การประเมินระบบเฝ้าระวังโรคหัดตามโครงการกำจัดโรคหัด : กรณีศึกษาโรงพยาบาลราชบุรีและโรงพยาบาลโพธาราม จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย ปี 2567
DOI:
https://doi.org/10.59096/wesr.v56i10.5570คำสำคัญ:
การกำจัดโรคหัด, ระบบเฝ้าระวัง, การประเมิน, ราชบุรีบทคัดย่อ
บทนำ : องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดให้การกำจัดโรคหัดเป็นเป้าหมายสำคัญระดับโลกและระดับภูมิภาค โดยเน้นการมีระบบเฝ้าระวังโรคที่มีประสิทธิภาพ ประเทศไทยจึงได้ดำเนินโครงการกำจัดโรคหัด (Measles Elimination: ME) ซึ่งเน้นการวินิจฉัยไข้ออกผื่นและส่งยืนยันทางห้องปฏิบัติการและการตอบสนองอย่างทันท่วงที การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินประสิทธิภาพของการเฝ้าระวังโรคหัดผ่านระบบ ME ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพในจังหวัดราชบุรี ปี พ.ศ. 2567
วิธีการศึกษา : การศึกษานี้เป็นการศึกษาเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวาง ดำเนินการในโรงพยาบาลราชบุรีและโรงพยาบาลโพธาราม ระหว่างวันที่ 1 มกราคม–31 ธันวาคม 2567 โดยกำหนดนิยามผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ 4 นิยาม ได้แก่ (1) ไข้ร่วมกับผื่น Maculopapular (MP) หรือแพทย์สงสัยหัด (นิยามหลักตาม WHO และใช้ในระบบ ME), (2) ไข้ร่วมกับผื่น MP, (3) ไข้ร่วมกับผื่นที่กำหนดหรือแพทย์สงสัยหัด, และ (4) ไข้ร่วมกับผื่นที่กำหนด ทั้งนี้ “ผื่นที่กำหนด” หมายถึง MP หรือ ผื่นลักษณะ erythematous โดยไม่รวมผื่นตุ่มน้ำ ลมพิษ หรือจุดเลือดออก คุณลักษณะเชิงปริมาณที่ศึกษา ได้แก่ ความไว ค่าพยากรณ์บวก ความถูกต้อง ความครบถ้วน ความเป็นตัวแทน และความทันเวลา นอกจากนี้ยังประเมินคุณลักษณะเชิงคุณภาพของระบบ ได้แก่ ความยอมรับ ความง่ายในการใช้งาน ความยืดหยุ่น ความมั่นคง และการใช้ประโยชน์ทางสาธารณสุข ผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึกกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
ผลการศึกษา : พบผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์โรคหัดตามนิยามระบบ ME จำนวน 30 รายในโรงพยาบาลราชบุรี และ 41 รายในโรงพยาบาลโพธาราม โดยมีการรายงานเข้าสู่ระบบ ME จำนวน 2 ราย และ 14 ราย ตามลำดับ คิดเป็น ค่าความไว (Sensitivity) เท่ากับร้อยละ 6.7 และ ร้อยละ 34.1 ตามลำดับ ขณะที่ค่าพยากรณ์บวก (Positive Predictive Value: PPV) ของทั้งสองแห่งอยู่ที่ร้อยละ 100 โรงพยาบาลราชบุรีมีความครบถ้วนและความถูกต้องของข้อมูลร้อยละ 100 ในทุกตัวแปร ขณะที่โรงพยาบาลโพธารามมีข้อมูลไม่สมบูรณ์บางตัวแปร ได้แก่ วันที่เริ่มมีอาการ (ร้อยละ 96) และวันที่ได้รับการวินิจฉัย (ร้อยละ 84) และข้อมูลความถูกต้องของวันที่เริ่มมีอาการในโรงพยาบาลโพธารามอยู่ที่ร้อยละ 58 ด้านความเป็นตัวแทน ข้อมูลในระบบ ME มีแนวโน้มอายุของผู้ป่วยสูงกว่ากลุ่มเวชระเบียนในทุกนิยาม และมีสัดส่วนผู้ป่วยสัญชาติไทยแตกต่างจากเวชระเบียน ส่วนการกระจายของเพศมีความใกล้เคียงกันในทั้งสองแหล่งข้อมูล ความทันเวลาในการรายงานพบว่าโรงพยาบาลราชบุรีรายงานภายใน 48 ชั่วโมงได้ร้อยละ 100 ขณะที่โรงพยาบาลโพธารามทำได้ร้อยละ 56 และมีค่ามัธยฐานของระยะเวลาการรายงานเท่ากับ 1 วัน (ช่วง 1–20 วัน) สำหรับข้อมูลเชิงคุณภาพจากการสัมภาษณ์ พบว่าบุคลากรมีระดับความเข้าใจเกี่ยวกับระบบที่แตกต่างกัน ขาดการอบรมอย่างต่อเนื่อง และมีการใช้ข้อมูลระบบ ME ไม่มากนักในช่วงที่ไม่มีการระบาด ทั้งนี้ จังหวัดราชบุรีมีอัตราการรายงานผู้ป่วยต้องสงสัยที่ไม่ใช่โรคหัดหรือหัดเยอรมันเท่ากับ 1.50 รายต่อประชากรแสนคน
อภิปรายและข้อเสนอแนะ : ระบบเฝ้าระวัง ME ในจังหวัดราชบุรีมีความแม่นยำในการยืนยันผู้ป่วย แต่ยังมีข้อจำกัดด้านความไว ความครอบคลุมของข้อมูล และการมีส่วนร่วมของบุคลากรในระดับปฏิบัติการ ควรส่งเสริมการอบรมอย่างต่อเนื่อง พัฒนาการบูรณาการข้อมูล และส่งเสริมการใช้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจในสถานการณ์ทั่วไป ไม่เฉพาะช่วงระบาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเฝ้าระวัง และสนับสนุนเป้าหมายการกำจัดโรคหัดตามที่ WHO กำหนด
เอกสารอ้างอิง
