การประเมินระบบเฝ้าระวังวัณโรคปอดในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปที่มารับการรักษาในโรงพยาบาลราชบุรี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560-30 กันยายน 2561
คำสำคัญ:
การประเมิน, ระบบเฝ้าระวัง, วัณโรคปอด, ราชบุรีบทคัดย่อ
ความเป็นมา: วัณโรคเป็นโรคติดต่อที่สำคัญและยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขระดับโลก ซึ่งเป็นสาเหตุของการป่วยและตายในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย จากการประเมินระบบเฝ้าระวังวัณโรคปอดโรงพยาบาลราชบุรี ในปีงบประมาณ 2556 ด้วย นิยามโรคติดเชื้อ 2546 พบว่าระบบเฝ้าระวังฯ มีค่าความไวและค่าพยากรณ์บวกอยู่ในระดับพอใช้ มีความทันเวลาในระดับดี ซึ่งใน ปัจจุบันโรงพยาบาลราชบุรีใช้โปรแกรมบริหารจัดการผู้ป่วยวัณโรคออนไลน์ (TBCM online) และมีเครื่องตรวจทางโมเลกุลหรืออณูชีววิทยาในการตรวจหาเชื้อวัณโรค จึงควรประเมินระบบเฝ้าระวังฯ ซ้ำ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการเฝ้าระวังผู้ป่วยวัณโรคปอดอย่างมีประสิทธิภาพและใช้พัฒนาระบบเฝ้าระวังฯ ต่อไป
วิธีการศึกษา: การศึกษาภาคตัดขวางทั้งการศึกษาเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ที่มารับการรักษาในโรงพยาบาลราชบุรี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560-30 กันยายน 2561 โดยการศึกษาคุณลักษณะของระบบเฝ้าระวังเชิงปริมาณ ใช้ข้อมูลจากรายงานผู้ป่วยวัณโรคใน TBCM online ทะเบียนการบันทึกผลชันสูตรเสมหะและเวชระเบียนผู้ป่วยนอก และศึกษาคุณลักษณะเชิงคุณภาพของระบบเฝ้าระวัง โดยสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ในระบบเฝ้าระวังฯ ถึงขั้นตอนการรายงานโรคและความคิดเห็นต่อ ระบบเฝ้าระวังฯ ตามแบบสัมภาษณ์ที่สร้างขึ้น
ผลการศึกษา: ค่าความไวและค่าพยากรณ์บวกของระบบเฝ้าระวังฯ ตามแนวทางรายงานโรคติดต่ออันตรายและโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ซึ่งตรงกับแนวทางการควบคุมวัณโรค ประเทศไทย 2561 คือ ร้อยละ 78.05 และ 100 ตามลำดับ ความถูกต้องของข้อมูลวันเริ่มให้ยาต้านวัณโรคและที่อยู่ ร้อยละ 98.44 และ 97.40 ตามลำดับ ส่วนข้อมูลชื่อ นามสกุล เพศ และอายุ มีความถูกต้องร้อยละ 100 ด้านความทันเวลาร้อยละ 91.67 มีความเป็นตัวแทนที่ดี การประเมินขั้นตอนการรายงานผู้ป่วยเข้า ระบบการเฝ้าระวังฯ พบว่า ข้อมูลได้จากทะเบียนผลชันสูตรเสมหะ การเก็บข้อมูลจากหอผู้ป่วยวัณโรค คลินิกวัณโรคและจากแผนกผู้ป่วยนอก การศึกษาเชิงคุณภาพพบว่า ทุกคนยอมรับว่าวัณโรคปอดเป็นโรคที่จำเป็นต้องมีระบบเฝ้าระวังและเล็งเห็นประโยชน์ของระบบเฝ้าระวังฯ แต่ต้องปรับเรื่องความมั่นคงและความยากง่าย
สรุปและวิจารณ์: ระบบเฝ้าระวังวัณโรคปอดของโรงพยาบาลราชบุรี มีความไวและค่าพยากรณ์บวกที่ดีกว่าปี 2556 เป็นผลจาก การรายงานข้อมูลผู้ป่วยผ่าน TBCM online และการใช้นิยามใหม่ ตาม พ.ร.บ. โรคติดต่อ 2558 แทนที่นิยามโรคติดเชื้อปี 2546 ซึ่ง นิยามใหม่มีความครอบคลุมการวินิจฉัยผู้ป่วยสงสัยวัณโรคที่เสมหะ ไม่พบเชื้อด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น การตรวจทางอณูชีววิทยา ทำให้สามารถรายงานผู้ป่วยวัณโรคได้ถูกต้องครบถ้วนมากขึ้น โดยปัญหาเรื่องความมั่นคงและความยากง่ายก็มีผลต่อความไวของระบบเฝ้าระวังฯ ด้วย
References
WHO. Global tuberculosis report 2018 [Internet]. 2018 [เข้าถึงเมื่อ 2018 Dec 7]. เข้าถึงได้จาก: https://www.who.int/tb/publications/global_report/en/
สำนักวัณโรค กรมควบคุมโรค. แนวทางการควบคุมวัณโรค ประเทศไทย พ.ศ. 2561. กรุงเทพฯ: สำนักวัณโรค กรมควบคุมโรค; 2561.
TBCM online [อินเทอร์เน็ต]. 2561 [เข้าถึงเมื่อ 1 ธ.ค. 2561]. เข้าถึงได้จาก: https://www.tbcmthailand.net/uiform/MainReport.aspx
ปิยะณัฐ บุญประดิษฐ์, อร่าม เกตุมณี. การประเมินระบบเฝ้า ระวังวัณโรคปอด โรงพยาบาลราชบุรี จังหวัดราชบุรี ปีงบประมาณ พ.ศ. 2556. รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา ประจำสัปดาห์ 2558; 46: S68-75.
สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค. นิยามโรคติดเชื้อประเทศ ไทย 2546. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: องค์การรับส่งสินค้าและ พัสดุภัณฑ์; 2546.
สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค. แนวทางรายงานโรคติดต่อ อันตรายและโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558. นนทบุรี: สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค; 2561.
คำนวณ อึ้งชูศักดิ์. หลักวิชาการและการประยุกต์ระบาดวิทยา สำหรับผู้บริหารสาธารณสุข. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: สถาบัน พัฒนาการสาธารณสุขอาเซียน; 2549.
ธนรักษ์ ผลิพัฒน์. การประเมินระบบเฝ้าระวังทางสาธารณสุข. ใน: คำนวณ อึ้งชูศักดิ์, ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ, วิทยา สวัสดิวุฒิพงศ์, ชุลีพร จิระพงษา, บรรณาธิการ. พื้นฐานระบาดวิทยา (Basics of Epidemiology). พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี: สมาคมนักระบาดวิทยาภาคสนาม; 2559. หน้า 166-74.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2019 รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงพิมพ์กับ WESR ถือเป็นข้อคิดเห็น และความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน WESR ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดไปเผยแพร่ กรุณาอ้างอิงบทความนั้น ๆ