พิสิษฐวุฒิ อยุทธ์, พรพัฒน์ ภูนากลม, ปวีณา วงศ์สวรรค์, พัชรา เกิดแสง, อมร เมืองดี และคณะ. การระบาดของโรคคางทูมในโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัด นนทบุรีในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายน 2551. รายงานการ เฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์. 2552; 40: 649-52.
อรรถเกียรติ กาญจนพิบูลวงศ์. การระบาดของโรคคางทูมใน โรงเรียนแห่งหนึ่ง อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน. รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจําสัปดาห์. 2553; 41: 476-80.
มานิตา พรรณวดี, อิฎฐผล เอียววงษ์เจริญ, จามร เมฆอรุณ, เกษตร ประทิ, เสถียร ปัทมวัฒน์, มนูศิลป์ ศิริมาตย์ และคณะ. การสอบสวนการระบาดของโรคคางทูม อำเภอปัว จังหวัดน่าน เดือนมิถุนายน–ตุลาคม 2553. รายงานการเฝ้าระวังทาง ระบาดวิทยาประจำสัปดาห์. 2555; 43 (ฉบับพิเศษ): S15-22.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2018 รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงพิมพ์กับ WESR ถือเป็นข้อคิดเห็น และความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน WESR ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดไปเผยแพร่ กรุณาอ้างอิงบทความนั้น ๆ