การประเมินระบบเฝ้าระวังโรคความดันโลหิตสูง และความครอบคลุมของการคัดกรองโรคความดันโลหิตสูง จังหวัดบรุีรัมย์
คำสำคัญ:
ความดันโลหิตสูง, ประเมิน, เฝ้าระวัง, บุรีรัมย์, คัดกรองบทคัดย่อ
ความเป็นมา: การป้องกันและควบคุมโรคความดันโลหิตสูงจะไม่ สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าไม่มีระบบเฝ้าระวังที่ดี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ จึงทำการศึกษาเพื่อประเมิน ระบบเฝ้าระวังโรคความดันโลหิตสูง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา กระบวนการคัดกรองความเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง พร้อมทั้งความ ครอบคลุมของการคัดกรอง การส่งต่อ และการนําไปใช้ประโยชน์
วิธีการศึกษา: ทำการศึกษาแบบภาคตัดขวาง โดยออกแบบการเก็บ ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ อสม.และประชาชนใน 30 หมู่บ้านที่สุ่มตัวอย่าง ขึ้นมาจากหมู่บ้านทั้งหมดในจังหวัดบุรีรัมย์ แบบ cluster sampling การศึกษามี 3 ส่วน คือ 1) กระบวนการคัดกรองความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง โดยครอบคลุมประชากรอายุ 15 ปี ขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของการคัดกรอง ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลศูนย์ 2) ความครอบคลุมของการคัดกรองโรค และ 3) ความครอบคลุมของการส่งต่อกลุ่มสงสัยโรคความดันโลหิตสูงรายใหม่
ผลการศึกษา: ผลการสัมภาษณ์พบมีกระบวนการและรูปแบบการคัดกรองความเสี่ยงความดันโลหิตสูงในประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป คล้ายคลึงกัน ได้แก่ การเตรียมรายชื่อ วางแผนการคัดกรอง คัดกรองตามข้อคําถามในแบบวัดรอบเอว ช่างน้ำหนัก วัดความดันโลหิต โดยเครื่องแบบดิจิตอล ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีการ calibrate หลังจากนั้นทำการบันทึกข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประเมินผลตามตัวชี้วัด เมื่อดูความครอบคลุมของการคัดกรอง พบว่าประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไป ได้รับการคัดกรองความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง ร้อยละ 88.8 ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ทราบประวัติโรคความดันสูงในครอบครัว สรุปผลการประเมินความเสี่ยง พบส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มปกติ ร้อยละ 87.1 เป็นกลุ่มเสี่ยง ร้อยละ 4.1 และกลุ่มสงสัยรายใหม่ ร้อยละ 8.3 ในกลุ่มสงสัยโรคความดันโลหิตสูงรายใหม่ ได้รับการประเมิน CVD Risk ร้อยละ 20.0 และได้รับการส่งต่อร้อยละ 50.5 ซึ่งเมื่อไปถึงแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัย พบว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูงร้อยละ 5.0
ข้อเสนอแนะ: อสม.ที่ทำหน้าที่คัดกรองเบื้องต้น ควรได้รับการ อบรมอย่างต่อเนื่อง การประเมิน CVD Risk และการส่งต่อเพื่อรับการวินิจฉัยควรพัฒนาให้มีความครอบคลุมมากขึ้น ควรทบทวนกระบวนการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ได้รับการคัดกรอง เช่น การสื่อสารเรื่องประโยชน์ของข้อมูลประวัติครอบครัว สถานบริการควร มีระบบการติดตามผลการส่งต่อ โดยเฉพาะกลุ่มสงสัยที่ไม่ได้รับการวินิจฉัย
References
อมรา ทองหงษ์, กมลชนก เทพสิทธา และภาคภูมิ จงพิริยะ อนันต์. รายงานการเฝ้าระวังโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง พ.ศ. 2555. นนทบุรี: สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวง สาธารณสุข; 2556.
Littenberg B, Garber AM, Sox HC Jr. Screening for hypertension. Ann Intern Med 1990;112(3):192-202.
สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. ระบบเฝ้าระวัง 5 กลุ่มโรค 5 มิติ. นนทบุรี: บริษัท ฮีซ์ จํากัด; 2558.
ธนรักษ์ ผลิพัฒน์. แนวทางการประเมินระบบเฝ้าระวังทาง สาธารณสุข. นนทบุรี: สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข; 2551.
สมาคมนักระบาดวิทยาภาคสนาม. พื้นฐานระบาดวิทยา. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แคนนา กราฟฟิก; 2557.
สำนักบริหารยุทธศาสตร์สุขภาพดีวิถีไทย, บรรณาธิการ. คู่มือ บริหารจัดการงานโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง SI3M. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก; 2558.
Charoendee K, Sriratanaban J, Aekplakorn W, Hanvoravongchai P. Assessment of population coverage of hypertension screening in Thailand based on the effective coverage framework. BMC Health Serv Res 2018; 18(1): 208.
สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. การ ประเมินโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วย เบาหวานและความดันโลหิตสูง. นนทบุรี: สำนักงานกิจการ โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก; 2558.
สำนักพัฒนาวิชาการแพทย์ กรมการแพทย์ กระทรวง สาธารณสุข. แนวทางการคัดกรองและดูแลผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อ เรื้อรัง. นนทบุรี: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศ ไทยจํากัด; 2550.
Fleming S, Atherton H, McCartney D, Hodgkinson J, Greenfield S, Hobbs FD, Mant J, McManus RJ, Thompson M, Ward A, Heneghan C. Self-Screening and Non-Physician screening for Hypertension in Communities: A Systematic Review. Am J Hypertens 2015; 28(11): 1316-24.
ทักษพล ธรรมรังสี, บรรณาธิการ. คัดกรองหรือคัด (แล้ว) กอง. จดหมายข่าว NCD Net ปีที่ 2 ฉบับที่ 2 เดือนเมษายน–มิถุนายน 2558. นนทบุรี: แผนงานเครือข่ายควบคุมโรคไม่ ติดต่อ; 2558. หน้า 3.
กองวิศวกรรมการแพทย์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. คู่มือ การทดสอบเครื่องมือวัดทางการแพทย์ เครื่องวัดความดันโลหิต Blood Pressure. นนทบุรี: บริษัท บียอนด์ พับลิสชิ่ง จำกัด; 2559.
Johnson KA, Partsch DJ, Gleason P, Makay K. Comparison of two home blood pressure monitors with a mercury sphygmomanometer in an ambulatory population. Pharmacotherapy 1999; 19(3): 333-9.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2019 รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงพิมพ์กับ WESR ถือเป็นข้อคิดเห็น และความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน WESR ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดไปเผยแพร่ กรุณาอ้างอิงบทความนั้น ๆ