การระบาดของโรคลีเจียนแนร์ในนักท่องเที่ยวชาวยุโรป ภายหลังจากการเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ธันวาคม 2549 - มกราคม 2550 : บทบาทของการสอบสวนสิ่งแวดล้อมในประเทศที่เกิดเหตุ

ผู้แต่ง

  • โรม บัวทอง สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
  • รุ่งนภา ประสานทอง สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
  • วิวัตน์ ศีตมโนชน์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กระทรวงสาธารณสุข
  • ทวีศักดิ์ เนตรวงศ์ โรงพยาบาลป่าตอง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กระทรวงสาธารณสุข
  • ธาริยา เสาวรัญ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ภูเก็ต กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
  • ขจรเดช จันทะยานี สำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
  • นงนุช มารินทร์ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
  • ดิเรก สุดแดน สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
  • ธราวิทย์ อุปพงษ์ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
  • โสภณ เอี่ยมสิริถาวร สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
  • วรรณา หาญเชาวรกุล สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
  • คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

คำสำคัญ:

โรคลีเจียนแนร์จากการท่องเที่ยว, ปัจจัยเสี่ยง, ชาวยุโรป, ประเทศไทย

บทคัดย่อ

เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2550 สำนักระบาดวิทยาได้รับโทรสารจากสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทยว่า มีนักท่องเที่ยว 4 รายป่วยด้วยโรค ลีเจียนแนร์ภายหลังจากมาเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2549 เป็นต้นมา โดยเบื้องต้นผู้ป่วยทั้งหมด พักอยู่ในโรงแรมเดียวกันใน จังหวัดภูเก็ต ดังนั้นสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ร่วมกับสำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตลง สอบสวนโรคทันที ในวันที่ 11 มกราคม 2550 วัตถุประสงค์เพื่อทราบขนาดแหล่งของเชื้อโรค และปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรค ณ โรงแรมดังกล่าว ทำการศึกษาโดยค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติมโดยใช้นิยามตาม EWGLI โดยค้นหาผู้ป่วยในโรงพยาบาลรัฐและเอกชนทุกแห่งในจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งคันหาผู้ป่วยของผู้เข้าพักในโรงแรมดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2549 - 11 มกราคม 2550 โดยส่งโทรสารรายละเอียดของผู้เข้าพักไปยังประเทศต่าง ๆ เพื่อสอบถามอาการป่วยภายหลังจากพักโรงแรมดังกล่าว นอกจากนั้นยังสอบสวนสิ่งแวดล้อมในโรงแรม โดยเก็บตัวอย่างน้ำส่งตรวจเพื่อเพาะเชื้อ Legionella spp. ได้แก่ น้ำในหอผึ่งเย็น น้ำในห้องพัก เป็นต้น ศึกษาระบาดวิทยาเชิงวิเคราะห์ (Cross-sectional Study) เพื่อระบุปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้อ Legionella spp. ในพนักงานของโรงแรม (Prevalence Ratio: PR, 95% Confidence Interval) โดยการเจาะเลือดในพนักงานของโรงแรมดังกล่าว ส่งตรวจภูมิคุ้มกันต่อ Legionella pneumophia โดยวิธี FA ณ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสัมภาษณ์พนักงานโรงแรมโดยแบบสอบถามที่สร้างขึ้น ผลการศึกษา จากการค้นหาผู้ป่วยที่ป่วยด้วยโรคลีเจียนแนร์ ที่พักโรงแรม ดังกล่าว พบผู้ป่วยยืนยัน 5 ราย และผู้ป่วยที่เข้าข่าย 1 ราย ทั้งหมดเป็นชาวแสกนดิเนเวีย เชื้อที่เป็นสาเหตุ คือ L. pneumophila serogroup 1 และผลการสอบถามนักท่องเที่ยวที่พักโรงแรมดังกล่าว จำนวน 645 ราย โดยหนึ่งในสามเป็นชาวยุโรป โดยไม่พบผู้ป่วยเพิ่มเติมในนักท่องเที่ยว ดังกล่าว โรงแรมดังกล่าวได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์สีนามิในปลายปี พ.ศ. 2547 โดยต้องปิดกิจการชั่วคราวเป็นเวลาหกเดือน โรงแรมมี 307 ห้อง โดยในช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมากทางโรงแรมต้องซื้อน้ำจากขุมเหมืองมาใช้โดยไม่ผ่านการกรองและเดิมคลอรีน ไม่พบคลอรีนตกค้างในน้ำเย็นที่ ใช้ในโรงแรม และระดับความร้อนในน้ำร้อนน้อยกว่า 45 องศา ผลการเพาะเชื้อในแหล่งน้ำต่าง ๆ ในโรงแรมพบเชื้อ Legionella spp. ซึ่งได้แก่ น้ำจากฝักบัว น้ำจากอ่างล้างหน้า โดยไม่พบในหอผึ่งเย็น ผลแยกเชื้อพบ L. bozemani จำนวน 5 ตัวอย่าง และ L. pneumophila serogroup 1 จำนวน 2 ตัวอย่าง ผลการตรวจหาภูมิคุ้มกันในพนักงานโรงแรมดังกล่าวจำนวน 118 ราย พบหลักฐานการติดเชื้อ ร้อยละ 66.1 และผลการวิเคราะห์ หาปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้อในโรงแรมดังกล่าว พบว่า การอาบน้ำด้วยฝักบัว (PR = 1.3 95% CI = 1.0-1.7) และอายุมากกว่า 45 ปี (PR = 1.4; 95% CI = 1.0-1.7) เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสรุปและวิจารณ์ การใช้น้ำที่ไม่ได้มาตรฐานมาใช้โดยไม่ผ่านการกรองและเติมคลอรีน เป็นปัจจัยของการระบาด วิธีการแพร่เชื้อน่าจะเกิดจากกรติดต่อโดยตรงโดยผ่านละอองฝอยในขณะอาบน้ำด้วยฝักบัว เนื่องจากพบผู้ป่วยจำนวนน้อย หากเกิดจากละอองฝอยในหอผึ่งเย็นควรจะพบผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก โรงแรมได้ทำการล้างและทำความสะอาดในระบบน้ำของโรงแรมเพิ่มเครื่องเติม คลอรีนในถังกักเก็บน้ำ เพิ่มระดับอุณหภูมิน้ำร้อนโดยให้ระดับน้ำร้อนมากกว่า 50 องศาเซลเชียส ผลการตรวจหาเชื้อภายหลังจากการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อไม่พบเชื้อ Legionella spp.กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้จังหวัดนักท่องเที่ยว 30 จังหวัดให้ดำเนินการเฝ้าระวังโรคและดำเนินการป้องกันการปนเปื้อนเชื้อ Legionella spp. ในโรงแรม

