รายงานสอบสวนการระบาดโรคผิวหนังติดเชื้อ (Bullous impetigo) จากเชื้อ Staphylococcus aureus ในหอทารกแรกเกิด โรงพยาบาลชุมชนแห่งหนึ่ง จังหวัดน่าน มกราคม 2551
บทคัดย่อ
เมื่อมกราคม 2551 ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยโรคผิวหนังติดเชื้อเพิ่มจำนวนมากขึ้นผิดปกติ ในหอทารกแรกเกิด โรงพยาบาลชุมชนแห่งหนึ่ง สำนักระบาดวิทยาร่วมกับทีมควบคุมโรคติดเชื้อในโรงพยาบาล ดำเนินการสอบสวนโรคเพื่อยืนยันการระบาด หาสาเหตุโรค และดำเนินการควบคุมโรค
ทำการทบทวนเวชระเบียนและโทรศัพท์ให้ผู้ปกครองนำทารก ที่คลอดระหว่างวันที่ 1 - 25 ม.ค. 51 มาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติม นิยามผู้ป่วยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.ผู้ป่วยที่เข้าข่าย (Probable case) คือ ทารก (อายุ 30 วัน) ที่มีอาการผิดปกติทาง ผิวหนังได้แก่ ตุ่มพอง หรือตุ่มหนอง หรือผิวหนังลอก บริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย 2.ผู้ป่วยยืนยัน (Confirm case) คือ ทารกในข้อ 1 ที่เพาะแยกเชื้อ S.aureus ได้จากรอยโรคที่ผิวหนัง ทําการสัมภาษณ์ผู้ปกครอง และเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม ทบทวนบันทึกการคลอด และตารางปฏิบัติงานของบุคลากร ศึกษาระบาดวิทยาเชิงวิเคราะห์โดยวิธี Retrospective cohort study เก็บตัวอย่างจากผู้ป่วย บุคลากร และสิ่งแวดล้อม ส่งเพาะเชื้อแบคทีเรีย และ Phage typing สํารวจสิ่งแวดล้อม และสังเกตการปฏิบัติงานของบุคคลากร
พบการระบาดของโรคผิวหนังติดเชื้อชนิด Bullous impetigo จากเชื้อ Staphylococcus aureus (MSSA) ในโรงพยาบาลแห่งนี้ มีทารกมาตรวจติดตาม 60 ราย (84.5%) จากจำนวนทารกทั้งสิ้น 71 ราย พบผู้ป่วยรวม 30 ราย คิดเป็นอัตราป่วยร้อยละ 45.4 โดยจำแนกเป็นผู้ป่วยที่เข้าข่าย 14 ราย และผู้ป่วยยืนยัน 16 ราย อาการทางคลินิกประกอบ ด้วยตุ่มพอง ตุ่มหนอง และผิวลอก ร้อยละ 93, 16 และ 3 ตามลำดับ พบรอยโรคมากที่สุดบริเวณซอกคอ (47%) รองลงมาคือบริเวณลำตัว (36%) รักแร้ (30%) และขาหนีบ (23%) ตามลำดับ Median age of onset เท่ากับ 4 วัน เชื้อที่แยกได้จากผู้ป่วย บุคลากรที่เป็นพาหะ และอุปกรณ์ดูแลทารกที่มีการปนเปื้อนเป็นเชื้อ S. aureus (MSSA) ที่มี ลักษณะ Phage typing เหมือนกัน (mixed group : 29, 55, 80, 94) จากการวิเคราะห์ Multiple logistic regression แสดงความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญของการสัมผัสกับพาหะ (ผู้ช่วยพยาบาล A4) และการอยู่ห้องร่วมกับผู้ป่วย โดยมีค่า Odd ratio และ 95% Confidence interval เท่ากับ 78.3 (5.1 - 1213.5) และ 34.8 (2.2 - 557.6) ตามลำดับ สำหรับอุปกรณ์ที่มีการปนเปื้อนนั้นไม่มีความสัมพันธ์ทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญกับการป่วย
การระบาดของโรคผิวหนังติดเชื้อจากเชื้อ S.aureus (MSSA) ในหอทารกแรกเกิดในโรงพยาบาลแห่งนี้มีแหล่งโรคมาจากบุคลากรที่เป็นพาหะ ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคที่สำคัญ ได้แก่ การใช้ห้องร่วมกับผู้ป่วย และการสัมผัสกับบุคลากรที่เป็นพาหะ ทั้งนี้ การระบาดของโรคสงบลงโดยมาตรการการแยกผู้ป่วยรักษา บุคลากรที่เป็นพาหะของโรค กำจัดเชื้อในสิ่งแวดล้อม และเข้มงวดมาตรการควบคุมโรคติดเชื้อในโรงพยาบาล
เอกสารอ้างอิง
C.H.L. Howells and H Everley Jones. Two outbreaks of neonatal skin sepsis caused by Staphylococcus aureus, phage type 71. Archives of childhood 1988. 63; 1506.
Regine M. Fortunov, Kristina G. Hulten, and Mason. CommunityAcquired Staphylococcus aureus Infections in Term and Near-Term Previously Healthy Neonates. Pediatrics 2006; 118 ; 874-881.
R. E. 0. Williams. Healthy carriage of Staphylococcus aureus. Bacteriology 1963. 27; 56-71.
David L. Heymann, Control of communicable disease manual, Washington, Baltimore, Md; 2004.
Elizabeth A. Bolyard, RN, MPH,Ofelia C. et al., Guideline for infection control in health care personnel, 1998. CDC Personnel Health Guideline 26, 3; 289-353.
U.S. Department of Health and Human Services Centers for Disease Control and Prevention (CDC), Recommendations of CDC and the Healthcare Infection Control Practices Advisory Committee (HICPAC). Atlanta 2003. Available from URL: http://www.cdc.gov/ncidod/hip/enviro/guide.htm
Gili Regev-Yochay, Ethan Rubinstein, Asher Barzilai, et al., Methicillin-resistant Staphylococcus aureus in Neonatal Intensive Care Unit. Emerging Infectious Diseases 2005. 11, 3; 453-456.
Miyo Takano, Hirofumi Miyazava et al., An outbreak of neonatal toxic shock syndrome-like erythematous disease caused by Methiclilline resistant Staphylococcus aureus in a neonatal intensive care unit. Journal of Microbiology, Immunology and Infection 2002. 46, 4; 277-284.
Jan Kluytmans, Alex Van Belkum and Henri Verbrugh, Nasal Carriage of Staphylococcus aureus: Epidemiology, Underlying Mechanisms, and Associated Risks. Clinical microbiology reviews 1997. 10, 3;505-520.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2008 รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ความรับผิดชอบและลิขสิทธิ์
1. ความรับผิดชอบของผู้เขียนและความเห็นของกองบรรณาธิการ (Author Responsibility and Editorial Disagreement)
เนื้อหาและข้อมูลทั้งหมดในบทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร WESR ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบโดยตรงของผู้นิพนธ์บทความ และกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ ในเนื้อหาดังกล่าว
2. ลิขสิทธิ์และการอ้างอิง (Copyright and Referencing)
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ และอื่น ๆ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร WESR ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดประสงค์จะนำเนื้อหาทั้งหมดหรือส่วนใดส่วนหนึ่งไปเผยแพร่ จะต้องอ้างอิงบทความนั้น ๆ อย่างถูกต้อง

