การศึกษาปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้อที่ตำแหน่งผ่าตัดในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง กรุงเทพมหานคร เดือนสิงหาคม - กันยายน 2554
คำสำคัญ:
การติดเชื้อที่ตำแหน่งผ่าตัด, การติดเชื้อในโรงพยาบาล, ประเทศไทยบทคัดย่อ
ความเป็นมา: เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2554 สำนักระบาดวิทยาได้รับรายงานจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครว่า พบการติดเชื้อที่ตำแหน่งผ่าตัดมีอัตราสูงขึ้นจากประมาณร้อยละ 2 ต่อเดือน เป็นร้อยละ 6.8 ในเดือนสิงหาคมและกันยายน 2554 จึงเข้าร่วมสอบสวนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยืนยันการวินิจฉัยและการระบาด ศึกษาขนาดของปัญหา ปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้อ และเพื่อเสนอแนวทางการควบคุมป้องกันกันติดเชื้อที่เหมาะสม
วิธีการศึกษา: ศึกษาระบาดวิทยาเชิงวิเคราะห์แบบ Case-control study กำหนดสัดส่วนผู้ป่วยต่อกลุ่มเปรียบเทียบ 1 ต่อ 5 ประชากรทั้งสองกลุ่มได้จากการทบทวนเวชระเบียนผู้ป่วยที่รับการผ่าตัดในโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม - 30 กันยายน 2554 โดยใช้นิยามผู้ป่วยติดเชื้อเช่นเดียวกับนิยามของ CDC ข้อมูลที่รวบรวม ได้แก่ ตำแหน่งและชนิดของการติดเชื้อ เชื้อที่เป็นสาเหตุ อาการ และอาการแสดงของผู้ป่วย ปัจจัยด้านตัวผู้ป่วย บุคลากรที่เข้าร่วมผ่าตัด เป็นต้น นอกจากนี้ได้สำรวจสิ่งแวดล้อมที่แผนกต่าง ๆ การศึกษานี้ทำการวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงด้วย multivariate analysis โดยเลือกปัจจัยที่ค่า P-value < 0.20 หรือปัจจัยที่มีการศึกษาก่อนหน้าพบว่า เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญเข้าในการวิเคราะห์
ผลการศึกษา: พบผู้ป่วยติดเชื้อจำนวน 15 ราย (ร้อยละ 3.7) จากผู้ป่วยที่รับการผ่าตัดทั้งสิ้น 406 ราย มัธยฐานของระยะฟักตัวเท่ากับ 7 วัน (พิสัย 0 - 58 วัน) พบเชื้อก่อโรคในตัวอย่างเพาะเชื้อของผู้ป่วย 5 ราย ซึ่งแต่ละรายเป็นเชื้อต่างชนิดกัน เมื่อวิเคราะห์โดยใช้กลุ่มเปรียบเทียบจำนวน 74 ราย พบพยาบาล 1 ราย (aOR 8.36, 95% C = 1.26 - 55.32) มีความสัมพันธ์กับการติดเชื้ออย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในขณะที่การรับการผ่าตัดจากศัลยแพทย์หนึ่งท่านหรือดัชนีมวลกายตั้งแต่ 28.5 k9/m มีลักษณะที่แสดงว่าน่าจะเป็นปัจจัยเสี่ยง (aOR 5.02, 95% CI = 0.84 - 26.88 และ AOR 6.66, 95% CI = 0.87 - 50.87 ตามลำดับ) จากการสำรวจสิ่งแวดล้อมพบปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง เช่น ระบบฆ่าเชื้อน้ำล้างมือในแผนกเสีย มีหยดน้ำ ละอองน้ำจากเครื่องปรับอากาศพ่นลงเตียงผ่าตัด บางหัตถการมีผู้เข้าร่วมสังเกตขณะผ่าตัดเป็นจำนวนมาก เป็นต้น
สรุปการศึกษา: การศึกษานี้พบปัจจัยเสี่ยงที่มีนัยสำคัญทางสถิติ ได้แก่ พยาบาลหนึ่งราย อย่างไรก็ตามปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมหลายอย่างมีความเสี่ยงที่สามารถทำให้เกิดการปนเปื้อนของเชื้อระหว่างผ่าตัดได้ จากการจำกัดจำนวนการผ่าตัด ร่วมกับการใช้มาตรการ ควบคุมป้องกันหลายอย่างร่วมกัน เช่น ปรับพฤติกรรมของบุคลากร สิ่งแวดล้อม กระบวนการปราศจากเชื้อ ทำให้สัดส่วนการติดเชื้อที่ตำแหน่งผ่าตัดลดลง
เอกสารอ้างอิง
Garner JS, Jarvis WR, Emori TG, Horan TC, Hughes JM. CDC definitions for nosocomial infections. In: Olmsted RN, ed. APIC Infection Control and Applied Epidemiology: Principles and Practice. St. Louis: Mosby; 1996. p. A-1-A-20.
Kleven RM, Edwards JR, Richards CL, Horan TC, Gaynes RP, Pollock DA, et al. Estimating health care-associated infections and deaths in U.S. hospitals, 2002. Public Health Reports 2007; 122: 160-6.
อะเอื้อ อุณหเลขกะ. หลักและแนวปฏิบัติการป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล. เชียงใหม่: มิ่งเมือง; 2554.
อะเคี้อ อุณหเลขกะ. การฝ้าระวังและการสอบสวนการระบาดของการติดเชื้อในโรงพยาบาล. เชียงใหม่: มิ่งเมือง; 2554.
Scott RD II. The direct medical costs of healthcareassociated infections in U.S. hospitals and the benefits of prevention. 2009: 1-13.
Mangram AJ, Horan TC, Pearson ML, Silver LC, Jarvis WR. Guideline for prevention of surgical site infection, 1999. Infection Control and Hospital Epidemiology 1999;20(4):247-78.
Krizek TJ, Robson MC. Evolution of quantitative bacteriology in wound management. Am J Surg 1975; 130: 579-84.
Ayliffe GA. Role of the environment of the operating suite in surgical wound infection. Rev Infect Dis 1991; 13 (Suppl 10): S800-4.
American Institute of Architects. Guidelines for design and construction of hospital and health care facilities. Washington (DC): American Institiute of Architects Press; 1996.
Nichols RL. The operating room. In: Bennett JV, Brachman PS, eds. Hospital Infections. 3rd ed. Boston: Little, Brown and Co; 1992: 461-73.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2012 รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ความรับผิดชอบและลิขสิทธิ์
1. ความรับผิดชอบของผู้เขียนและความเห็นของกองบรรณาธิการ (Author Responsibility and Editorial Disagreement)
เนื้อหาและข้อมูลทั้งหมดในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร WESR ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบโดยตรงของผู้นิพนธ์บทความ และกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ ในเนื้อหาดังกล่าว
2. ลิขสิทธิ์และการอ้างอิง (Copyright and Referencing)
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ และอื่น ๆ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร WESR ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดประสงค์จะนำเนื้อหาทั้งหมดหรือส่วนใดส่วนหนึ่งไปเผยแพร่ จะต้องอ้างอิงบทความนั้น ๆ อย่างถูกต้อง

