การประเมินระบบเฝ้าระวังโรคเมลออยโดสิสของโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ปี พ.ศ. 2561

ผู้แต่ง

  • อมรรัตน์ เทพากรณ์ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข
  • ประกานต์ คนสูง โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข

คำสำคัญ:

ระบบเฝ้าระวัง, โรคเมลิออยโดสิส, การประเมินผล, โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์, อุบลราชธานี

บทคัดย่อ

ความเป็นมา: โรคเมลิออยโดสิสเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Burkholderia psuedomallei ผู้ป่วยแสดงอาการได้หลากหลาย การวินิจฉัยจำเป็นต้องใช้ผลทางห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยา และการรักษาต้องใช้ยาปฏิชีวนะที่จำเพาะ จากข้อจํากัดนี้จึงเป็นเหตุให้มีอัตราตายสูงในปี 2560 พบรายงานผู้ป่วยมากที่สุดที่จังหวัดอุบลราชธานี จึงทำศึกษาระบบการเฝ้าระวังโรคเมลิออยโดสิสของโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาระบบเฝ้าระวังโรคทางระบาดวิทยาของโรงพยาบาล
วิธีการศึกษา: เป็นการศึกษาแบบภาคตัดขวาง โดยศึกษาข้อมูลผู้ป่วยที่มารับบริการที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ระหว่างวันที่ 1 มกราคม-31 ธันวาคม 2561 ที่มีอาการไข้ร่วมกับตรวจพบฝีในอวัยวะต่าง ๆ หรือพบการติดเชื้อรุนแรงร่วมกับมีผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ กรณีผู้ป่วยที่เข้าข่าย คือ Indirect hemagglutination test (IHA) > 1:160 หรือวิธี Immunofluorescence antibody test (IFA) > 1:400 หรือย้อมเชื้อพบสีแกรมลบ และกรณีผู้ป่วยยืนยัน คือ เพาะเชื้อจากเลือดหรือสิ่งส่งตรวจต่าง ๆ พบ B. pseudomallei หรือพบไตเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 4 เท่า โดยศึกษาถึงขั้นตอนการรายงานของระบบเฝ้าระวังโรคเมลิออยโดสิส คุณลักษณะเชิงปริมาณและคุณลักษณะเชิงคุณภาพ และข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาระบบเฝ้าระวัง
ผลการศึกษา: ระบบเฝ้าระวังโรคเมลิออยโดสิสมีความครบถ้วน หรือความไวของการรายงาน ร้อยละ 89.73 และมีค่าพยากรณ์บวก ร้อยละ 60 ความเป็นตัวแทน จากตัวแปรเพศ อายุ เชื้อชาติ และอาชีพ สามารถเป็นตัวแทนได้ทั้งหมด ด้านคุณภาพข้อมูลพบตัวแปรอายุ เพศ ที่อยู่ เชื้อชาติ ประเภทผู้ป่วย ครบถ้วนร้อยละ 100 และมีความถูกต้องของข้อมูลสูงมาก แต่วันที่เริ่มป่วยมีความครบถ้วนต่ำเพียงร้อยละ 37.91 ด้านความทันเวลา พบมีรายงานทันเวลาเพียงร้อยละ 2 ด้านคุณลักษณะเชิงคุณภาพ พบว่าขั้นตอนการปฏิบัติงานไม่ซับซ้อนแต่นิยามโรคยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ข้อมูลส่วนใหญ่ได้รับมาจากศูนย์วิจัยโรคเมลิออยโดสิสทั้งผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานทุกระดับเห็นว่ามีประโยชน์และควรเป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากเป็นโรคที่พบได้บ่อยในพื้นที่และมีความรุนแรงสูง การรายงานก็ไม่ยุ่งยากสามารถทำแทนกันได้ และสามารถปรับใช้กับระบบการรายงานโรคที่ต้องเฝ้าระวังอื่น ๆ ได้ แต่ยังไม่มีคู่มือและระบบการสื่อสารที่ชัดเจน
สรุปและวิจารณ์: ระบบเฝ้าระวังโรคเมลิออยโดสิสของโรงพยาบาล สรรพสิทธิประสงค์มีค่าความครบถ้วนสูงเนื่องจากมีศูนย์วิจัยโรคนี้ในโรงพยาบาล แต่ค่าพยากรณ์บวกอยู่ในระดับพอใช้เนื่องจากรายงานผู้ป่วยเดิมเข้าในระบบ เพราะการตรวจสอบข้อมูลก่อนส่งรายงานยังไม่ดีพอ การรายงานไม่ทันเวลาตามเวลาแต่อาจจะไม่จำเป็นสำหรับโรคนี้ แต่ควรมีการหารือเพื่อปรับปรุงระบบการเฝ้าระวังโรคเมลิออยโดสิสและโรคที่ต้องเฝ้าระวังอื่น ๆ ในโรงพยาบาลต่อไป

References

Wiersinga WJ, Currie BJ, Peacock SJ. Melioidosis. The New England journal of medicine. 2012;367:1035-44.

กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. รายงานโรคในระบบเฝ้าระวัง 506 [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 18 ธ.ค. 2561]. เข้าถึงได้จาก: http://www.boe.moph.go.th/boedb/surdata/506wk/y60/d17_1060.pdf

กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. นิยาม โรคติดเชื้อประเทศไทย. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: โรง พิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์; 2546.

คำนวณ อึ้งชูศักดิ์, ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ, วิทยา สวัสดิวุฒิ, พงศ์ม ชุลีพร จิราพงษา, บรรณาธิการ. พื้นฐานระบาดวิทยา. พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี: โรงพิมพ์แคนนา กราฟฟิค; 2559.

อิทธิศักดิ์ เจริญทรัพย์, จินตนา กาญจนบัตร. การประเมินระบบ เฝ้าระวังโรคเมลิออยโดสิส โรงพยาบาลโพธิ์ไทร อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี ปี พ.ศ. 2559. รายงานการเฝ้าระวังทาง ระบาดวิทยาประจำสัปดาห์. 2560;48:721-7.

ฆาลิตา อานนท์, พรทวี แคล้วอ้อม, กรรณิกา สุวรรณา, คนิสสร นาคน้อย, ยงเจือ เหล่าศิริถาวร. การประเมินระบบเฝ้าระวังโรค เมลิออยโดสิส จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปี พ.ศ. 2557. รายงานการ เฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์. 2559;47:S61-6.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2024-04-27

How to Cite

เทพากรณ์ อ., & คนสูง ป. (2024). การประเมินระบบเฝ้าระวังโรคเมลออยโดสิสของโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ปี พ.ศ. 2561. รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์, 50(35), 521–528. สืบค้น จาก https://he05.tci-thaijo.org/index.php/WESR/article/view/1497