การระบาดของโรคผื่นคันที่เกิดจากไรใยมะพร้าว Tyrophagus longior ในครอบครัวหนึ่ง หมู่ 3 ตำบลท้ายเหมือง อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา วันที่ 25 มิถุนายน-4 กรกฎาคม 2559

ผู้แต่ง

  • ประกิจ สาระเทพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา
  • วรยศ ผลแก้ว สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา

คำสำคัญ:

copra itch, Tyrophagus longior, การระบาด, ประเทศไทย

บทคัดย่อ

ความเป็นมา: เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2559 ทีมสอบสวนโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา ได้รับรายงานว่าพบผู้ป่วยหลายรายมีผื่นขึ้นตามตัวและมีอาการคันอย่างรุนแรงอยู่ในบ้านเดียวกันในเขตพื้นที่อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ทีมสอบสวนโรคจากสำนักงานสาธารณสุขอำเภอท้ายเหมือง และสำนักงาน สาธารณสุขจังหวัดพังงาจึงได้ทำการสอบสวนโรคที่บ้านของครอบครัวดังกล่าว รวมถึงค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติมในชุมชนใกล้เคียง เพื่อยืนยันการวินิจฉัยการระบาด ระบุแหล่งแพร่กระจาย รวมถึงดำเนินการควบคุมโรคมิให้แพร่กระจายต่อไป
วิธีการศึกษา: ทีมสอบสวนโรคได้ดำเนินการสอบสวนโรคเกี่ยวกับลักษณะอาการทางคลินิกของผู้ป่วย การตรวจร่างกายครอบคลุมผู้ป่วยทุกคน สำรวจผื่นบริเวณผิวหนังตามลำตัวของผู้ป่วยเพื่อเก็บเชื้อปรสิตและตรวจยืนยันเชื้อโดยกล้องจุลทรรศน์ ตรวจนับค่าความสมบูรณ์ของเลือดในผู้ป่วยทุกราย ค้นหาผู้ป่วยและผู้สัมผัสที่มีอาการผื่นคันเพิ่มเติมในชุมชน รวมถึงสำรวจประวัติสิ่งแวดล้อมของบ้าน และบริเวณรอบบ้านของผู้ป่วยเพื่อหาสาเหตุการเกิดโรค แหล่งโรค วิธีการถ่ายทอดโรค รวมถึงมาตรการในการควบคุมป้องกันโรคต่อไป
ผลการศึกษา: มีผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันทั้งหมด 6 ราย มีอายุอยู่ ในช่วง 11-32 ปี ผู้ป่วยทุกรายเป็นครอบครัวเดียวกันและอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน อาการผื่นคันเกิดขึ้นกับผู้ป่วยในช่วงวันที่ 22 มิถุนายน-3 กรกฎาคม 2559 ไม่พบผู้ป่วยยืนยันเพิ่มเติมในชุมชน จากการตรวจร่างกายผู้ป่วยทุกรายมีลักษณะผื่นที่เหมือนกัน คือ เป็นลักษณะผื่นแดงนูน และมีอาการคันอย่างรุนแรง โดยพบมากบริเวณลำตัว (82%) และลำคอ (67%) ผลการตรวจเลือดพบ จำนวนเม็ดเลือดขาวสูงเกินค่าปกติ 2 ราย จากการสำรวจผื่นคันของผู้ป่วยทั้งหมดพบตัวไร 1 ตัว เมื่อตรวจยืนยันตัวไรโดยกล้องจุลทรรศน์ระบุได้ว่าเป็นตัวไร Tyrophagus longior ที่เป็นสาเหตุของโรค Copra itch แต่เดิมบ้านของผู้ป่วยหลังนี้เป็นแหล่งทำอุสาหกรรมเกี่ยวกับเนื้อมะพร้าวและกากมะพร้าวเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ผู้ป่วยและครอบครัวย้ายเข้ามาพักอาศัยในบ้านหลังนี้ 3 เดือนที่ผ่านมา จากการสำรวจภายในบ้านพบที่นอนทำจากใยมะพร้าวที่ไม่ใช้แล้วอยู่ในห้องนอนของผู้ป่วย
สรุปและวิจารณ์: ผู้ป่วยทุกรายได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค Copra itch พบรายงานโรคนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อปี พ.ศ. 2496 (ค.ศ.1953) ที่ประเทศเนเธอร์แลด์ ลักษณะอาการของผู้ป่วยจากรายงานเข้าได้กับอาการของผู้ป่วยในครั้งนี้ โดยมีตัวไร Tyrophagus longior เป็นพาหะนำโรคแฝงตัวอยู่ในที่นอนใยมะพร้าวซึ่งยืนยันเป็นแหล่งเพาะโรค ทีมสอบสวนโรคได้นำที่นอนใยมะพร้าวออกจากห้องนอนของผู้ป่วยและกำจัดโดยการเผา รวมถึงพ่นยา Deltamethrin ทั้งใน และนอกบ้านของผู้ป่วยเพื่อกำจัดพาหะนำโรค ผู้ป่วยทุกรายได้รับยา Gamma Benzene Hexachloride (0.1%) ทาบริเวณผิวหนัง เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่ผิวหนังแทรกซ้อน

References

John O'Donel Alexander. Arthropods and Human Skin [Internet]. Berlin Heidelberg: Springer-Verlag: 1984 [cited 2016 July 20]. Available from: https://books.google.co.th/bookstid=vTXTBwAAQBAJ&printsec=frontcover

William D James, Timothy Berger, Dirk Elston. Andrews' Diseases of the Skin: Clinical Dermatology [Internet]. ELSEVIER 2011 [cited 2016 July 20]. Available from: https://books.google.co.th/booksid=Np6ccQAAQBAJ&printsec=frontcover&hl=th

NCBI blog [Internet]. Journal List Proc R Soc Med v.6 (Dermatol Sect): Report on the Mite causing the Copra Itch. The Trustees of the British Museum 1913 [cited 2016 July 20]. Available from: http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2006767/

James Harry Sequeira .Diseases of the skin] Internet .[ University of California .J .& A .Churchill 1919 ]cited 2016 July 19 .[Available from : https://archive.org/details/diseasesofskin00sequuoft

วิชิต พินิจกุล, สุชาติ ปรียานนท์. กี่ฎวิทยาทางการแพทย์ . ขอนแก่น: ภาควิชาปรสิตวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น; 2526. หน้า 254.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2024-05-27

How to Cite

สาระเทพ ป., & ผลแก้ว ว. (2024). การระบาดของโรคผื่นคันที่เกิดจากไรใยมะพร้าว Tyrophagus longior ในครอบครัวหนึ่ง หมู่ 3 ตำบลท้ายเหมือง อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา วันที่ 25 มิถุนายน-4 กรกฎาคม 2559. รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์, 47(45), 705–712. สืบค้น จาก https://he05.tci-thaijo.org/index.php/WESR/article/view/2064

ฉบับ

บท

บทความต้นฉบับ