การสอบสวนการระบาดของโรคเรื้อนในหมู่บ้านที่ใกล้เคียงกันของอำเภอชาติตระการ และอำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก ปี พ.ศ. 2553-2559

ผู้แต่ง

  • เชิดศักดิ์ ศิริวัฒน์ โรงพยาบาลชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก
  • พายัพ แสงทอง โรงพยาบาลชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก
  • ราตรี คงเมือง โรงพยาบาลชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก
  • วรรณา ภู่เสม สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 พิษณุโลก

คำสำคัญ:

โรคเรื้อน, การระบาด, เครือญาติ, พิษณุโลก

บทคัดย่อ

ความเป็นมา: เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2559 ทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็วอำเภอชาติตระการ ได้รับรายงานจากเครือข่ายเฝ้าระวัง สอบสวนเคลื่อนที่เร็วระดับตำบลว่า พบผู้ป่วยสงสัยโรคเรื้อน เพศหญิง อายุ 20 ปี ย้ายเข้ามาอาศัยในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของอำเภอชาติตระการ และเป็นเครือญาติกับผู้ป่วยโรคเรื้อนรายเก่าสองรายที่เสียชีวิตไปแล้วทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็วลงสอบสวนเพื่อยืนยันการเกิดโรค ระบุขนาดของปัญหา ศึกษาพฤติกรรมเสี่ยง แหล่งรังโรคและกำหนดมาตรการป้องกันควบคุมโรค
วิธีการศึกษา: ศึกษาทางระบาดวิทยาเชิงพรรณนา ทบทวนข้อมูลผู้ป่วยรายใหม่และรายเก่าภายในเครือญาติ และค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติมตามนิยาม และศึกษาทางห้องปฏิบัติการโดยใช้วิธีกรีดผิวหนัง slit skin Smear ส่งย้อมสีหาเชื้อ รวมทั้งศึกษาทางสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ
ผลการศึกษา: ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553-2559 มีผู้ป่วยสะสม 5 ราย จำแนกเป็นเพศชาย 3 ราย เพศหญิง 2 ราย ผู้ป่วยทุกรายตรวจพบรอย โรคทางผิวหนังที่มีอาการชานานมากกว่า 3 เดือน (ร้อยละ 100) คลำพบเส้นประสาทส่วนปลายโต 4 ราย (ร้อยละ 80) ตรวจ Slit Skin smear พบเชื้อ Mycobacterium leprae 3 ราย (ร้อยละ 60) ในจำนวน 3 รายนี้เป็นประเภทเชื้อมาก (MB) ชนิด LL ทั้งหมด อีก 2 ราย ตรวจ slit Skin Smear ไม่พบเชื้อ แต่ถือว่าเข้าได้กับนิยามโรคข้ออื่น จัดเป็นประเภทเชื้อน้อย (PB) ชนิด BT โดยในปี พ.ศ. 2559 พบผู้ป่วยรายใหม่อีก 1 ราย เป็นเพศหญิง อายุ 20 ปี และมีความสัมพันธ์ในเครือญาติกับผู้ป่วยรายเก่าในพื้นที่สองหมู่บ้านและสอง อำเภอที่มีอาณาเขตติดกัน โดยผู้ป่วยรายใหม่ที่พบในปี พ.ศ. 2559 นี้ มีปูที่ป่วยเป็นโรคเรื้อน ซึ่งปูของผู้ป่วยได้เลี้ยงดูมาตั้งแต่วัยเด็ก
สรุปและวิจารณ์: พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนภายในเครือญาติของสองหมู่บ้าน ในสองอำเภอใกล้เคียงกัน ผู้ป่วยยืนยันทุกรายเข้าได้กับ นิยาม cardinal sign ทั้ง 4 ข้อ ผู้ป่วยทุกรายมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติคลุกคลีเป็นอยู่ร่วมกันและประกอบอาชีพสัมพันธ์กัน จึงดำเนินงานให้สุขศึกษาประชาสัมพันธ์ และเฝ้าระวังโรค โดยตรวจร่างกายผู้สัมผัสร่วมบ้าน ผู้สัมผัสใกล้บ้านรัศมี 20 เมตร ผู้สัมผัสที่ ทำงาน และทางสังคม ตามเกณฑ์ของสถาบันราชประชาสมาสัย เพื่อเป็นการป้องกันควบคุมโรคต่อไป

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2024-05-30

ฉบับ

บท

บทความต้นฉบับ