การสอบสวนการระบาดของโรคไข้อีดำอีแดง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน วันที่ 12 - 15 มกราคม 2555

ผู้แต่ง

  • พัชรินทร์ ตันติวรวิทย์ โครงการอบรมแพทย์ระบาดวิทยาภาคสนามนานาชาติ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
  • สรียา เวชวิฐาน โครงการอบรมแพทย์ระบาดวิทยาภาคสนามนานาชาติ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
  • พงษ์เทพ วงศ์วัชระไพบูลย์ โรงพยาบาลน่าน กระทรวงสาธารณสุข
  • มานิตา พรรณวดี โครงการอบรมแพทย์ระบาดวิทยาภาคสนามนานาชาติ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
  • หิรัญวุฒิ แพร่คุณธรรม โครงการอบรมแพทย์ระบาดวิทยาภาคสนามนานาชาติ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
  • พรรณราย สมิตสุวรรณ โครงการอบรมแพทย์ระบาดวิทยาภาคสนามนานาชาติ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
  • เทอดศักดิ์ ยาใจ โรงพยาบาลน่าน กระทรวงสาธารณสุข
  • วราภรณ์ เตชะเสนา โรงพยาบาลน่าน กระทรวงสาธารณสุข
  • จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ โครงการอบรมแพทย์ระบาดวิทยาภาคสนามนานาชาติ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
  • โสภณ เอี่ยมศิริถาวร โครงการอบรมแพทย์ระบาดวิทยาภาคสนามนานาชาติ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

คำสำคัญ:

โรคไข้อีดำอีแดง, Streptococcus pyogenas, ศูนย์เด็กเล็ก, โรงเรียน, จังหวัดน่าน

บทคัดย่อ

วันที่ 11 มกราคม 2555 สำนักระบาดวิทยาได้รับข้อมูล จากทีมแพทย์โรงพยาบาลน่านว่า พบผู้ป่วยเด็กสงสัยโรคไข้อีดำอีแดงประมาณ 40 ราย ที่อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ทีมสำนักระบาดวิทยา จึงได้ออกสอบสวนโรคร่วมกับทีมแพทย์จากโรงพยาบาลน่าน และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อยืนยันการระบาดของโรค ประเมินสถานการณ์และหาแนวทางควบคุมป้องกันโรคในระหว่างวันที่ 12 - 15 มกราคม 2555 จากการสอบสวนทางระบาดวิทยาพบผู้ป่วยไข้อีดำอีแดงหรือสงสัยไข้อีดำอีแดงมากขึ้นอย่างมากในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาที่ รพ.น่าน จากการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจากโรงพยาบาลน่าน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2554 ถึง 13 มกราคม 2555 พบผู้ป่วยที่สงสัยโรคไข้อีดำอีแดง จำนวน 27 ราย โดยผู้ป่วย 4 ราย มีผลจากสิ่งส่งตรวจจากคอหอยเพาะเชื้อพบ Streptococcus pyogenas ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ในอำเภอเมือง ส่วนใหญ่ผู้ป่วยเป็นเด็กเล็กอายุเฉลี่ย 3 ปี (2 เดือนถึง 13 ปี) เป็นเด็กชายมากกว่าเด็กหญิงเล็กน้อย (1.25:1) เป็นนักเรียน ร้อยละ 66.7 การดำเนินโรคของผู้ป่วยเป็นดังนี้ คือ ผู้ป่วยมักมีไข้ในวันแรกของการป่วย ต่อมาประมาณ 1 - 2 วัน ผู้ป่วยจะมีไข้สูงและผื่นขึ้นตามลำตัว จะมีอาการคัน ไข้จะลงแล้วผื่นแดง จะหายไปผู้ป่วยบางรายมีผิวหนังลอก ส่วนใหญ่ลอกบริเวณฝ่ามือ การระบาดของโรคไข้อีดำอีแดงในอำเภอเมือง จังหวัดน่านนั้น พบว่ามีผู้ป่วยเด็กกระจายอยู่ตามศูนย์เด็กเล็กและโรงเรียนอนุบาลหรือประถมหลายแห่ง การจัดตั้งระบบเฝ้าระวังได้รับการวินิจฉัยโรคโดยเร็ว และให้ยารักษาอย่างเหมาะสมถือเป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมโรคนี้

References

Behrman R, Kliegman R, Jenson H. Nelson textbook of pediatrics 16th ed. USA: W.B. Saunders company; 2000. p.803-4.

กลุ่มมาตรฐานและวิจัยระบาดวิทยาโรคติดต่อสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค. ทบทวนสถานการณ์โรคไข้ดำแดง ประเทศไทย พ.ศ.2554. ร้ายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา ประจำสัปดาห์ 2554;42(26):401-3.

สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค. สรุปการตรวจสอบข่าว การระบาดของโรคในรอบสัปดาห์ (Outbreak Verification Summary). WESR. 2012;43(8):122.

อรุณี ศุภนาม, กุสุมา สว่างพันธุ์, ศรีแพร เอ่งฉ้วน, อรนิดา พุทธ รักษ์, วันเพ็ญ แพนชัยภูมิ, กฤษณ์ สกุลแพทย์, วิวัฒน์ ศีตม โนชญ์. การสอบสวนการระบาดของโรคไข้อีดำอีแดงในโรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่ง ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต วันที่ 11 - 19 กันยายน 2554. รายงานการเฝ้าระวังทาง ระบาดวิทยาประจำสัปดาห์ 2554;42:721-6.

Hsieh YC, Huang YC. Scarlet fever outbreak in Hong Kong, 2011. J Microbiol Immunol Infect. 2011;44(6): 409-11. Epub 2011/08/30.

Lamden K. An outbreak of scarlet fever in a primary school. Arch Dis Child. 2011;96(4) :394-7. Epub 2010/11/10.

Chen M, Yao W, Wang X, Li Y, Chen M, Wang G, et al. Outbreak of Scarlet Fever Associated with emm12 Tyoe Group A Streptococcus in 2011 in Shanghai, China. Pediatr Infect Dis J 2012:e158-62.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2024-05-20

How to Cite

ตันติวรวิทย์ พ., เวชวิฐาน ส., วงศ์วัชระไพบูลย์ พ., พรรณวดี ม., แพร่คุณธรรม ห., สมิตสุวรรณ พ., ยาใจ เ., เตชะเสนา ว., พิทยาวงศ์อานนท์ จ., & เอี่ยมศิริถาวร โ. (2024). การสอบสวนการระบาดของโรคไข้อีดำอีแดง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน วันที่ 12 - 15 มกราคม 2555. รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์, 46(41), 641–647. สืบค้น จาก https://he05.tci-thaijo.org/index.php/WESR/article/view/1916

ฉบับ

บท

บทความต้นฉบับ