กรณีสอบสวนการระบาดของหัดเยอรมันในแผนกยานยนต์ของหน่วยงานหนึ่ง กรุงเทพมหานคร ธันวาคม 2553 - มกราคม 2554
คำสำคัญ:
โรคหัดเยอรมัน, genotype 2B, ผู้ชาย, ผู้ใหญ่บทคัดย่อ
ความเป็นมา เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2554 สำนักระบาดวิทยาได้รับรายงานจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขว่า มีผู้ป่วยสงสัยโรคหัดเยอรมัน 2 ราย เป็นพนักงานขับรถในแผนก ยานยนต์ของหน่วยงานหนึ่ง กรุงเทพมหานคร ทีมสำนักระบาดวิทยา ร่วมกับทีมเฝ้าระวังสอบสวนเคลื่อนที่เร็วกรุงเทพมหานคร ออกสอบสวนโรคเพื่อยืนยันการระบาดของโรคหัดเยอรมัน ค้นหาแหล่งโรค และร่วมวางมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรค ระหว่างวันที่ 19 - 20 มกราคม 2554
วิธีการศึกษา สัมภาษณ์ผู้ป่วยและผู้ร่วมงานของผู้ป่วยในเขตหน่วยงาน สัมภาษณ์แพทย์ที่ตรวจร่างกายผู้ป่วย สำรวจสภาพแวดล้อมในหน่วยงาน ทบทวนผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการหาเชื้อไวรัสหัดเยอรมันของเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่ส่งตรวจที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติมพร้อมเก็บตัวอย่างเลือดและทำ throat swab จากผู้ป่วยที่สงสัยโรคหัดเยอรมันและส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อหาระดับภูมิคุ้มกัน IgM, IgG ต่อเชื้อไวรัสหัดเยอรมันด้วยวิธี ELISA และ cell isolation ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยกำหนดนิยามผู้ป่วยสงสัย ได้แก่ ผู้ที่มีผื่นแบบ generalized erythematous rash ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2553 - 31 มกราคม 2554 และปฏิบัติงานในหน่วยงานแห่งนี้ ผู้ป่วยเข้าข่าย หมายถึง ผู้ป่วยสงสัยที่มีผลตรวจระดับภูมิคุ้มกันในเลือดต่อเชื้อไวรัสหัดเยอรมัน IgM พบเป็นผลไม่ชัดเจน (borderline) และ ผู้ป่วยยืนยัน หมายถึง ผู้ป่วยสงสัยที่มีผลตรวจระดับภูมิคุ้มกันในเลือดต่อเชื้อไวรัสหัดเยอรมัน IgM พบ เป็นผลบวก (positive) หรือ ผล cell isolation ของเชื้อไวรัสหัดเยอรมัน พบเป็นผลบวก และผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการ หมายถึง ผู้ที่ปฏิบัติงานในหน่วยงานแห่งนี้ ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2553 - 31 มกราคม 2554 และมีผลตรวจระดับภูมิคุ้มกันในเลือดต่อเชื้อไวรัสหัดเยอรมัน I9M พบเป็นผลบวก (positive) แต่ไม่มีผื่นแบบ generalized erythematous rash
ผลการศึกษา พบผู้ป่วยทั้งหมด 5 ราย เป็นผู้ป่วยเข้าข่าย 2 ราย ผู้ป่วยยืนยัน 3 ราย และผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการ 1 ราย ผู้ป่วยทั้งหมดเป็นพนักงานขับรถในแผนกยานยนต์ อัตราป่วยเฉพาะ แผนกยานยนต์ร้อยละ 20.8 และผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการ 1 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ในแผนกเสื้อผ้า ผู้ป่วยทั้งหมดเป็นผู้ชาย พิสัย ระหว่างควอร์ไทล์ของอายุ 26 - 32 ปี ค่ามัธยฐานของอายุเท่ากับ 29.5 ปี ผู้ป่วยทั้งหมดมีอาการไข้และผื่นแบบ generalized erythematous rash ผู้ป่วย 3 ราย มีอาการตาแดงและปวดข้อ แต่ไม่มีผู้ป่วยคนใดมีอาการต่อมน้ำเหลืองโต การปฏิบัติงานในแผนกยานยนต์แบ่งออกเป็น 2 เวร คือ เวรวันคู่และเวรวันคี่ ผู้ป่วย รายแรกปฏิบัติงานเวรวันคี่ อัตราป่วยเฉพาะเวรวัน ร้อยละ 33.3 และอัตราป่วยเฉพาะเวรวันคู่ ร้อยละ 8.3 พนักงานขับรถที่ทำงานในเวรเดียวกันจะนอนพักผ่อนรวมกันในห้องนอนที่มีลักษณะเป็นห้องนอนปรับอากาศ สภาพค่อนข้างแออัด มีเตียง 2 ชั้น 7 เตียง แต่ละเตียงนอนจะมีพนักงานขับรถที่เป็นเจ้าของ 2 คน นอนสลับในแต่ละเวร พนักงานขับรถใช้หมอนและผ้าห่มร่วมกันและซักล้างมากกว่าเดือนละครั้ง จากตัวอย่างเลือดที่ส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการทั้งหมด ผลตรวจระดับภูมิคุ้มกันในเลือดต่อเชื้อไวรัสหัดเยอรมัน IgM พบเป็นผลไม่ชัดเจน (borderline) 3 ราย พบเป็นผลบวก(positive) 3 ราย ผล cell isolation จากการทำ throat swab ให้ผลบวกต่อเชื้อไวรัส หัดเยอรมัน 2 ราย เป็น genotype 2B
ข้อสรุป การระบาดของโรคหัดเยอรมัน genotype 2B เกิดในกลุ่มพนักงานขับรถที่ปฏิบัติงานในแผนกยานยนต์ของหน่วยงานหนึ่ง กรุงเทพมหานคร ช่วงเดือนธันวาคม 2553 - มกราคม 2554 โดยการนอนในห้องนอนปรับอากาศเดียวกับผู้ป่วยรายแรกเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ
เอกสารอ้างอิง
สุริยะ คูหะรัตน์, บรรณาธิการ. นิยามโรคติดเชื้อประเทศไทย. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพฯ :โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและ พัสดุภัณฑ์, 2544.
Devid L. Heymann. Control of Communicable Diseases Manual. 19t Edition. Washington, DC : American Public Health Association, 2008.
สำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. โรคหัดเยอรมัน. [Cited 30 Jan 2011] เข้าถึงได้จาก http://thaigcd.ddc.moph.go.th/knowledges/view/29
สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. Rubella.[cited 30 Jan 2011] เข้าถึงได้จาก http://www.boe.moph.go.th/fact/Rubella.htm
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2012 รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ความรับผิดชอบและลิขสิทธิ์
1. ความรับผิดชอบของผู้เขียนและความเห็นของกองบรรณาธิการ (Author Responsibility and Editorial Disagreement)
เนื้อหาและข้อมูลทั้งหมดในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร WESR ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบโดยตรงของผู้นิพนธ์บทความ และกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ ในเนื้อหาดังกล่าว
2. ลิขสิทธิ์และการอ้างอิง (Copyright and Referencing)
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ และอื่น ๆ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร WESR ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดประสงค์จะนำเนื้อหาทั้งหมดหรือส่วนใดส่วนหนึ่งไปเผยแพร่ จะต้องอ้างอิงบทความนั้น ๆ อย่างถูกต้อง