World Health Organization. Measles and rubella strategic framework: 2021-2030 [Internet]. 2020 [cited 2025 Feb 17]. Available from: https://www.who.int/publications/i/item/measles-and-rubella-strategic-framework-2021-2030
Minta AA, Ferrari M, Antoni S, Portnoy A, Sbarra A, Lambert B, et al. Progress toward regional measles elimination—worldwide, 2000–2021. MMWR Morb Mortal Wkly Rep. 2022;71(47):1489–95. doi:10.15585/mmwr.mm7147a1.
The BMJ. Measles is now “an imminent threat” globally, WHO and CDC warn [Internet]. 2024 [cited 2025 Feb 17]. Available from: https://www.bmj.com/content/bmj/379/bmj.o2844.full.pdf
World Health Organization. Strategic Plan for measles and rubella elimination and sustenance in the WHO South-East Asia Region: 2024-2028 [Internet]. 2024 [cited 2025 Feb 17]. Available from: https://www.who.int/publications/i/item/9789290229476
Nalam P, Chuchan S. A comparison study of measles reporting system from epidemiological surveillance system and measles elimination program, 2018. Weekly Epidemiological Surveillance Report. 2021; 52(4): 53–60. (in Thai)
Ministry of Public Health (TH). Measles Online Database: Measles/Rubella Situation in Thailand, 2025 [Internet]. Nonthaburi: Ministry of Public Health; [cited 2025 Jun 13]. Available from: https://apps-doe.moph.go.th/measles (in Thai)
Ratchaburi Provincial Employment Office (TH). Labor Statistics of Ratchaburi Province [Internet]. 2024 [cited 2025 Feb 17]. Available from: https://ratchaburi.mol.go.th/labor_statistics (in Thai)
Siriwat C, Saengthong P. Measles Surveillance System Evaluation in Chattrakarn Hospital, Phitsanulok Province, Thailand January 1, 2013 - February 29, 2016. Journal of Disease Prevention and Control: DPC. 2 Phitsanulok. 2016; 4(2): 49–63. (in Thai)
Srisupap W, Suttawong T, Sukkasem I. The evaluation of surveillance under Measles Elimination Program in Samut Prakan province, 2018. Journal of Disease Control. 2021; 47(Suppl 1): 664–77. (in Thai)
Wijit W, Methakulchart R, Intanun S, Chaysiri N, Saetho S, Mahayosanan R. Measles surveillance evaluation, Tak, Thailand, 2011. Weekly Epidemiological Surveillance Report. 2012; 43(34): 529–34. (in Thai)
Sabella C. Measles: not just a childhood rash. Cleve Clin J Med. 2010; 77(3): 207–13.
World Health Organization, Regional Office for South-East Asia. Measles and Rubella Surveillance and Outbreak Investigation Guidelines. New Delhi: WHO SEARO; 2009. p.47–52.
Ministry of Public Health, Department of Disease Control (TH). Guidelines for Measles Surveillance and Investigation [Internet]. Nonthaburi: Ministry of Public Health; 2024 [cited 2025 Jun 14]. Available from: https://ddc.moph.go.th/uploads/ckeditor2//files/แนวทางการเฝ้าระวังและสอบสวนหัด_Ver09092567.pdf (in Thai)
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ความรับผิดชอบและลิขสิทธิ์
1. ความรับผิดชอบของผู้เขียนและความเห็นของกองบรรณาธิการ (Author Responsibility and Editorial Disagreement)
เนื้อหาและข้อมูลทั้งหมดในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร WESR ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบโดยตรงของผู้นิพนธ์บทความ และกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ ในเนื้อหาดังกล่าว
2. ลิขสิทธิ์และการอ้างอิง (Copyright and Referencing)
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ และอื่น ๆ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร WESR ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดประสงค์จะนำเนื้อหาทั้งหมดหรือส่วนใดส่วนหนึ่งไปเผยแพร่ จะต้องอ้างอิงบทความนั้น ๆ อย่างถูกต้อง

