การพัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อลดการบริโภคโซเดียม ในตำบลกะฮาด อำเภอเนินสง่า จังหวัดชัยภูมิ
คำสำคัญ:
การบริโภคโซเดียม, แรงสนับสนุนทางสังคม, แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ, การมีส่วนร่วมบทคัดย่อ
บทนำ: การบริโภคโซเดียมสูงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคเรื้อรังซึ่งการแก้ปัญหาควรเริ่มตั้งแต่ระดับบุคคล ครัวเรือน และชุมชน และต้องอาศัยความร่วมมือทุกภาคส่วน
วัตถุประสงค์การวิจัย: 1) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมลดการบริโภคโซเดียม และ 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อลดการบริโภคโซเดียม ในตำบลกะฮาด อำเภอเนินสง่า จังหวัดชัยภูมิ
ระเบียบวิธีวิจัย: การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ศึกษาระหว่างเดือนสิงหาคม 2566 ถึงธันวาคม 2567 มีขั้นตอนการวิจัย 2 ขั้นตอน คือขั้นตอนที่ 1 การศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมลดการบริโภคโซเดียม กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป จำนวน 208 คน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป แบบทดสอบความรู้ แบบสอบถามความเชื่อด้านสุขภาพ แบบสอบถามการสนับสนุนทางสังคม และแบบสอบถามพฤติกรรมลดการบริโภคโซเดียม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน และขั้นตอนที่ 2 การพัฒนารูปแบบการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อลดการบริโภคโซเดียม ใช้รูปแบบการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม 4 ขั้นตอน คือ (1) ขั้นการวางแผน เพื่อพัฒนารูปแบบโดยการประชุมระดมสมอง ผู้ให้ข้อมูลหลัก จำนวน 20 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เชิงประเด็น (2) ขั้นการปฏิบัติ (3) ขั้นการสังเกต และ (4) ขั้นการสะท้อนผลการปฏิบัติ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป จำนวน 60 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและสถิติอ้างอิง ได้แก่ Paired sample t-test, Independent t-test
ผลการวิจัย: พบว่า 1) การรับรู้ความรุนแรงของโรค (β=0.335) แรงสนับสนุนทางสังคมจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข (β=0.258) การรับรู้ความสามารถตนเอง (β=0.355) การรับรู้ประโยชน์ของการป้องกันและรักษาโรค (β=-0.195) และแรงสนับสนุนทางสังคมจากครอบครัว (β=0.159) โดยตัวแปรทั้ง 5 สามารถร่วมพยากรณ์พฤติกรรมลดการบริโภคโซเดียม ได้ร้อยละ 48.7 2) รูปแบบการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อลดการบริโภคโซเดียม ในตำบลกะฮาด อำเภอเนินสง่า จังหวัดชัยภูมิ ได้แก่ โมเดล SAFE ประกอบด้วย (1) Self-efficacy ส่งเสริมการการรับรู้ความสามารถตนเอง (2) Awareness ส่งเสริมความตระหนักในการบริโภคโซเดียม (3) Family and team support การส่งเสริมแรงสนับสนุนจากครอบครัวและบุคลากรทางสาธารณสุข และ (4) Evaluation diet control and other การประเมินพฤติกรรมการบริโภคอาหารลดโซเดียมและอื่น ๆ หลังการทดลองใช้รูปแบบฯ พบว่า กลุ่มทดลอง มีค่าเฉลี่ยความรู้เกี่ยวกับการลดบริโภคโซเดียม ความเชื่อด้านสุขภาพเกี่ยวกับการลดบริโภคโซเดียม แรงสนับสนุนทางสังคมในการส่งเสริมพฤติกรรมลดการบริโภคโซเดียม พฤติกรรมลดการบริโภคโซเดียมสูงกว่าก่อนทดลอง และสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
ข้อเสนอแนะ: หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำรูปแบบที่พัฒนาขึ้นไปใช้ในการส่งเสริมพฤติกรรมลดการบริโภคโซเดียมให้กับประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้สามารถปฏิบัติพฤติกรรมได้อย่างต่อเนื่อง
เอกสารอ้างอิง
กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2566). แนวทางการดำเนินงานลดการบริโภคเกลือและโซเดียมระดับจังหวัด โครงการขับเคลื่อนการดำเนินงานเฝ้าระวังและลดการบริโภคเกลือและโซเดียมระดับจังหวัด ปี 2566. https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/1394120230302031321.pdf
กองโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2567). ANNUAL REPORT รายงานประจำปี 2567. https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/1668120250117072316.pdf
กาญจนา มณีทัพ และสมจิต แดนสีแก้ว. (2560). สถานการณ์การบริโภคเกลือของผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ตำบลทางขวาง อำเภอแวงน้อย จังหวัดขอนแก่น. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 35(4), 140-149.
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2567). จำนวนและอัตราตายด้วย 5 โรคไม่ติดต่อ ปี 2560-2564. https://www.ddc.moph.go.th/dncd/news.php?news=39911
ชลธิชา บุญศิริ และนงนุช วงศ์สว่าง. (2565). ผลของโปรแกรมส่งเสริมการบริโภคอาหารลดโซเดียมต่อความรู้ พฤติกรรมการบริโภคอาหารที่มีโซเดียมและปริมาณโซเดียมในปัสสาวะของประชาชน ตำบลคูบัว จังหวัดราชบุรี. วารสารพยาบาล, 71(3), 10-17.
