ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจกับสมรรถนะหลักของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ปฏิบัติงาน ในหน่วยบริการปฐมภูมิ อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

Main Article Content

สุภาวดี พรมแดง
มิ่งขวัญ ศิริโชติ
สุนารี ทะน๊ะเป็ก

บทคัดย่อ

   การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจแบบตัดขวาง (cross-sectional study design) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานและสมรรถนะหลัก และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานกับสมรรถนะหลักของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในหน่วยบริการปฐมภูมิ อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีกลุ่มตัวอย่างจำนวน 142 คน โดยสุ่มแบบชั้นภูมิจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจำนวน 18 แห่ง และสุ่มตัวอย่างแบบง่ายเลือกชื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแต่ละหน่วยบริการ เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่น (Cronbach’s Coefficient) เท่ากับ 0.96 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและสถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน
     ผลการศึกษาพบว่า แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของกลุ่มตัวอย่างโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (ร้อยละ 64.08) เมื่อพิจารณารายปัจจัย พบว่าปัจจัยจูงใจภาพรวมอยู่ในระดับมาก (ร้อยละ 82.40) และปัจจัยค้ำจุนภาพรวมอยู่ในระดับมาก (ร้อยละ 52.11) และมีสมรรถนะหลักของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโดยรวมอยู่ในระดับมาก (ร้อยละ 65.49) เมื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ พบว่าแรงจูงใจโดยรวมมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับสมรรถนะหลักของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (r = 0.787) เมื่อพิจารณาเป็นรายปัจจัย พบว่าปัจจัยจูงใจและปัจจัยค้ำจุนมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับสมรรถนะหลักของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข (r = 0.558 และ 0.756 ตามลำดับ) ดังนั้น หน่วยงานควรส่งเสริมให้มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน การสร้างแรงจูงใจ และความมั่นคงในชีวิต เช่น การเลื่อนขั้นเงินเดือน การเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้น และควรเพิ่มพูนความรู้และทักษะในการทำงาน

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
พรมแดง ส., มิ่งขวัญ ศิริโชติ, & สุนารี ทะน๊ะเป็ก. (2025). ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจกับสมรรถนะหลักของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ปฏิบัติงาน ในหน่วยบริการปฐมภูมิ อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี. วารสารวิจัยสุขภาพปฐมภูมิ, 1(2), 239–250. สืบค้น จาก https://he05.tci-thaijo.org/index.php/J_PHR/article/view/5685
ประเภทบทความ
บทความวิจัย