เอกสารอ้างอิง

Kasper DL, Braunwald E, Fauci A, Hauser S, Longo D, Jameson JL. Harrison's Principles of Internal Medicine, 16th ed. New York: McGraw-Hill Medical Publishing Division, 2005.

กองระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข. สรุปรายงานการเฝ้า ระวังประจำปี พ.ศ. 2545 - 2549. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ สงเคราะห์ทหารผ่านศึก; 2543 - 2549.

European Working Group for Legionella Infection (EWGLI) The European Guidelines for Control and Prevention of Travel Associated Legionnaires' Disease January 2005. [cited 2007 March 30]. Available from: http://www.ewgli.org/data/european _guidelines.htm.

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. สถิตินักท่องเที่ยว. เข้าถึงได้ จาก http://www2.tat.or.th/stat.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-07-07

รูปแบบการอ้างอิง

บัวทอง โ., ประสานทอง ร., ศีตมโนชน์ ว., เนตรวงศ์ ท., เสาวรัญ ธ., จันทะยานี ข., มารินทร์ น., สุดแดน ด., อุปพงษ์ ธ., เอี่ยมสิริถาวร โ., หาญเชาวรกุล ว., & อึ้งชูศักดิ์ ค. (2024). การระบาดของโรคลีเจียนแนร์ในนักท่องเที่ยวชาวยุโรป ภายหลังจากการเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ธันวาคม 2549 - มกราคม 2550 : บทบาทของการสอบสวนสิ่งแวดล้อมในประเทศที่เกิดเหตุ. รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์, 44(S1), S38-S46. สืบค้น จาก https://he05.tci-thaijo.org/index.php/WESR/article/view/2966

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความต้นฉบับ