ชลธิชา บุญศิริ, นพวรรณ เปียซื่อ, พรรณวดี พุธวัฒนะ และสุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ. (2560). ผลของโปรแกรมส่งเสริมการบริโภคอาหารลดโซเดียมต่อความรู้ และปริมาณโซเดียมในปัสสาวะของนักศึกษาพยาบาล.วารสารสภาการพยาบาล, 32(3), 105-119.
ณัฐธิวรรณ พันธ์มุง. (2562). การจัดทำยุทธศาสตร์การลดบริโภคเกลือและโซเดียม โดยกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย. วารสารวิชาการ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ, 15(1), 3-11.
ณัฐธิวรรณ พันธ์มุง, ขนิษฐา ศรีสวัสดิ์ และประภัสรา บุญทวี. (2563). การวิจัยทดลองการใช้ชุดมาตรการลดบริโภคเค็มในชุมชนต้นแบบ. วารสารวิชาการกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ, 16(3), 39-48.
ธัญญาภรณ์ เรืองสุวรรณ และพงค์เทพ สุธีรวุฒิ. (2567). การแปลงยุทธศาสตร์ลดการบริโภคเกลือและโซเดียมไปสู่การปฏิบัติระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรณีศึกษาเทศบาล ตำบลปริก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา. วารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น, 31(3), 170-180.
นวพร วุฒิธรรม, รัตนา ช้อนทอง และชุติญา สมประดิษฐ์. (2562). ผลของการเสริมสร้างการรับรู้สมรรถนะแห่งตนต่อการควบคุมระดับความดันโลหิตในกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง. วารสารพยาบาลทหารบก, 21(1), 309-318.
นิพิฐพนธ์ สนิทเหลือ, วัชรีพร สาตร์เพ็ชร์ และญาดา นภาอารักษ์. (2562). การคำนวณขนาดตัวอย่างด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป G*POWER. วารสารวิชาการ สถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ, 5(1),496-507.
ประทุม เมืองเป้. (2565). ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการบริโภคเกลือและโซเดียมของกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง อำเภอหนองไผ่จังหวัดเพชรบูรณ์ [วิทยานิพนธ์สาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยนเรศวร. https://nuir.lib.nu.ac.th/dspace/bitstream/123456789/5177/3/63062098.pdf
ประทุม เมืองเป้ และวุฒิชัย จริยา. (2566). ปัจจัยทำนายพฤติกรรมลดการบริโภคเกลือและโซเดียมของกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงอำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 32(1), 19-30.
มารดี ศิริพัฒน์. (2567). พัฒนารูปแบบการสร้างความตระหนักรู้และพฤติกรรมลดการบริโภคเกลือโซเดียมในประชาชนจังหวัดนครพนม. วารสารนวัตกรรมการศึกษาและการวิจัย, 8(1), 407-422.
ระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข. (2566). ประชากรทะเบียนราษฎร์จำแนกรายอายุและเพศ. https://hdc.moph.go.th/center/public/standard-report-detail/f83d0cd8b830706dab4cd3cb09afa584
ระบบคลังข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข. (2567). การป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อที่สำคัญ: อัตราป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูงต่อประชากร. https://hdc.moph.go.th/center/public/standard-report-detail/6b9af46d0cc1830d3bd34589c1081c68
วันวิสา เวชประสิทธิ์ และธีรดา จงกลรัตนาภรณ์. (2565). แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพในกลุ่มบุคคลวัยเกษียณและการสื่อสารรณรงค์ลดบริโภคเค็ม. วารสารการประชาสัมพันธ์และการโฆษณา, 15(1), 53-71.
วิเชียร สุวรรณามังกร. (2566). ประสิทธิผลของโปรแกรมลดการบริโภคอาหารที่มีเกลือและโซเดียมในเจ้าหน้าที่กลุ่มเสี่ยงโรงพยาบาลศรีสังวาลย์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน. วารสารสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น, 30(3), 140-148.
สุรางคนา แสงผล. (2566). การพัฒนารูปแบบการสร้างเสริมการรับรู้ต่อพฤติกรรมการบริโภคเกลือและโซเดียมสำหรับกลุ่มเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง เขตสุขภาพที่ 9. วารสารสุขภาพและสิ่งแวดล้อมศึกษา, 8(3), 635-647.
ศิรินทิพย์ ศาศวัตชวาลวงศ์. (2566). ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการบริโภคโซเดียมของประชาชน อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ [ปริญญามหาบัณฑิต]. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
อัมภากร หาญณรงค์, ชนัญชิดาดุษฎี ทูลศิริ และสมสมัย รัตนกรีฑากุล. (2560). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการบริโภคอาหารของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 25(3), 52-65.
Best, J. W. (1977). Research in education (3rd ed.). Prentice-Hall.
Bloom, B.S. (1964). Taxonomy of Education Objectives, Handbook 1: Cognitive Domain. New York : David Mekey.
Kemmis, S. and McTaggart, R. (1988). The Action Research Planer (3rd ed.). Victoria: Deakin University.
Rosenstock, I, Strecher J, & Becker H. (1988). Social leaning theory and the health belief model. Health Education Quarterly, 15(2), 175-183.
Wayne, W. D. (1995). Biostatistics: A foundation of analysis in the health sciences (6th ed.). New York: John Wiley & Sons.
World Health Organization. (2023). Hypertension. https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/hypertension
