ผลของโปรแกรมการมีส่วนร่วมของครอบครัวในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ของกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง
คำสำคัญ:
การมีส่วนร่วมของครอบครัว, กลุ่มเสี่ยง, โรคความดันโลหิตสูง, พฤติกรรมสุขภาพบทคัดย่อ
บทนำ: โรคความดันโลหิตสูง เป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่สำคัญทั่วโลก การดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสมในกลุ่มเสี่ยงโดยการมีส่วนร่วมของครอบครัว สามารถช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันโรคความดันโลหิตสูงได้
วัตถุประสงค์การวิจัย: เพื่อศึกษาประสิทธิผลของโปรแกรมการมีส่วนร่วมของครอบครัวในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง
ระเบียบวิธีวิจัย: การวิจัยแบบกึ่งทดลอง แบบสองกลุ่มวัดก่อนและหลังการทดลอง กลุ่มตัวอย่างเป็นกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง จำนวน 74 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มเปรียบเทียบ กลุ่มละ 37 คน สุ่มตัวอย่างอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) โปรแกรมการมีส่วนร่วมของครอบครัวในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง 2) เครื่องวัดความดันโลหิต และ 3) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วยแบบทดสอบความรู้ และแบบสอบถามพฤติกรรมสุขภาพ มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.94 และ 0.86 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา และสถิติเชิงอนุมาน คือ Paired samples t-test และ Independent t-test
ผลการวิจัย: ภายหลังการทดลอง 1) กลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความรู้เกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูงและพฤติกรรมสุขภาพของกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง สูงกว่าก่อนการทดลอง (p-value<.001) และสูงกว่ากลุ่มเปรียบเทียบ (p-value<.01) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และ 2) กลุ่มทดลองมีค่าเฉลี่ยความดันโลหิต ต่ำกว่าก่อนการทดลอง (p-value<.001) และต่ำกว่ากลุ่มเปรียบเทียบ (p-value<.001) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
สรุปผล: โปรแกรมการมีส่วนร่วมของครอบครัวในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ทำให้กลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงมีความรู้เกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้น ช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ และลดระดับความดันโลหิตได้
ข้อเสนอแนะ: บุคลากรสาธารณสุขสามารถนำโปรแกรมการมีส่วนร่วมของครอบครัวในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง ไปประยุกต์ใช้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของกลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรังอื่น ๆ ได้
เอกสารอ้างอิง
กัลยา คงถาวร. (2562). ประสิทธิผลของโปรแกรมการเสริมสร้างพลังอำนาจเพื่อลดความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงในประชาชนกลุ่มเสี่ยง ตำบลหนองตาคง อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี. http://pongnamron.thaiddns.com:8001/doc/wichakan/Research/Research_2562HTPongnamron.pdf
กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2564). รายงานประจำปี 2564. https://thaincd.com/document/file/download/paper-manual/NCDAnnual_Report2564.pdf
กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2566). รายงานประจำปี 2566. https://www.ddc.moph.go.th/uploads/files/4155620240314033823.pdf
เกสราวรรณ ประดับพจน์ และศิริลักษณ์ แก่นอินทร์. (2564). ผลของโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ 3 self ต่อการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิต และเส้นรอบเอวของกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูงอำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 8(5), 148-161.
ประหยัด ช่อไม้ และอารยา ปรานประวิตร. (2558). ผลของโปรแกรมสร้างเสริมสุขภาพในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเขาดิน อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่. วารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์, 10(1), 1–10.
ภัคยานี ทนันชัย และอาทิตยา วังวนสินธ์. (2563). ผลของโปรแกรมการจัดการตนเองต่อพฤติกรรมสุขภาพและระดับความดันโลหิตของกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปากห้วยอ้อย จังหวัดแพร่. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์, 12(2), 101–114.
ระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข. (2567). ข้อมูลเพื่อตอบสนอง Service Plan สาขาโรคไม่ติดต่อ (NCD DM, HT, CVD): ร้อยละของประชากรอายุ 35 ปีขึ้นไปที่ได้รับการคัดกรองเพื่อวินิจฉัยความดันโลหิตสูง ปีงบประมาณ 2567. https://hdc.moph.go.th/center/public/standard-report-detail/9702fa28cd2ec73ecc6af89d14f46874
ระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง. (2567). ข้อมูลเพื่อตอบสนอง Service Plan สาขาโรคไม่ติดต่อ (NCD DM,HT,CVD): โรคความดันโลหิตสูง. https://hdc.moph.go.th/lpg/public/standard-subcatalog/b2b59e64c4e6c92d4b1ec16a599d882b
สำราญ กาศสุวรรณ. (2565). ผลของโปรแกรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพโดยใช้กระบวนการกลุ่มในกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงตำบลร้องเข็ม อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่. วารสารวิชาการโรงพยาบาลแพร่, 30(2), 27–42.
สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2560). แผนยุทธศาสตร์การป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อระดับชาติ 5 ปี (พ.ศ. 2560 - 2564). https://www.iccp-portal.org/sites/default/files/plans/Thailand%20National%20NCD%20plan%202017-2021.pdf
อังศินันท์ อินทรกำแหง. (2552). การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยง 3 Self ด้วยหลัก PROMISE. กรุงเทพมหานคร: สุขุมวิทการพิมพ์.
Bandura, A. (1986). Social foundations of thought and action: A social cognitive theory. Englewood Cliffs, NJ: Prentice-Hall.
Best, J. W. (1977). Research in education (3rd ed.). Prentice-Hall.
Bloom, B.S. (1964). Taxonomy of Education Objectives, Handbook 1: Cognitive Domain. New York : David Mekey.
Cohen, J. (1977). Statistical power analysis for the behavioral sciences (2nd ed.). Academic Press.
Ho, Y. L., Mahirah, D., Ho, C. Z., & Thumboo, J. (2022). The role of the family in health promotion: a scoping review of models and mechanisms. Health promotion international, 37(6), daac119. https://doi.org/10.1093/heapro/daac119
Kearney, P. M., Whelton, M., Reynolds, K., Muntner, P., Whelton, P. K., & He, J. (2005). Global burden of hypertension: analysis of worldwide data. The lancet, 365(9455), 217-223.
Mills, K. T., Bundy, J. D., Kelly, T. N., Reed, J., Kearney, P. M., Reynolds, K., ... & He, J. (2015). Global disparities of hypertension prevalence and control: a systematic analysis of population-based studies from 90 countries. Circulation, 132(suppl_3), A16828-A16828.
Sebern M. (2005). Shared Care, elder and family member skills used to manage burden. Journal of advanced nursing, 52(2), 170–179. https://doi.org/10.1111/j.1365-2648.2005.03580.x
Whelton, P. K., & Carey, R. M. (2018). The 2017 American College of Cardiology/American Heart Association clinical practice guideline for high blood pressure in adults. JAMA cardiology, 3(4), 352-353.
World Health Organization. (2023). Hypertension. https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/hypertension
