ปัจจัยเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดสุราษฎร์ธานี

บทคัดย่อ

บทนำ: โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 เป็นโรคติดต่ออุบัติใหม่ เกิดจากเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ระบาดใหญ่ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 การระบาดระลอกเมษายน ระหว่างวันที่ 1 เมษายน–31 ธันวาคม 2564 ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี พบผู้ป่วยยืนยันสะสม 28,809 ราย เสียชีวิตสะสม 159 ราย คิดเป็นอัตราป่วยตายร้อยละ 0.55 การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) อธิบายลักษณะทางระบาดวิทยาของผู้ป่วยโรคโควิด 19 และ 2) วิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงต่อการเสียชีวิตในผู้ป่วยโรคโควิด 19 
วิธีการศึกษา: การศึกษานี้เป็นการศึกษาภาคตัดขวาง กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา จำนวน 477 คน สุ่มคัดเลือกจากฐานข้อมูลผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคโควิด 19 อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นการระบาดระลอกเมษายน วันที่ 1 เมษายน–31 ธันวาคม 2564 จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ผลการศึกษา: ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (ร้อยละ 55.8) กลุ่มอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป (ร้อยละ 36.7) ไม่ได้รับวัคซีน (ร้อยละ 55.4) และมีโรคประจำตัวอย่างน้อย 1 โรค (ร้อยละ 40.7) ปัจจัยเสี่ยงที่มีอิทธิพลต่อการเสียชีวิตอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติ (P-value < 0.05) โดยวิเคราะห์การถดถอยพหุแบบโลจิสติค ได้แก่ อายุ 60 ปีขึ้นไป (aOR 36.15, 95% CI 4.44–18.79) มีโรคประจำตัว (aOR 31.70 95% CI 4.17–19.16) โรคเบาหวาน (aOR 7.53, 95% CI 1.50–11.51) โรคไตเรื้อรัง (aOR 4.57, 95% CI 1.23–117.51) และการได้รับวัคซีนไม่ครบโดส (aOR 35.59, 95% CI 12.58–149.84)
สรุปผลการศึกษาและข้อเสนอแนะ: การศึกษานี้สรุปได้ว่า ผู้สูงอายุ การมีโรคประจำตัว โรคเบาหวาน โรคไตเรื้อรัง และการได้รับวัคซีนไม่ครบโดส เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคโควิด 19 ดังนั้น ผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงต้องได้รับการวินิจฉัยอย่างรวดเร็ว ให้การรักษาทั้งโรคโควิด 19 และโรคร่วมอย่างเหมาะสม สำหรับกลุ่มเสี่ยงควรมีมาตรการเร่งรัดการฉีดวัคซีนเชิงรุกให้ครอบคลุม