การประเมินประสิทธิภาพของการบริหารแนวปฏิบัติการขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการ สถาบันพระบรมราชชนก

Main Article Content

นิตสรา อินทร์เจริญ

บทคัดย่อ

การวิจัยแบบภาคตัดขวางนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ประสิทธิภาพของการบริหารแนวปฏิบัติการขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการ 2) ความต้องการเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการของอาจารย์ และ 3) ปัจจัยที่สัมพันธ์กับความต้องการเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการของอาจารย์ สถาบันพระบรมราชชนก กลุ่มตัวอย่าง คือ อาจารย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้านการสอนของวิทยาลัยในสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก 210 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม ตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน ได้ค่าความสอดคล้องระหว่างข้อกับเนื้อหาระหว่าง 0.67 – 1.00 มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.98 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และ Chi-square


ผลการวิจัยพบว่า ประสิทธิภาพแนวปฏิบัติการขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง (M = 3.27, SD = 0.99) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านบุคลากรที่รับผิดชอบ (M = 3.41, SD = 1.06) รองลงมาคือ ด้านความชัดเจน (M = 3.34, SD = 1.02) ด้านลักษณะของแนวปฏิบัติ (M = 3.24, SD = 0.96) ด้านการนำไปใช้ (M = 3.22, SD = 1.10) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ความพึงพอใจต่อการดำเนินงาน (M = 3.15, SD = 1.07) และพบว่า ปัจจัยระดับการศึกษา ลักษณะของแนวปฏิบัติ การนำไปใช้ และความชัดเจนของแนวปฏิบัติมีความสัมพันธ์กับความต้องการเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการของอาจารย์ สถาบันพระบรมราชชนก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่
ระดับ .05


ฉะนั้น สถาบันพระบรมราชชนกควรมีการกำหนดนโยบาย สร้างบรรยากาศและวัฒนธรรมทางวิชาการ และจัดหน่วยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเสนอขอตำแหน่งทางวิชาการให้กับอาจารย์ที่จะยื่นขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
นิตสรา อินทร์เจริญ. (2025). การประเมินประสิทธิภาพของการบริหารแนวปฏิบัติการขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการ สถาบันพระบรมราชชนก. วารสารวิจัยสุขภาพปฐมภูมิ, 1(2), 146–161. สืบค้น จาก https://he05.tci-thaijo.org/index.php/J_PHR/article/view/5694
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กมลวรรณ จันทร. (2564). การบริหารสถานศึกษายุคโลกพลิกผัน ฉลาดรู้เท่าทันดิจิทัล. การประชุมวิชาการ นำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 14. วันที่ 18 สิงหาคม 2564

กรรณิการ์ สุวรรณศรี. (2557). เอกสารประกอบการสอนวิชา 9011106 การบริหารทรัพยากรมนุษย์. นครปฐม: ภาควิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.

เกศริน ธารีเทียน และศศิธร ลบล้ำเลิศ. (2557). แนวปฏิบัติที่ดีในการขอตำแหน่งทางวิชาการของบุคลากรสายวิชาการคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. Integrated Social Science Journal, Faculty Of Social Sciences And Humanities, Mahidol University, 1(2), 110-124.

ชูขวัญ รัตนพิทักษ์ธาดา และประทุมทอง ไตรรัตน์. (2566). สมรรถนะของผู้นําทางการศึกษาเพื่อการอยู่รอดและเติบโตในยุค BANI World. วารสารวิชาการสถาบันวิทยาการจัดการแห่ง

แปซิฟิค, 9(1), 16-28.

จิตราภา กุณฑลบุตร, ฉันทนา สุรัสวดี, สุบัน บัวขาว, สุไม บิลไบ, อนันตกุล อินทรผดุง, กาญจนา จินดานิล, และคณะ. (2562). การศึกษาปัญหา อุปสรรค และแนวทางการพัฒนาอาจารย์เข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการของมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร. Academic Journal Phranakhon Rajabhat University, 10(1), 1-12

จันทนันท์ จารุโณปถัมภ์ และสัญญา เคณาภูมิ. (2558). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการของบุคลากรสายวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม. Governance Journal, 4(2), 208-231.

ฐิตาภา ทองไชย. (2564). ความพึงพอใจของอาจารย์ที่มีต่อการให้บริการของงานกำหนดตำแหน่งทางวิชาการ กองบริหารงานบุคคล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี. สืบค้นจาก http://www.repository.rmutt.ac.th/xmlui/handle/123456789/3877

นฤมล สุขเสาร์ และพจนา พิชิตปัจจา. (2566). การพัฒนาแนวทางและยกระดับกระบวนการขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่. วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์, 8(2), 195-208

บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น ฉบับปรับปรุงใหม่. กรุงเทพ ฯ: สุวีริยาสาส์น.

มนญาวัณย์ เศรษฐพงศ์. (2556). สภาพปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาในการขอตำแหน่งทางวิชาการของอาจารย์มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น. วารสารวิชาการ วารสารเซนต์จอห์น, 16(18), 53-67.

ราชกิจจานุเบกษา. (2562). พระราชบัญญัติสถาบันพระบรมราชชนก พ.ศ. 2562. เล่ม 136 ตอนที่ 43 ก ลงวันที่ 5 เมษายน2562 หน้า 40-65.

ราชกิจจานุเบกษา. (2565). ประกาศคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษา เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี พ.ศ. 2565. เล่ม 139 ตอนพิเศษที่ 212 ง ลงวันที่ 9 กันยายน 2565 หน้า 11-20.

ลักษณา สุทธนะ และวงพักตร์ ภู่พันธ์ศรี. (2566). ปัญหาการขอตำแหน่งทางวิชาการตามหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณา แต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแน่งทางวิชาการ: กรณีศึกษาตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยรัฐ. วารสารรามคำแหงฉบับรัฐประศาสนศาสตร์, 6(2) 320-343.

วรรณา อาวรณ์. (2557). แรงจูงใจในการทำงานกับความผูกพันต่อองค์การของข้าราชการรัฐสภาระดับปฏิบัติงาน สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. มหาวิทยาลัยเกริก. (สารนิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต).

วีณา พึงวิวัฒน์นิกุล. (2561). เอกสารประกอบการบรรยายกระบวนวิชาการจัดการทรัพยากรมนุษย์ร่วมสมัย. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยรามคำแหง, โครงการรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต.

ศรีวิสา ตลับทอง. (2565). ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการที่สูงขึ้นของคณาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี. นครราชสีมา: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

สุรีพันธุ์ วรพงศธร. (2558). การวิจัยทางสุขศึกษา. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์วิฑูรย์การปก.

แสงทอง ศรีประภา, ดรุวรรณ ทอดทอง และมัทนา บัวศรี. (2567). การพัฒนารูปแบบการขับเคลื่อนบุคลากรสายวิชาการเพื่อก้าวสู่ตำแหน่งทางวิชาการ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัย

ขอนแก่น. วารสารครุศาสตร์ปัญญา, 3(4), 47-60.

อิสรี ยาเนตร. (2558). แรงจูงใจที่มีผลต่อพฤติกรรมการทำงานของผู้แทนยาและเวชภัณฑ์ประจำโรงพยาบาลในเขตกรุงเทพมหานคร. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, กรุงเทพฯ. (สารนิพนธ์บริหารธุรกิจบัณฑิต).

Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities.Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.

Likert, R. (1967). The Method of Constructing and Attitude Scale, in Attitude Theory and. Measurement. New York : Wiley & Son.