ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการบริหารความเสี่ยงทางคลินิกของพยาบาลวิชาชีพห้องผ่าตัด โรงพยาบาลศูนย์ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ผู้แต่ง

  • ภัทราพรรณ อาษานาม โรงพยาบาลอุดรธานี
  • สมปรารถนา ดาผา มหาวิทยาลัยขอนแก่น

คำสำคัญ:

การบริหารความเสี่ยงทางคลินิก, เจตคติต่อการบริหารความเสี่ยง, การบริหารแบบมีส่วนร่วม

บทคัดย่อ

            การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการบริหารความเสี่ยงทางคลินิกของพยาบาลวิชาชีพ ห้องผ่าตัด โรงพยาบาลศูนย์ ทั้ง 9 แห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มตัวอย่างคือ พยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานใน แผนกห้องผ่าตัด ตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป จำนวน 230 คน จากการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบ่งเป็น 4 ส่วน ประกอบด้วย 1) แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล 2) แบบสอบถามเจตคติต่อการบริหารความเสี่ยงทางคลินิก 3) แบบสอบถามการบริหารแบบมีส่วนร่วม และ 4) แบบสอบถามการบริหารความเสี่ยงทางคลินิก ตรวจสอบความ ตรงตามเนื้อหาโดยผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน และหาค่าความเที่ยงโดยวิธีสัมประสิทธิ์อัลฟาของครอนบาค ได้เท่ากับ 0.88, 0.95 และ 0.95 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ความถี่ และการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน

             ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับการบริหารความเสี่ยงทางคลินิกของพยาบาลวิชาชีพห้องผ่าตัด โรงพยาบาลศูนย์ ใน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ในระดับสูง (gif.latex?\bar{x} = 3.92, S.D. = 0.37) 2) การบริหารแบบมีส่วนร่วมและเจตคติ มีความ สัมพันธ์ทางบวกในระดับปานกลาง กับการบริหารความเสี่ยงทางคลินิกของพยาบาลวิชาชีพห้องผ่าตัด (r = 0.664 และ r = 0.580 ตามลำดับ) ส่วนประสบการณ์การทำงานในห้องผ่าตัด มีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับต่ำกับการ บริหารความเสี่ยงทางคลินิกของพยาบาลวิชาชีพห้องผ่าตัด 3) ตัวแปรที่ร่วมกันพยากรณ์การบริหารความเสี่ยงทาง คลินิกของพยาบาลวิชาชีพห้องผ่าตัด โรงพยาบาลศูนย์ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ 0.01 คือ การบริหารแบบมีส่วนร่วม เจตคติ และประสบการณ์การทำงานในห้องผ่าตัด โดยร่วมกันพยากรณ์ การบริหารความเสี่ยงทางคลินิกของพยาบาลวิชาชีพได้ร้อยละ 51

ประวัติผู้แต่ง

ภัทราพรรณ อาษานาม, โรงพยาบาลอุดรธานี

พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ห้องผ่าตัด โรงพยาบาลอุดรธานี

สมปรารถนา ดาผา, มหาวิทยาลัยขอนแก่น

อาจารย์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

เอกสารอ้างอิง

สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล. มาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ ฉบับเฉลิมพระเกียรติ ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี(ภาษาไทย) ปรับปรุง มกราคม 2558 [อินเทอร์เน็ต]. 2558 [เข้าถึงเมื่อ 21 เมษายน 2564]. เข้าถึงได้จาก: http://www.doitaohospital.com/blog_pharmacy/file/HA%20standard%2058.pdf

ราภรณ์ศรีรัตนา, เพชรสุนีย์ทั้งเจริญกุลและอภิรดีนันท์ศุภวัฒน์. การจัดการความปลอดภัยของผู้ป่วยตามการรับรู้ของบุคลากรทางการพยาบาล ในโรงพยาบาลค่ายสุรศักดิ์จังหวัดลำปาง. ว. พยาบาลสาร 2563;47(1):350–360.

นิตยา ดีอินทร์. ประสิทธิผลของระบบการบริหารความเสี่ยงทางการพยาบาลที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี. ว. เจริญกรุงประชารักษ์2560;14(2):11–24.

ศิริลักษณ์ ฤทธิ์ไธสง. การบริหารความเสี่ยงในโรงพยาบาล ในบริบทของพยาบาลวิชาชีพ. กฏหมายสุขภาพและสาธารณสุข 2560;3(1):77–87.

Wilson J, Tingle J. Clinical risk modification: a route to clinical governance. Oxford: Butterworth– Heinemann; 1999.

จิราวรรณ รุ่งเรืองวารินทร์, พรพิมล พละประเสริฐ และสมทรง บุตรชีวัน. การพัฒนาระบบการจัดการความเสี่ยงกลุ่มการพยาบาลพระนครศรีอยุธยา.ว. เวชศาสตร์ป้องกันแห่งประเทศไทย2560;25(7):1–10.

