การประเมินขั้นตอนในการดูแลผู้ป่วยวัณโรค โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ พ.ศ. 2541

ผู้แต่ง

  • เมตตา ชยาตุลชาต กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
  • ยุพเรศ พญาพรหม กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
  • กนกพรรณ พันธุ์เจริญ กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
  • วัฒน์ อุทัยวรวิทย์ กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
  • Hideki Yanai Research Institute of Tuberculosis ( RIT )
  • ครรชิต ลิมปกาญจนารัตน์ ศูนย์ความร่วมมือการวิจัยโรคเอดส์

บทคัดย่อ

ปัจจุบันอัตราป่วยด้วยวัณโรคมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างน่าวิตก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคเอดส์ ทำให้โรงพยาบาลต่างๆ มีโอกาสรับผู้ป่วยเหล่านี้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาการระบาดของเชื้อวัณโรคในโรงพยาบาลได้ การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระยะเวลาในการวินิจฉัย และเริ่มการรักษาวัณโรคปอดในผู้ป่วย ที่มีผลการตรวจเสมหะให้ผลบวก ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ระหว่างวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2541 ถึงวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2542 โดยการวิเคราะห์สมุดทะเบียนผลการตรวจเสมหะ และเวชระเบียนผู้ป่วยย้อนหลัง 16 เดือน จากนั้น นำข้อมูลมาวิเคราะห์ด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป Epi Info โดยการแจกแจงค่าความถี่และร้อยละ ผลการศึกษา พบผู้ป่วยวัณโรคที่มีผลการตรวจเสมหะให้ผลบวกจำนวน 200 ราย จากจำนวนผู้ป่วยวัณโรค 850 รายคิดเป็นร้อยละ 23.53 ของผู้ป่วยวัณโรคทั้งหมด ในผู้ป่วย ที่มีผลการตรวจเสมหะให้ผลบวก พบว่า ระยะเวลาที่ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาจนถึงวันที่แพทย์เริ่มให้การรักษาวัณโรค ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 3.79 วัน ซึ่งเมื่อพิจารณาในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการในการตรวจวินิจฉัย และให้การรักษาวัณโรคใช้ระยะเวลาต่างๆ กัน ได้แก่ ระยะเวลาที่ผู้ป่วยเข้ารับการรักษา ถึงวันที่แพทย์สั่งการตรวจเสมหะ ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 1.27 วัน ระยะเวลาที่แพทย์สั่งการตรวจเสมหะ จนถึงวันที่ทราบว่าผลการตรวจเสมหะเป็นบวก ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 1.62 วัน ระยะเวลาจากวันที่ทราบผลการตรวจเสมหะเป็นบวกครั้งแรก จนถึงวันที่แพทย์เริ่มให้การรักษาวัณโรค ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 0.90 วัน
ผลการศึกษาครั้งนี้ ชี้ให้เห็นความจำเป็นอย่างเร่งด่วน ในการกำหนดมาตรการเกี่ยวกับการบริหารจัดการผู้ป่วยวัณโรคในโรงพยาบาลให้มีประสิทธิภาพ และบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง ควรให้ความสำคัญและปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดขึ้น ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาในการวินิจฉัย และเริ่มให้การรักษาผู้ป่วยวัณโรคโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันมิให้ผู้ป่วยอื่นและบุคลากรในโรงพยาบาลได้รับเชื้อวัณโรค และติดเชื้อวัณโรคในที่สุด

References

WHO. "The global tuberculosis situation." WHO /TUB 1993 ; 93:1-21.

Pugliese, G. "Screening for tuberculosis infection: an update." AJIC 1992; 20:37-40.

. Harries, AD. "Tuberculosis and human immunodeficiency virus infection in developing countries." Lancet 1990; 335 : 387-390.

Akarasewi P, Rawangpan N, Prapanwong A, Natpratan C, and Sriyabhaya N. Rising "trends of registered TB cases in high prevalence area of HIV infection in North Thailand". เอกสารประกอบการประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์สุขภาพประจำปี ครั้งที่ 12 สถาบันวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2537:15.

ครรชิต ลิมปกาญจนารัตน์ มยุรี วรรณไกรโรจน์ พรนภา ศุกรเวทย์ศิริ สมบัติ แทนประเสริฐสุข. "การระบาดของเชื้อโรคเอดส์ในจังหวัดเชียงราย พ.ศ. 2533." วารสารโรคเอดส์, 1991; 3(2):61-71.

Yanai H, Uthaivoravit W, Mastro TD, Limpakarnjanarat K, Sawanpanyalert P, Morrow Jr. RH, Nieburg P. "Utility of tuberculin and anergy skin testing in predicting tuberculosis infection in human immunodeficiency virus-infected person in Thailand." Int J Tuberc Lung Dis, 1997; 1(5):427-434.

WHO. "Registering Cases: Manageing Tuberculosis at district level", A Training Course, 1994:14.

WHO. "B a Global Emergency: WHO Report on the TB Epidemic." WHO/TB 1994; 177.

Shennan DH. "The Ciskei tuberculosis information system." Central African Journal of Medicine 1993; 39:159-165.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2025-02-17

How to Cite

ชยาตุลชาต เ., พญาพรหม ย., พันธุ์เจริญ ก., อุทัยวรวิทย์ ว., Yanai, H., & ลิมปกาญจนารัตน์ ค. (2025). การประเมินขั้นตอนในการดูแลผู้ป่วยวัณโรค โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ พ.ศ. 2541. รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์, 31(2), 33–40. สืบค้น จาก https://he05.tci-thaijo.org/index.php/WESR/article/view/4301