ลักษณะการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการใช้รถจักรยานยนต์ในเด็กและเยาวชนไทย ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน-31 กรกฎาคม 2557

ผู้แต่ง

  • กาญจนีย์ ดำนาคแก้ว สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
  • พิมพ์ภา เตชะกมลสุข สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
  • อนงค์ แสงจันทร์ทิพย์ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

คำสำคัญ:

ระบบเฝ้าระวังการบาดเจ็บ, บาดเจ็บที่ศีรษะ, รถจักรยานยนต์

บทคัดย่อ

ความเป็นมา: การบาดเจ็บและเสียชีวิตจากรถจักรยานยนต์ เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ จากรายงานเฝ้าระวังการบาดเจ็บของสำนักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข ปี พ.ศ. 2556 พบเกิดอุบัติเหตุจราจรร้อยละ 46.52 ของการบาดเจ็บทั้งหมด ในจำนวนนี้เด็กและเยาวชนไทยบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจรร้อยละ 51.22 โดยเกิดจากรถจักรยานยนต์บาดเจ็บร้อยละ 86.62 และเสียชีวิตร้อยละ 74.31 วัตถุประสงค์การศึกษาเพื่อทราบปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดอุบัติเหตุและลักษณะการบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากการใช้รถจักรยานยนต์ในเด็กและเยาวชนไทย และเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะในการวางแผนควบคุมป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้รถจักรยานยนต์ในเด็กและเยาวชนไทย
วิธีการศึกษา: เป็นการศึกษาเชิงพรรณนา ในกลุ่มผู้บาดเจ็บจากการใช้รถจักรยานยนต์ อายุตั้งแต่แรกเกิดถึงยี่สิบห้าปีบริบูรณ์ที่เข้ารับการรักษาที่ห้องอุบัติเหตุและฉุกเฉินภายใน 7 วันหลังการเกิดอุบัติเหตุในโรงพยาบาลเครือข่ายเฝ้าระวังการบาดเจ็บ 9 แห่ง กระจายทุกภาค ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน-31 กรกฎาคม 2557 โดยการ สัมภาษณ์วิเคราะห์ข้อมูลโดยโปรแกรม Epi info version 3.2
ผลการศึกษา: มีผู้บาดเจ็บรวม 3,208 ราย เสียชีวิต 33 ราย อัตราป่วยตาย รัอยละ 1.03 เป็นผู้ขับขี่ 2,348 ราย ร้อยละ 73.19 เสียชีวิต 27 ราย อัตราป่วยตายร้อยละ 1.15 ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่อายุ 15-25 ปี ร้อยละ 87.95 อายุน้อยที่สุด 9 ปี ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ร้อยละ 59.65 รถจักรยานยนต์ที่ใช้ได้มาจากพ่อแม่หรือญาติซื้อให้ ร้อยละ 50.64 ส่วนใหญ่มีเครื่องยนต์ขนาดกลาง (100-150 ซีซี) ร้อยละ 94.54 พบมีการขับขี่รถที่มีการต่อเติมและดัดแปลงรถ ตั้งแต่อายุ 11 ปี บริเวณที่เกิดอุบัติเหตุเป็นถนน 2 ช่องจราจร ร้อยละ 74.42 การเกิดอุบัติเหตุมีคู่กรณี ร้อยละ 50.55 ที่อายุผู้ขับขี่ 16 ปีสูงสุด ผู้ขับขี่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 16.57 และอายุน้อยที่สุด 13 ปี ผู้ขับขี่ไม่สวม หมวกนิรภัยบาดเจ็บที่ศีรษะร้อยละ 75.35 ผู้โดยสารไม่สวมฯ สูงสุด ร้อยละ 84.34 บาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง Glasgow Coma Score <=8 ร้อยละ 12.05 ผู้ขับขี่สวมหมวกนิรภัยบาดเจ็บที่ศีรษะ ร้อยละ 15.66 บาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง Glasgow Coma Score <=8 ร้อยละ 2.27 ควรนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ในการเสนอแนะวางแผนการป้องกันและควบคุมการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้รถจักรยานยนต์ในเด็กและเยาวชน

References

กรมการขนส่งทางบก. จำนวนรถจดทะเบียนสะสม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 (อินเตอร์เน็ต). 2557 [สืบค้นวันที่ 4 มีนาคม 2558]. เข้าถึงได้จาก http://apps.dlt.go.th/statistics_web /brochure/cumcar13.pdf

มูลนิธิไทยโรดส์. รถจักรยานยนต์คือมัจจุราชบนท้องถนน (อินเตอร์เน็ต). 2557 [สืบค้นวันที่ 4 มีนาคม 2558]. เข้าถึงได้ จาก http://trso.thairoads.org/resources/5022

กรมการขนส่งทางบก. จำนวนรถจดทะเบียนสะสม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 (อินเตอร์เน็ต). 2558 [สืบค้นวันที่ 4 มีนาคม 2558]. เข้าถึงได้จาก http://apps.dlt.go.th/statistics_web/vehicle.html

อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์. เด็กกับอุบัติเหตุจราจรปัญหาใหญ่ของเด็กไทย (อินเตอร์เน็ต). 2547 [สืบค้นวันที่ 4 มีนาคม 2558]. เข้าถึงได้จาก http://www.doctor.or.th/article/detail/3037

Rutter Dr, Quine L. Age And Experience In Motorcycling Safety. Accid Anal and Prev 1996; 28: 15-21.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2024-05-24

How to Cite

ดำนาคแก้ว ก., เตชะกมลสุข พ., & แสงจันทร์ทิพย์ อ. (2024). ลักษณะการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการใช้รถจักรยานยนต์ในเด็กและเยาวชนไทย ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน-31 กรกฎาคม 2557. รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์, 47(14), 209–216. สืบค้น จาก https://he05.tci-thaijo.org/index.php/WESR/article/view/2004

ฉบับ

บท

บทความต้นฉบับ

Similar Articles

You may also start an advanced similarity search for this article.