Joint Commission International. International patient safety goals [Internet]. 2015 [cited 2021 Oct 14]. Available from: http://www.jointcommissioninternational.org/improve/international–patient–Safety–goals

ศิริพร พุทธรังสีและสุนิสา สีผม. ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยคัดสรรกับสมรรถนะพยาบาลห้องผ่าตัดในประเทศไทย. JRTAN 2560;18(1):94–103.

ศยามล ภู่เขม่า และวรรณชนก จันทชุม. ความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมความปลอดภัยของผู้ป่วยกับคุณภาพบริการพยาบาลตามการรับรู้ของพยาบาลห้องผ่าตัด โรงพยาบาลศรีนครินทร์. ว. การพยาบาลและการดูแลสุขภาพ 2561;36(3):51–60.

Gibson JL, Ivancevich JM, Donnelly JH. Organizations: behavior, structure, processes. 10 th ed. Boston: Irwin/Mc Graw–Hill; 2000.

Swansburg RC, Swansburg RJ. Introduction to management and leadership for nurse managers. 3 rd ed. Sudbury: Jones & Bartlett; 2002.

Polit DF, Hungler BP. Nursing research: principal & method. 10 th ed. Philadelphia: Lippincott Williams & Wilkins; 2017.

Israel GD. Sampling the evidence of extension program impact [Program evaluation and organizational development; IFAS; PEOD–5]. Gainesville (FL): University of Florida Cooperative Extension Service, Institute of Food and Agriculture Sciences, EDIS; 1992.

วีณาจีระแพทย์และเกรียงศักดิ์จีระแพทย์.แนวคิด กระบวนการและแนวปฏิบัติความปลอดภัยทางคลินิก. กรุงเทพฯ: ด่านสุทธาการพิมพ์; 2555.

จีรวรรณ ศิริมนตรี และวรรณชนก จันทชุม. ความสัมพันธ์เชิงเหตุผลระหว่างการนิเทศทางคลินิก การบริหารความเสี่ยงทางคลินิก และผลลัพธ์ทางการพยาบาลตามการรับรู้ของพยาบาลวิชาชีพปฏิบัติงานในหอผู้ป่วยหนัก โรงพยาบาลระดับตติยภูมิในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. ว.โรงพยาบาลสกลนคร 2564;24(2):1–12.

รจนา เล้าบัณฑิต และปริญญาภรณ์ธนะบุญปวง. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการบริหารความเสี่ยงทางคลินิกของพยาบาลวิชาชีพ ในโรงพยาบาลสามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์. ว. วิจัยเพื่อการส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิต 2564;1(1):25–36.

พรพรรณ คล้ายสุบรรณ. ความสัมพันธ์ระหว่างเจตคติและทักษะในการสื่อสารกับพฤติกรรมการบริหารความเสี่ยงของพยาบาลห้องผ่าตัดในโรงพยาบาลระดับตติยภูมิสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เขต 4[วิทยานิพนธ์]. นครปฐม: มหาวิทยาลัยคริสเตียน; 2555.

Benner P. From Novice to expert: excellence and power in clinical nursing practice. Menlo Park (CA): Addison–Wesley; 1984.

สุมลรัตน์ พงษ์ขวัญ. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการบริหารความเสี่ยงของพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม. JHNR 2560;33(1):130–41.

เชาวรัตน์ศรีวสุธา.ปัจจัยที่มีผลต่อการบริหารความเสี่ยงด้านคลินิกของพยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี[วิทยานิพนธ์]. นครปฐม: มหาวิทยาลัยคริสเตียน; 2558.

นงเยาว์ คำปัญญา และจิตภินันท์ศรีจักรโคตร.ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการบริหารความเสี่ยงทางคลินิกของพยาบาลวิชาชีพงานห้องคลอดโรงพยาบาลชุมชนเขต 7 กระทรางสาธารณสุข.ว. การพยาบาลและการดูแลสุขภาพ 2562;37(3):154–163.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2024-06-25

รูปแบบการอ้างอิง

1.
อาษานาม ภ, ดาผา ส. ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการบริหารความเสี่ยงทางคลินิกของพยาบาลวิชาชีพห้องผ่าตัด โรงพยาบาลศูนย์ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. Med J Sakon Nakhon Hosp [อินเทอร์เน็ต]. 25 มิถุนายน 2024 [อ้างถึง 7 ธันวาคม 2025];25(3):133-42. available at: https://he05.tci-thaijo.org/index.php/JSakonNakHosp/article/view/2764

ฉบับ

ประเภทบทความ

นิพนธ์ต้นฉบับ