The Preventive Behavior Development and Behavioral Surveillance in Diarrhoeal Disease of Children under 5 years Among Mother's and Care Giver's Nakhonratchasima Province
Abstract
โรคอุจจาระร่วงยังเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทย จำนวนผู้ป่วยอุจจาระร่วงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบท โรคอุจจาระร่วงเป็นสาเหตุสำคัญของการป่วยและตายในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และมีผลกระทบต่อการพัฒนาทางสมอง อันเป็นสาเหตุทำให้เด็กรู้ช้ากว่าเด็กปกติทั่วไป สาเหตุของโรคอุจจาระร่วงในเด็ก ส่วนหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมของมารดาและผู้เลี้ยงดูเด็ก สืบเนื่องมาจากขาดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันโรคอุจจาระร่วงในเด็ก ผู้วิจัยจึงมีความสนใจศึกษาการส่งเสริมพฤติกรรมการ ป้องกันโรคอุจจาระร่วงในเด็กของมารดาและผู้เลี้ยงดูเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี จังหวัดนครราชสีมา การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง ผู้วิจัยได้ประยุกต์แนวคิดทฤษฎีแรงจูงใจป้องกันโรค รวมทั้งการใช้เทคนิคการสนทนากลุ่ม และแนวคิดการสนับสนุนทางสังคม มาเป็นแนวทางการจัดโปรแกรมการเฝ้าระวังและพัฒนาพฤติกรรมการป้องกันโรคอุจจาระร่วงในเด็ก ซึ่งกลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาเลือกตามเกณฑ์ที่กำหนด ได้แก่ มารดาและผู้เลี้ยงดูเด็ก อายุแรกเกิดถึง 5 ปี อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 120 คน เป็นกลุ่มทดลอง จำนวน 60 คน กลุ่มเปรียบเทียบ จำนวน 60 คน ได้จัดกิจกรรมตามโปรแกรมที่กำหนดเป็นเวลา 7 เดือน (28 สัปดาห์) รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสัมภาษณ์ 2 ครั้ง คือ ก่อนและหลังการทดลองแล้วนำมาวิเคราะห์ด้วยค่าสถิติ, ร้อยละ, ค่าเฉลี่ย, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน, Student's t-test, Paired Sample t-test, Pearson's Product Moment Correlatio ผลการวิจัย พบว่า โปรแกรมการเฝ้าระวังและพัฒนาพฤติกรรมการป้องกันโรคอุจจาระร่วงในเด็กอายุแรกเกิดถึง 5 ปี สามารถทำให้มารดาและผู้เลี้ยงดูเด็กเกิดการเปลี่ยนแปลงการรับรู้ความรุนแรงของโรคอุจจาระร่วงในเด็ก และการรับรู้โอกาสเสี่ยงต่อโรคอุจจาระร่วงในเด็ก ความคาดหวังในความสามารถของตนเอง ความคาดหวังในประสิทธิผลของการป้องกันอันตรายจากโรคอุจจาระร่วง และมีพฤติกรรมการป้องกันโรคอุจจาระร่วงในเด็กถูกต้องมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนปัจจัยด้านสังคม-ประชากรไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการ ป้องกันโรคอุจจาระร่วงในเด็ก จากการวิจัยแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การนำแนวคิดทฤษฎีแรงจูงใจ ป้องกันโรคร่วมกับการพัฒนากระบวนการสนับสนุนทางสังคม และการใช้เทคนิคการสนทนากลุ่มมากำหนดกิจกรรม มีผลทำให้มารดาและผู้เลี้ยงดูเด็กอายุแรกเกิดถึง 5 ปี มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้านการรับรู้ ความคาดหวังและพฤติกรรมการป้องกันโรคอุจจาระร่วงในเด็กดีขึ้น น่าจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในกระบวนการเฝ้าระวังและพัฒนาพฤติกรรมการป้องกันโรคอุจจาระร่วงในเด็กของกลุ่มมารดาและผู้เลี้ยงดูเด็กพื้นที่อื่น ๆ ได้ต่อไป
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
Copyright (c) 1997 Weekly Epidemiological Surveillance Report

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
Responsibility and Copyright
1. Author Responsibility and Editorial Disagreement
The content and data in all articles published in WESR are the direct opinions and responsibility of the article authors, and the Journal's Editorial Board is not necessarily in agreement with, or jointly responsible for, them.
2. Copyright and Referencing
All articles, data, content, figures, etc., published in WESR are considered the copyright of the academic journal. If any individual or entity wishes to disseminate all or any part of the published material, appropriate citation of the article is required.

