การสอบสวนการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรในจังหวัดนครราชสีมา ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556
คำสำคัญ:
การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจร, นครราชสีมา, ปีใหม่, การสอบสวนการเสียชีวิตบทคัดย่อ
ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรประมาณปีละ 13,000 ราย ในช่วงเทศกาลปีใหม่หรือ 7 วันอันตราย มีปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของช่วงเวลาปกติ จังหวัดนครราชสีมา เป็นจังหวัดใหญ่ที่มีประชากรมาก และเป็นทางผ่านไปสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่สำคัญ นอกจากนั้นยังเป็นจังหวัดที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่มากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ การศึกษานี้อธิบายระบบการรายงานผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ ลักษณะทางระบาดวิทยาและปัจจัยเสี่ยงของผู้เสียชีวิตจากอุบัติจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 ในจังหวัดนครราชสีมา ทำการศึกษาโดยทบทวนเอกสารและสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับระบบรายงานผู้บาดเจ็บฯ สอบสวนสาเหตุ ปัจจัยเสี่ยงลักษณะทางระบาดวิทยาของผู้เสียชีวิต โดยการสัมภาษณ์ ญาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจ พยาบาล หรือผู้เห็นเหตุการณ์ นิยามผู้เสียชีวิต คือ ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร ภายใน 30 วันหลังเกิดเหตุ โดยอุบัติเหตุเกิดระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม - 2 มกราคม 2556 ในจังหวัดนครราชสีมา ผลการศึกษา พบระบบรายงานผู้บาดเจ็บในช่วงเทศกาลปีใหม่ของจังหวัดนครราชสีมามี 2 ระบบ ได้แก่ ระบบของศูนย์อำนวยการความ ปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ซึ่งทั้งสองระบบมีนิยามการเฝ้าระวังที่แตกต่างกัน ระบบ สพฉ.สามารถรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตได้มากกว่า ศปถ. และมีค่าความครอบคลุมร้อยละ 53 ผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 30 รายส่วนใหญ่เป็น เพศชาย อายุ 15 - 44 ปี (60%) และเป็นคนในพื้นที่ (67%) ใช้ รถจักรยานยนต์ (70%) ดื่มสุรา (53%) และไม่สวมหมวกนิรภัย (81%) อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดบนถนนหลวง (60%) และถนนที่มี 2 เลน (47%) สาเหตุการเสียชีวิตที่สำคัญ คือ การบาดเจ็บรุนแรง ที่ศีรษะ ข้อสรุป การขาดการติดตามผลการรักษาภายหลังเกิดอุบัติเหตุ 30 วัน ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตที่ถูกรายงานน้อยกว่าความเป็นจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดนครราชสีมาควรเฝ้าระวังเรื่องการใช้ความเร็วบนถนนหลวงในช่วงต้นและท้ายของของเทศกาล ส่วนช่วงวันที่ 31 ธันวาคม - 1 มกราคม ควรเน้นเฝ้าระวังเรื่องเมาแล้วขับในถนนหมู่บ้าน
References
World Health Organization. WHO global status report on road safety 2013: supporting a decade of action: World Health Organization; 2013.
ฝ่ายเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กรม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย. แผนที่นำทางเชิงกลยุทธ์ ทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2554 - 2563. 2554 [สืบค้นวันที่ 20 มิถุนายน 2556]. เข้าถึงได้จาก http://122.155.1.145/upload/minisite/file_attach/18/55ee96dc1dcd2.pdf
สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง. รายงานสถิติจำนวน ประชากร และบ้าน รายจังหวัด รายอำเภอ และรายตำบล ณ เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2555. 2556 [สืบค้นวันที่ 20 มิถุนายน 2556]. เข้าถึงได้จาก http://stat.dopa.go.th/xstat/p5530_01.html
ณัฐกานต์ ไวยเนตร. แนวทางการสอบสวนสาเหตุการบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากการจราจรทางถนน: กลุ่มงานระบาดวิทยาโรคไม่ติดต่อ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค; 2549.
มูลนิธิไทยโรดส์และศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทยสถาบัน เทคโนโลยีแห่งเอเชีย. สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนของ ประเทศไทย พ.ศ. 2553: มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ. 93 หน้า.
Mungnimit S. Current situations of road safety in Thailand. Population 2006;20:25,549. 7. World Health Organization. Road traffic injuries [Internet]. 2013 [cited 2014 June 20]. Available from: http://www.who.int/mediacentre/factsheets/fs358/en/
WHO. Global Health Observatory (GHO): Distribution of road traffic deaths by type of road user, 2010.
Thai Road Foundation. Motorcycle Helmet Use in Thailand 2010 - 2012. 2013 [cited 2014 June 20]; Available from: http://trso.thairoads.org/system/files/helmetuse2010-2012_eng.pdf
Rumar K. The role of perceptual and cognitive filters in observed behavior. Human behavior and traffic safety: Springer; 1985. p. 151-70.
Radin Sohadi RU, Mackay M, Hills B. Multivariate analysis of motorcycle accidents and the effects of exclusive motorcycle lanes in Malaysia. Journal of Crush Prevention and Injury Control. 2000;2(1):11-7.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2015 รายงานการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาประจำสัปดาห์
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
1. เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงพิมพ์กับ WESR ถือเป็นข้อคิดเห็น และความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสารไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
2. บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ใน WESR ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารวิชาการ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่ง ส่วนใดไปเผยแพร่ กรุณาอ้างอิงบทความนั้น ๆ