การสอบสวนโรคกรณีพนักงานขบรถโดยสารประจำทางสาธารณะในกรุงเทพมหานคร เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 วันที่ 14-15 เมษายน 2563
คำสำคัญ:
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019, โควิด 19, เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019, รถโดยสารประจำทางสาธารณะ, พนักงานขับรถโดยสารสาธารณะบทคัดย่อ
ความเป็นมา: ทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค กองระบาดวิทยา ได้รับแจ้งจากสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) พบผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) เสียชีวิต 1 ราย จึงร่วมกับ สปคม. กองควบคุมโรคติดต่อ กรุงเทพมหานคร (กคร.) และศูนย์บริการสาธารณสุข 42 สอบสวนโรควันที่ 14–15 เมษายน 2563 เพื่อยืนยันการวินิจฉัยและการระบาด ค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดและผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มเติม ทราบปัจจัยเสี่ยง และเสนอแนะ มาตรการควบคุมโรค
วิธีการศึกษา: เป็นการศึกษาระบาดวิทยาเชิงพรรณนา โดยทบทวน เวชระเบียนผู้ป่วยและเอกสารต่าง ๆ ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด ค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ และสัมภาษณ์บุคคลกลุ่มต่าง ๆ ศึกษาทางห้องปฏิบัติการด้วยวิธี RT-PCR for SARS-CoV-2 ในผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และสำรวจสิ่งแวดล้อมในที่ทำงานและโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยไปรักษา
ผลการศึกษา: ผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 52 ปี อาชีพพนักงานขับรถ โดยสารประจำทางปรับอากาศสาธารณะ เริ่มป่วยวันที่ 17 มีนาคม 2563 ด้วยอาการปวดกล้ามเนื้อ จากนั้นป่วยต่อเนื่องไม่ดีขึ้น แต่ยัง ไปทำงานปกติและมีการสังสรรค์หลายครั้ง สังสรรค์ครั้งสุดท้ายวันที่ 26 มีนาคม 2563 ซึ่งสงสัยว่าเป็นครั้งในการแพร่กระจายเชื้อมากที่สุด เนื่องจากเพื่อน 1 รายที่ร่วมวงป่วยด้วยโรคโควิด 19 ก่อนเข้า ร่วมวง ถัดจากนั้น 5 วัน ผู้ป่วยอาการแย่ลงและมีไข้สูง จึงไปโรงพยาบาลและวินิจฉัยโรคโควิด 19 ส่วนเพื่อนที่เหลือในวงต่าง ติดโรคโควิด 19 ทุกคน ผลสำรวจสิ่งแวดล้อมในที่ทำงานพบ โรงอาหารและท่ารถบางช่วงมีความแออัด ส่วนโรงพยาบาล 2 แห่ง ที่ผู้ป่วยไปรักษามีการจัดสถานที่รองรับโรคโควิด 19 ได้เป็นอย่างดี
ข้อเสนอแนะ: 1) แต่ละชุมชนควรพัฒนาระบบเฝ้าระวังและแจ้ง เตือนเมื่อพบเห็นการฝ่าฝืนมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม เช่น การตั้งวงสังสรรค์กัน 2) บริษัทเดินรถควรจัดสถานที่พักผ่อนรองรับ พนักงานอย่างเพียงพอ ดำเนินมาตรการสุขอนามัยในกลุ่มพนักงาน มีจุดคัดกรองวัดไข้พนักงานก่อนเริ่มงาน มีการกั้นกระจกระหว่าง พนักงานขับรถและผู้โดยสาร ปรับปรุงระบบการหมุนเวียนอากาศภายในรถ ดูแลความสะอาดภายในรถ จำกัดจำนวนผู้โดยสาร ออกแบบที่นั่งเพื่อลดการสัมผัสโรค ให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากตลอดทาง และใช้ระบบเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ
References
World Health Organization. Coronavirus disease (COVID-19). 2 020 [cited 2020 April 29] . Available from: https://www.who.int/emergencies/diseases/novelcoronavirus-2019/question-and-answers-hub/q-adetail/coronavirus-disease-covid-19
World Health Organization. Pandemic [Internet]. 2020 [cited 2020 April 29]. Available from: https://www.who.int/emergencies/diseases/novel-coronavirus-2019
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. สถานการณ์โรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทย [อินเตอร์เน็ต]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ 29 เมษายน 2563]. เข้าถึงได้จาก: https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/index.php Coronavirus disease (COVID-19)
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของ โรคติดต่ออันตราย (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2563. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ที่ 137, ตอนพิเศษ 48 ง. หน้า 1 [อินเตอร์เน็ต]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ 29 เมษายน 2563] . เข้าถึงได้จาก: http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/048/T_0001.PDF
กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. แบบ สอบสวนโรคผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา [อินเตอร์เน็ต]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ 4 พฤษภาคม 2563]. เข้าถึงได้จาก: https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/file/guidelines/form_NovelCorona2_ver23Mar2020.pdf
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. แนวทางการเฝ้าระวัง และสอบสวนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ฉบับ 23 มีนาคม 2563 [อินเตอร์เน็ต]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ 4 พฤษภาคม 2563]. เข้าถึงได้จาก: https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/file/g_srrt/g_srrt_250363.pdf
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. แนวปฏิบัติในการป้อง กันควบคุมโรคไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับระบบขนส่งสาธารณะ ภายในประเทศ กระทรวงสาธารณสุข ฉบับ 4 มีนาคม 2563 [อินเตอร์เน็ต]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ 4 พฤษภาคม 2563]. เข้าถึง ได้จาก: https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/file/measure/mea_bus_040363.pdf
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงพิมพ์กับ WESR ถือเป็นข้อคิดเห็น และความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน WESR ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดไปเผยแพร่ กรุณาอ้างอิงบทความนั้น ๆ