ลักษณะทางระบาดวิทยาของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอมิครอน 100 รายแรกที่รายงานในประเทศไทย วันที่ 26 พฤศจิกายน–21 ธันวาคม 2564

บทคัดย่อ

บทคัดย่อ
ความเป็นมา : ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 ทีมสอบสวนโรคเฉพาะกิจไวรัสโคโรนา 2019 กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ได้ร่วมกันสอบสวนโรคและเก็บข้อมูลของผู้ป่วยสงสัยและผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอมิครอน ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน–21 ธันวาคม 2654 เพื่อบรรยายลักษณะทางระบาด-วิทยาของผู้ติดเชื้อฯ สายพันธุ์โอมิครอน 100 รายแรกที่รายงานในประเทศไทย
วิธีการศึกษา : การศึกษาทางระบาดวิทยาเชิงพรรณนา โดยเก็บข้อมูลผู้ป่วยสงสัยและผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอมิครอน โดยเก็บข้อมูลลักษณะประชากร ประเทศต้นทาง ประเภทการเดินทางเข้าประเทศ และวันที่เดินทางเข้าประเทศไทย อาการและอาการแสดง ประวัติวัคซีน และข้อมูลผลทางห้องปฏิบัติการ โดยรวบรวมข้อมูลจากฐานข้อมูลผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรมควบคุมโรค ฐานข้อมูลผู้เดินทางเข้าประเทศ กองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศและกักกันโรค และฐานข้อมูลกรมวิทยาศาตร์การแพทย์ โดยใช้แบบสอบสวนโรคเฉพาะราย (แบบฟอร์ม Novel Corona 3) วิเคราะห์ข้อมูลสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ร้อยละ อัตราส่วน ค่ามัธยมฐาน และค่าสูงสุด–ต่ำสุด
ผลการศึกษา : ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอมิครอน 100 รายแรกที่รายงานในประเทศไทยเป็นเพศชาย 54 ราย เพศหญิง 46 ราย คิดเป็นอัตราส่วนเพศหญิงต่อเพศชาย 1 : 1.17 อายุอยู่ระหว่าง 8–77 ปี ค่ามัธยฐานอายุ 34 ปี ให้ประวัติเดินทางมาจากต่างประเทศ 99 ราย และมี 1 รายเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศแต่สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้าที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ในจำนวน 100 รายนี้พบผู้ป่วยอาการรุนแรง 2 ราย ร้อยละ 89 ของผู้ป่วยได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม และมีเพียงร้อยละ 14 ที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 Secondary attack rate ในกลุ่มครอบครัวเดียวกัน หรือคณะที่เดินทางพร้อมกันเท่ากับร้อยละ 22.75 (43/189) และในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงบนเครื่องบิน เท่ากับร้อยละ 7.02 (4/57)
สรุปและวิจารณ์ผล : ผู้ติดเชื้อฯสายพันธุ์โอมิครอนในการศึกษานี้ส่วนใหญ่เป็นผู้เดินทางต่างประเทศ และได้รับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็มก่อนติดเชื้อ อาจสัมพันธ์กับผลการศึกษาที่พบว่าความรุนแรงของการติดเชื้อต่ำ อย่างไรก็ตามพบว่า Secondary attack rate ในกลุ่มผู้สัมผัสที่เป็นครอบครัวเดียวกันหรือร่วมคณะเดินทางเดียวกันค่อนข้างสูง อาจสนับสนุนว่าการแพร่โรคของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ โอมิครอนอาจแพร่ได้เร็วกว่าเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์ที่ น่ากังวลที่พบก่อนหน้า