การสอบสวนโรคอาหารเป็นพิษจาก Staphylococcus aureus อำเภอเมือง จังหวัดสตลู วันที่ 11–12 มิถุนายน 2563

ผู้แต่ง

  • พัชรพร เดชบุรัมย์ กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค
  • ชนาธิป ไชยเหล็ก กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค
  • สวรรยา จันทูตานนท์ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลา กรมควบคุมโรค
  • ภิเษก ณ นคร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสตูล
  • นุสรีย์ ปะดุกา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสตูล
  • ยูนุส มานะกล้า โรงพยาบาลสตูล
  • ชูพงศ์ แสงสว่าง สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลา กรมควบคุมโรค

คำสำคัญ:

อาหารเป็นพิษ, โตเกียว, Staphylococcus aureus, สตูล

บทคัดย่อ

ความเป็นมา: วันที่ 10 มิถุนายน 2563 กองระบาดวิทยาได้รับแจ้ง จากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลาว่า พบผู้ป่วยสงสัย โรคอาหารเป็นพิษเป็นกลุ่มก้อน จำนวน 10 ราย ใน อ.เมืองสตูล ทุกรายซื้ออาหารรับประทานจากร้าน ก. ในวันที่ 9 มิถุนายน 2563 ทีมปฏิบัติการสอบสวนโรคดำเนินการสอบสวนระหว่างวันที่ 11–12 มิถุนายน 2563 เพื่อยืนยันการวินิจฉัยและการระบาด พรรณนา ลักษณะทางระบาดวิทยา ค้นหาปัจจัยการเกิดโรคและการระบาด และวางแผนการควบคุมป้องกันโรค
วิธีการศึกษา: ศึกษาโดยทบทวนข้อมูลผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษ และอุจจาระร่วงในพื้นที่ ต.เจ๊ะบิลัง จากฐานข้อมูลผู้มารับบริการที่ รพ.สตูล และ รพ.สต.ปาเต๊ะ ระหว่างวันที่ 25 พฤษภาคม–11 มิถุนายน 2563 และค้นหาผู้ป่วยในชุมชนโดยอาสาสมัครสาธารณสุข ประจำหมู่บ้านสำรวจทุกหลังคาเรือน กำหนดนิยามผู้ป่วย คือ ผู้ที่ อาศัยอยู่ ม.4 ต.เจ๊ะบิลัง อ.เมือง จ.สตูล ร่วมกับมีอาการข้อใดข้อ หนึ่ง ได้แก่ คลื่นไส้/อาเจียน ถ่ายเหลว หรือปวดท้อง ระหว่างวันที่ 9–11 มิถุนายน 2563 สัมภาษณ์ผู้ป่วยและค้นหาแหล่งโรคร่วม ศึกษาระบาดวิทยาเชิงวิเคราะห์แบบ Retrospective cohort study ในผู้ที่รับประทานอาหารจากแหล่งโรคร่วมเดียวกัน ร้าน ก. วันที่ 9 มิถุนายน 2563 โดยวิธีสัมภาษณ์ทั้งหมด 73 ราย ศึกษาด้าน สิ่งแวดล้อมและทางห้องปฏิบัติการ เก็บอุจจาระผู้ป่วย rectal swab, hand swab และ nasal swab ผู้สัมผัสอาหาร ป้ายพื้นผิวของ สิ่งแวดล้อม และเก็บตัวอย่างอาหารสงสัยส่งตรวจหาเชื้อก่อโรค
ผลการศึกษา: วันที่ 25 พฤษภาคม–11 มิถุนายน 2563 พบกลุ่มก้อน ผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษและโรคอุจจาระร่วงเฉพาะ หมู่ที่ 4 ตำบล เจ๊ะบิลัง 24 ราย ทุกรายรับประทานอาหารจากร้าน ก. วันที่ 9 มิถุนายน 2563 ก่อนป่วยจากผู้รับประทานทั้งหมด 73 ราย คิดเป็น อัตราป่วยร้อยละ 32.9 (24/73) ค่าอายุมัธยฐาน 18 ปี (Q1, Q3 เท่ากับ 7.3, 29) อัตราส่วนเพศชายต่อเพศหญิงเท่ากับ 1 : 1.6 ผู้ป่วย มีอาการคลื่นไส้อาเจียนมากที่สุด (ร้อยละ 91.7) รองลงมา คือ อ่อนเพลีย (ร้อยละ 75.0) ถ่ายเหลวเป็นน้ำ (ร้อยละ 75.0) และปวดท้อง (ร้อยละ 70.8) ระยะฟักตัว 15 นาที ถึง 6 ชั่วโมง (มัธยฐาน 3 ชั่วโมง) พบปัจจัยเสี่ยง คือ การรับประทานขนมโตเกียวไส้สังขยาที่ ปรุงไส้ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องเป็นเวลา 5.5 ชั่วโมงก่อนแช่เย็นและนำมาขายวันรุ่งขึ้น (RR 5.8, 95% CI 2.4–13.7) และยำ (RR 7.7, 95% CI 1.1–53.4) ร่วมกับพบว่าปริมาณที่รับประทานโตเกียวไส้ สังขยามีความสัมพันธ์กับโอกาสเกิดโรคที่มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติ ผลตรวจอุจจาระของผู้ป่วยพบเชื้อ Staphylococcus aureus ชนิดที่สร้าง Enterotoxin และพบเชื้อ Bacillus cereus จากการเพาะเชื้อแป้งโตเกียว เครื่องปั่นแป้ง และช่องแช่แข็ง
สรุปและวิจารณ์ผล: พบการระบาดของโรคอาหารเป็นพิษจากเชื้อ S. aureus ในอาหารจากร้านอาหาร ก. ปัจจัยเสี่ยงสำคัญ คือ การ เก็บอาหารปรุงสุกในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน และพบ การปนเปื้อนของเชื้อก่อโรคอาหารเป็นพิษในอาหารและภาชนะ เสี่ยงต่อการระบาดซ้ำ จึงให้สุขศึกษากับผู้ปรุงอาหารเน้นการ จัดเก็บอาหารที่เหมาะสม การล้างมือ การทำความสะอาดและ จัดเก็บภาชนะที่สัมผัสอาหารให้ถูกวิธีเพื่อป้องกันโรคในอนาคต

