การประเมินคุณลักษณะเชิงปริมาณของระบบการคัดกรองและรายงานผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงจากระบบรายงาน 43 แฟ้ม ปีงบประมาณ 2560
คำสำคัญ:
การประเมินผล, การคัดกรอง, ความดันโลหิตสูง, ความครอบคลุมบทคัดย่อ
ความเป็นมา: การคัดกรองเพื่อสามารถวินิจฉัยโรคความดันโลหิตสูง ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญที่ช่วยลดภาวะแทรกซ้อนที่จะตามมา การประเมินระบบเฝ้าระวังโรคความดันโลหิตสูง ใน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุพรรณบุรี ลําปาง สกลนคร และตรัง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคุณลักษณะเชิงปริมาณของระบบการคัด กรองโรคความดันโลหิตสูง และการรายงานผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงรายใหม่ ปีงบประมาณ 2560
วิธีการศึกษา: ทบทวนข้อมูลการคัดกรองประชากรเป้าหมาย (อายุ 35 ปีขึ้นไป) ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล/ศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง และติดตามผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคความดันโลหิตสูงรายใหม่ในโรงพยาบาลชุมชน/โรงพยาบาลจังหวัด โดยใช้ฐานข้อมูลรายงาน 43 แฟ้มในระดับโรงพยาบาล เพื่อประเมินคุณลักษณะความครอบคลุมของการคัดกรองโรคความดันโลหิตสูง ความครบถ้วนในการบันทึกข้อมูลการคัดกรอง และอัตราการวินิจฉัยผู้ป่วยความดันโลหิตสูงรายใหม่ในผู้ที่รับการคัดกรองที่มีผลิดปกติ สถิติที่ใช้ในการศึกษาวิเคราะห์ตัวแปรด้วยจำนวนร้อยละ และ Chi–square test
ผลการศึกษา: พบความครอบคลุมในการคัดกรองความดันโลหิตสูง เฉลี่ยร้อยละ 95 พบความดันโลหิตผิดปกติเฉลี่ยร้อยละ 6 ความครบถ้วนในการบันทึกข้อมูลการคัดกรอง เฉลี่ยร้อยละ 83.5 การวินิจฉัยผู้ป่วยความดันโลหิตสูงรายใหม่จากการคัดกรองได้เฉลี่ย ร้อยละ 9 สัดส่วนผู้ป่วยที่คัดกรองผิดปกติ (screening) ได้ขึ้นทะเบียนผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงรายใหม่สูงสุด คือ จังหวัดตรัง (ร้อยละ 16) รองลงมา คือ สุพรรณบุรี (ร้อยละ 10) สกลนคร (ร้อยละ 6) และ ลําปาง (ร้อยละ 4) เปรียบเทียบในชุมชนเมือง เฉลี่ยร้อยละ 1.25 ในอำเภอนอกเขตเมืองเฉลี่ยร้อยละ 8.79 พบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p < 0.05)
สรุปและอภิปรายผล: ความครอบคลุมในการคัดกรองความดันโลหิตสูงและความครบถ้วนในการบันทึกข้อมูลการคัดกรอง พบว่า อยู่ในเกณฑ์ดี สูงกว่าเป้าหมายของกระทรวงสาธารณสุข และอัตราการวินิจฉัยผู้ป่วยความดันโลหิตสูงรายใหม่จากการคัดกรองประจำปีเฉลี่ยร้อยละ 9 ควรปรับปรุงกระบวนส่งต่อผู้ที่มีผลการคัดกรองผิดปกติไปยินยันการะวินิจฉัยโรคความดันโลหิตสูงในโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลระดับจังหวัด และแนวทางการลงรหัสกิจกรรม รหัสโรค (ICD-10) บันทึกข้อมูลลงในแฟ้มให้เป็นมาตรฐาน
References
. World Health Organization. Global Status Report on Non–communicable Diseases [Internet]. 2014 [cited 2019 Aug 8] . Available from: http://www.who.int/nmh/publications/ncd–status–report–2014/en/
สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข. รายงานการสํารวจประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2557. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์; 2559.
Garrison GM, Oberbelman S. Screening for hypertension annually compared with current practice. Ann Fam Med. 2013;11(2): 116–21.
สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข. รายงานระบบคลังข้อมูลด้าน การแพทย์และสุขภาพ (HDC) [ออนไลน์]. 2561 [เข้าถึงวันที่ 1 มกราคม 2561]; เข้าถึงได้จาก : https://hdcservice.moph.go.th/hdc/reports/page.php?cat_id=6966b0664b89805a484d7ac96c6edc48
ภูดิท เตชาภิวัฒน์ และนัทรา กิจธีระวุฒิวงศ์. การประเมินผลการ ปฏิบัติงานของ อสม. ที่ปฏิบัติงานในเครือข่ายสุขภาพ อำเภอ พรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก. วารสารพยาบาลสาธารณสุข. 2557;28(1):16–28.
อมรา ทองหงส์, กมลชนก เทพสิทธา และภาคภูมิ ยศวัฒน. การศึกษาระบบและความครอบคลุมการคัดกรองกลุ่มเสี่ยง เบาหวานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบลใน 4 จังหวัด พ.ศ. 2556. งานสัมมนาระบาดวิทยาแห่งชาติ ครั้งที่ 22 วันที่ 4-6 กุมภาพันธ์ 2558.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2020 รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงพิมพ์กับ WESR ถือเป็นข้อคิดเห็น และความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน WESR ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดไปเผยแพร่ กรุณาอ้างอิงบทความนั้น ๆ