References

Johns Hopkins Medicine. Food poisoning [internet]. [cited 2020 Sep 4]. Available from: https://www.hopkinsmedicine.org/health/conditions-anddiseases/food-poisoning

กรมควบคุมโรค. รายงานการเฝ้าระวังโรคอาหารเป็นพิษ 506 [อินเทอร์เน็ต]. 2563 [เข้าถึงเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2563]. เข้าถึงได้จาก : http://www.boe.moph.go.th/boedb/surdata/disease.php?ds=03

ศูนย์ข้อมูลโรคติดเชื้อและพาหะนำโรค. โรคอาหารเป็นพิษ สาเหตุจากเชื้อ Staphylococcus aureus [อินเทอร์เน็ต]. [เข้าถึงเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2563]. เข้าถึงได้จาก : http://webdb.dmsc.moph.go.th/ifc_nih/a_nih_1_001c.asp?info_id=210

Centers for Disease Control and Prevention. Staphylococcal (Staph) food poisoning [internet]. [cited 2020 Sep 2]. Available from: https://www.cdc.gov/foodsafety/diseases/staphylococcal.html

Jean S, Yarbrough ML, Anderson NW, Burnham CAD. Culture of rectal swab specimens for enteric bacterial pathogens decreases time to test result while preserving assay sensitivity compared to bulk fecal specimens. J Clin Microbiol [internet]. 2019 [cited 2020 September 3];57(6). Available from: https://doi.org/10.1128/JCM.02077-18

Bassis CM, Moore NM, Lolans K, Seekatz AM, Weinstein RA, Young VB, et al. Comparison of stool versus rectal swab samples and storage conditions on bacterial community profiles. BMC Microbiol [internet]. 2017 Mar 31 [cited 2020 Sep 3];17(1):78. Available from: https://bmcmicrobiol.biomedcentral .com/articles/10.1186/s12866-017-0983-9

Infection Control Today. Environmental cleaning is imperative to infection prevention [internet]. 2009 [cited 2020 Sep 3]. Available from: https://www.infectioncontroltoday.com/view/environmentalcleaning-imperative-infection-prevention

Devriese La, Poutrel B, Kilpper-Balz R, Schleifer Kh. Staphylococcus gallinarum and Staphylococcus caprae, Two New Species from Animals. Int J Syst Bacteriol. 1983;33(3):480–6.

Ohara-Nemoto Y, Haraga H, Kimura S, Nemoto TK, Ohara-Nemoto CY. Occurrence of staphylococci in the oral cavities of healthy adults and nasal-oral trafficking of the bacteria. Available from: http://jmm.sgmjournals.org

Widerström M, Wiström J, Sjöstedt A, Monsen T. Coagulase-negative staphylococci: Update on the molecular epidemiology and clinical presentation, with a focus on Staphylococcus epidermidis and Staphylococcus saprophyticus. Eur J Clin Microbiol Infect Dis. 2012;31(1):7–20.

Raz R, Colodner R, Kunin CM. Who are you - Staphylococcus saprophyticus? Clin Infect Dis. 2005; 40(6):896–8. 12. Homthong S. The prevalence of Staphylococcus aureus and Bacillus cereus in sushi. 2011;16:69–76.

Tallent SM. Bacillus cereus [internet]. 2020 [cited 2020 Dec 9]. Available from: https://www.fda.gov/food/laboratory-methods-food/bam-chapter-14-bacillus-cereus

LeChevallier MW, Seidler RJ. Staphlococcus aureus in rural drinking water. Appl Environ Microbiol. 1980; 39(4):739–42.

Bharadwaj ND. Detection of Escherichia coli, Staphylococcus aureus and Salmonella Typhi in Drinking Water of Government Institutions. Int J Eng Sci Res Technol. 2016;5(7):769–74.

Centers for Disease Control and Prevention. Hygiene fast facts [internet]. 2016 [cited 2020 Sep 4]. Available from: https://www.cdc.gov/healthywater/hygiene/fast_facts.html

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2021-05-28

How to Cite

เดชบุรัมย์ พ., ไชยเหล็ก ช., จันทูตานนท์ ส., ณ นคร ภ., ปะดุกา น., มานะกล้า ย., & แสงสว่าง ช. (2021). การสอบสวนโรคอาหารเป็นพิษจาก Staphylococcus aureus อำเภอเมือง จังหวัดสตลู วันที่ 11–12 มิถุนายน 2563. รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์, 52(20), 285–294. สืบค้น จาก https://he05.tci-thaijo.org/index.php/WESR/article/view/1736

ฉบับ

บท

บทความต้นฉบับ

Similar Articles

You may also start an advanced similarity search for this article.